ข้ามไปเนื้อหา

วงศ์ปลาหางแข็ง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วงศ์ปลาหางแข็ง
ปลากะมงพร้าว (Caranx ignobilis) เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์นี้ที่พบได้ในเขตน่านน้ำไทย
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Actinopterygii
อันดับ: Perciformes
อันดับย่อย: Percoidei
วงศ์ใหญ่: Percoidea
วงศ์: Carangidae
สกุล
ชื่อพ้อง
  • Apolectidae

วงศ์ปลาหางแข็ง (อังกฤษ: Jacks, Pompanos, Horse mackerels, Scads, Trevallies, Crevallies, Tunas) เป็นวงศ์ของปลาทะเลกระดูกแข็งวงศ์หนึ่ง ในอันดับปลากะพง (Perciformes) ใช้ชื่อวงศ์ว่า Carangidae

มีรูปร่างลำตัวสั้นหรือค่อนข้างสั้น คอดหางเรียว มีเกล็ดขนาดเล็กแบบราบเรียบ เส้นข้างลำตัวสมบูรณ์ มีเกล็ดแปรรูปขนาดใหญ่ที่บริเวณเส้นข้างลำตัว โดยเฉพาะบริเวณข้อหางเสมือนเกราะ อันเป็นที่มาของชื่อเรียก[1] ส่วนหน้าโค้งงอ ส่วนท้ายอาจมีหรือไม่มีสันกระดูกแข็ง ส่วนใหญ่มีซี่กรองเหงือกยาวเรียวครีบหลังมีสองตอนแยกจากกัน ครีบแรกมีเงี่ยงไม่แข็ง บริเวณหน้าครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2 อัน แยกออกมาจากครีบก้น ซึ่งสามารถพับได้ ครีบอกยาวเรียวโค้งแบบรูปเคียว ครีบหางเว้าลึกแบบส้อม

พบกระจายพันธุ์ในมหาสมุทรแปซิฟิก, แอตแลนติก และมหาสมุทรอินเดีย ปลาขนาดเล็กจะอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่ง หรือตามแหล่งน้ำจืดหรือน้ำกร่อยใกล้ทะเล เช่น ปากแม่น้ำ, ชะวากทะเล เป็นปลากินเนื้อเป็นอาหาร มีพฤติกรรมอยู่เป็นฝูงขนาดใหญ่ มีขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 25-100 เซนติเมตร ชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ 2 เมตร

แบ่งออกเป็น 30 สกุล ประมาณ 151 ชนิด[2]

จัดเป็นปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอย่างมากวงศ์หนึ่ง โดยมีการนำไปบริโภคทั้งสด และแปรรูปเป็น ปลากระป๋อง (โดยเฉพาะใช้แทนปลาในวงศ์ปลาหลังเขียว (Clupeidae), ปลาเค็ม เป็นต้น [3]

ในน่านน้ำไทย มีหลายชนิด โดยชนิดที่สำคัญ ๆ และเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ ปลาสำลี (Seriolina nigrofasciata), ปลาหางแข็ง (Megalaspis cordyla), ปลาหางแข็งบั้ง (Atule mate), ปลาข้างเหลือง (Selaroides leptolepis), ปลากะมง (Caranx sp.), ปลาโฉมงาม (Alectis sp.) และปลาจะละเม็ดดำ (Parastromateus niger) เป็นต้น[4] [5]

อ้างอิง

[แก้]
  1. อภินันท์ สุวรรณรักษ์ ผศ., ล่องแม่แตง ตอน 2 : ทดสอบความอดทน นิตยสาร Aquarium Biz หน้า 124 ปีที่ 2 ฉบับที่ 16: ตุลาคม 2011
  2. "Carangidae". ระบบข้อมูลการจำแนกพันธุ์แบบบูรณาการ.
  3. แฉปลาป๋องมั่วนิ่มปลาทูแทนซาร์ดีน
  4. "มีนวิทยา". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-03. สืบค้นเมื่อ 2012-03-06.
  5. [https://web.archive.org/web/20111008161602/http://rirs3.royin.go.th/new-search/word-40-search.asp เก็บถาวร 2011-10-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สีกุน น. จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]