สวนลุกซ็องบูร์
สวนลุกซ็องบูร์ (ฝรั่งเศส: Jardin du Luxembourg) เป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในกรุงปารีส โดยกินพื้นที่กว่า 224,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเขตที่ 6 โดยเป็นสวนที่อยู่ในเขตพื้นที่ของพระราชวังลุกซ็องบูร์ ซึ่งเป็นที่ทำการของวุฒิสภา
เวลาทำการของสวนจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละฤดู เวลาเปิดระหว่าง 07.00–08.15 น. และเวลาปิดระหว่าง 16.45–21.45 น.
ประวัติ
[แก้]ประวัติของสวนได้เกิดในช่วง ค.ศ. 1611 จากพระราชเสาวนีย์ของมารี เดอ เมดีซิส สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส ที่ทรงต้องการสร้างพระราชวังใหม่ พร้อมสวน และน้ำพุที่ปัจจุบันยังคงอยู่ โดยมีพระราชประสงค์ให้ปลูกต้นไม้และออกแบบให้เหมือนราวกับสวนในเมืองฟลอเรนซ์ ที่เป็นบ้านเกิดของพระองค์ โดยมีผู้ออกแบบคือ ตอมมาโซ ฟรานชีนี่ ซึ่งได้ปลูกต้นเอล์ม กว่า 2,000 ต้น โดยมีระเบียง 2 บริเวณ ตกแต่งด้วยรั้วประดับ สวนเรขาคณิตอันวิจิตร พร้อมทั้งน้ำพุเมดิชี่ ที่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระราชวัง โดยในขณะนั้นยังไม่มีบ่อน้ำและรูปปั้นอย่างปัจจุบัน โดยแต่แรกสวนมีพื้นที่เพียง 80,000 ตารางเมตร
ใน ค.ศ. 1630 ได้มีการขยายพื้นที่เป็น 300,000 ตารางเมตร โดยได้ทรงมอบหมายให้ฌัก บัวโซ ผู้ออกแบบสวนแห่งพระราชวังตุยเลอรีและพระราชวังแวร์ซายเป็นผู้ออกแบบ โดยเขาได้เป็นผู้วางต้นแบบการจัดสวนแบบฝรั่งเศส โดยใช้รูปเรขาคณิต เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลาย ๆ ขนาด และปลูกพุ่มไม้และดอกไม้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวบริเวณด้านหน้าพระราชวัง ตรงกลางสวนเขาได้ออกแบบสระน้ำแปดเหลี่ยมพร้อมน้ำพุ
ในรัชสมัยต่อมาสวนแห่งนี้ได้ถูกปล่อยไม่ได้รับการดูแลจนกระทั่งเมื่อ ค.ศ. 1780 สวนฝั่งตะวันออกได้ถูกแบ่งขายโดยกงต์เดอพรอว็องส์ ว่าที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 และต่อมาภายหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส สวนแห่งนี้ได้ถูกขยายเป็น 400,000 ตารางเมตร โดยทำการเวนคืนจากที่ดินสำนักสงฆ์นิกายคาร์ธูเซียน โดยมีสถาปนิก ฌอง ชาลแกรง เป็นผู้รับผิดชอบการฟื้นฟูสวนขึ้นมาใหม่ โดยเขาได้ออกแบบน้ำพุเมดิชี่ขึ้นใหม่ และเก็บรักษาสวนเนอสเซอรี่ ไร่องุ่นของสำนักสงฆ์ไว้ โดยเขายังคงจัดสวนคงแบบฝรั่งเศสไว้เหมือนเดิมทั้งหมด
ช่วง ค.ศ. 1848 สวนแห่งนี้ได้กลายเป็นที่เก็บรูปปั้นต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งพระบรมรูปพระราชินีในอดีต รูปปั้นสตรี และอื่น ๆ อีกมาก โดยตั้งเรียงไว้รายรอบ และต่อมาใน ค.ศ. 1880-1890 ได้มีรูปปั้นที่เป็นอนุเสาวรีย์แก่นักเขียน และช่างศิลป์ต่าง ๆ รวมทั้งรูปจำลองขนาดเล็กของเทพีเสรีภาพอีกด้วย
ในระหว่างปีที่ทำการเปลี่ยนแปลงกรุงปารีสครั้งใหญ่ในช่วง ค.ศ. 1865 ได้มีการตัดถนนผ่านเข้ามาในสวน ทำให้พื้นที่หายไปประมาณ 150,000 ตารางเมตร รวมถึงสวนเนอสเซอรี่ด้วย รวมถึงการย้ายสถานที่ตั้งของน้ำพุเมดิชี่ มาตั้งอยู่ ณ สถานที่ในปัจจุบัน และยังมีการสร้างรั้ว และประตูเหล็กดัดโดยรอบสวน
ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1800 สวนลุกซ็องบูร์ประกอบไปด้วยรูปปั้นกว่า 70 รูป โรงละครหุ่นกระบอก ลานดนตรี เรือนกระจกปลูกพืช โรงเลี้ยงผึ้ง สวนกุหลาบ สวนผลไม้ เรือนกระจกสำหรับปลูกส้มในฤดูหนาว ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นที่จัดแสดงรูปปั้น และศิลปะสมัยใหม่ จนถึง ค.ศ. 1930
ระเบียงภาพ
[แก้]-
สวนด้านหน้าพระราชวัง
-
ภาพปริทัศน์
-
น้ำพุ Marie de Médicis
-
Borders of annuals in August
-
น้ำพุ (Fontaine de l'Observatoire) บริเวณทิศใต้สุดของสวน
-
แบบต้นฉบับ (ย่อ) ของเทพีเสรีภาพ
-
สระน้ำด้านหน้าอาคารพระราชวัง
อ้างอิง
[แก้]ลิงก์เพิ่มเติม
[แก้]- The Luxembourg Gardens page at the Project for Public Spaces
- The Jardin du Luxembourg - Current and old photographs of the garden, statues, fountains
- Detailed map with sculptures เก็บถาวร 2009-02-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Luxembourg Gardens at Twilight เก็บถาวร 2011-05-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - One of a series of paintings featuring the gardens by American (b. Italy) artist John Singer Sargent
- Webpages about the Garden (ฝรั่งเศส)