ข้ามไปเนื้อหา

สวนลุกซ็องบูร์

พิกัด: 48°50′49″N 2°20′14″E / 48.84694°N 2.33722°E / 48.84694; 2.33722
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สวนลุกซ็องบูร์
พระราชวังลุกซ็องบูร์และสวน
สวนแห่งพระราชวังลุกซ็องบูร์ (หลังเล็ก)
สถานที่พักผ่อนหย่อนใจกลางกรุงปารีส
วิวจากด้านนอก

สวนลุกซ็องบูร์ (ฝรั่งเศส: Jardin du Luxembourg) เป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในกรุงปารีส โดยกินพื้นที่กว่า 224,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเขตที่ 6 โดยเป็นสวนที่อยู่ในเขตพื้นที่ของพระราชวังลุกซ็องบูร์ ซึ่งเป็นที่ทำการของวุฒิสภา

เวลาทำการของสวนจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละฤดู เวลาเปิดระหว่าง 07.00–08.15 น. และเวลาปิดระหว่าง 16.45–21.45 น.

ประวัติ

[แก้]

ประวัติของสวนได้เกิดในช่วง ค.ศ. 1611 จากพระราชเสาวนีย์ของมารี เดอ เมดีซิส สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส ที่ทรงต้องการสร้างพระราชวังใหม่ พร้อมสวน และน้ำพุที่ปัจจุบันยังคงอยู่ โดยมีพระราชประสงค์ให้ปลูกต้นไม้และออกแบบให้เหมือนราวกับสวนในเมืองฟลอเรนซ์ ที่เป็นบ้านเกิดของพระองค์ โดยมีผู้ออกแบบคือ ตอมมาโซ ฟรานชีนี่ ซึ่งได้ปลูกต้นเอล์ม กว่า 2,000 ต้น โดยมีระเบียง 2 บริเวณ ตกแต่งด้วยรั้วประดับ สวนเรขาคณิตอันวิจิตร พร้อมทั้งน้ำพุเมดิชี่ ที่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระราชวัง โดยในขณะนั้นยังไม่มีบ่อน้ำและรูปปั้นอย่างปัจจุบัน โดยแต่แรกสวนมีพื้นที่เพียง 80,000 ตารางเมตร

น้ำพุเมดิชี่ (1630, 1866

ใน ค.ศ. 1630 ได้มีการขยายพื้นที่เป็น 300,000 ตารางเมตร โดยได้ทรงมอบหมายให้ฌัก บัวโซ ผู้ออกแบบสวนแห่งพระราชวังตุยเลอรีและพระราชวังแวร์ซายเป็นผู้ออกแบบ โดยเขาได้เป็นผู้วางต้นแบบการจัดสวนแบบฝรั่งเศส โดยใช้รูปเรขาคณิต เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลาย ๆ ขนาด และปลูกพุ่มไม้และดอกไม้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวบริเวณด้านหน้าพระราชวัง ตรงกลางสวนเขาได้ออกแบบสระน้ำแปดเหลี่ยมพร้อมน้ำพุ

ในรัชสมัยต่อมาสวนแห่งนี้ได้ถูกปล่อยไม่ได้รับการดูแลจนกระทั่งเมื่อ ค.ศ. 1780 สวนฝั่งตะวันออกได้ถูกแบ่งขายโดยกงต์เดอพรอว็องส์ ว่าที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 และต่อมาภายหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส สวนแห่งนี้ได้ถูกขยายเป็น 400,000 ตารางเมตร โดยทำการเวนคืนจากที่ดินสำนักสงฆ์นิกายคาร์ธูเซียน โดยมีสถาปนิก ฌอง ชาลแกรง เป็นผู้รับผิดชอบการฟื้นฟูสวนขึ้นมาใหม่ โดยเขาได้ออกแบบน้ำพุเมดิชี่ขึ้นใหม่ และเก็บรักษาสวนเนอสเซอรี่ ไร่องุ่นของสำนักสงฆ์ไว้ โดยเขายังคงจัดสวนคงแบบฝรั่งเศสไว้เหมือนเดิมทั้งหมด

ช่วง ค.ศ. 1848 สวนแห่งนี้ได้กลายเป็นที่เก็บรูปปั้นต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งพระบรมรูปพระราชินีในอดีต รูปปั้นสตรี และอื่น ๆ อีกมาก โดยตั้งเรียงไว้รายรอบ และต่อมาใน ค.ศ. 1880-1890 ได้มีรูปปั้นที่เป็นอนุเสาวรีย์แก่นักเขียน และช่างศิลป์ต่าง ๆ รวมทั้งรูปจำลองขนาดเล็กของเทพีเสรีภาพอีกด้วย

แผนผังแสดงที่ตั้งพระบรมรูปของพระราชินี และสตรีต่าง ๆ

ในระหว่างปีที่ทำการเปลี่ยนแปลงกรุงปารีสครั้งใหญ่ในช่วง ค.ศ. 1865 ได้มีการตัดถนนผ่านเข้ามาในสวน ทำให้พื้นที่หายไปประมาณ 150,000 ตารางเมตร รวมถึงสวนเนอสเซอรี่ด้วย รวมถึงการย้ายสถานที่ตั้งของน้ำพุเมดิชี่ มาตั้งอยู่ ณ สถานที่ในปัจจุบัน และยังมีการสร้างรั้ว และประตูเหล็กดัดโดยรอบสวน

ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1800 สวนลุกซ็องบูร์ประกอบไปด้วยรูปปั้นกว่า 70 รูป โรงละครหุ่นกระบอก ลานดนตรี เรือนกระจกปลูกพืช โรงเลี้ยงผึ้ง สวนกุหลาบ สวนผลไม้ เรือนกระจกสำหรับปลูกส้มในฤดูหนาว ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นที่จัดแสดงรูปปั้น และศิลปะสมัยใหม่ จนถึง ค.ศ. 1930

ระเบียงภาพ

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]

ลิงก์เพิ่มเติม

[แก้]

48°50′49″N 2°20′14″E / 48.84694°N 2.33722°E / 48.84694; 2.33722