ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การบันทึกเสียง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ประวัติการบันทึกเสียง |
ย้อนการแก้ไขที่ 8546847 สร้างโดย Pitsanunongluk (พูดคุย) ป้ายระบุ: ทำกลับ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
'''ประวัติศาสตร์การบันทึกเสียง''' |
|||
'''1877 Phonograph''' |
|||
โทมัส เอดิสัน (Thomas Adison) ประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงเครื่องแรก โดยใช้หัวเข็ม 2 เข็มบนแท่งดีบุกทรงกระบอก เข็มหนึ่งสำหรับการบันทึกและอีกเข็มสำหรับการเปิดฟัง คำแรกที่บันทึกคือ “Mary had a little lamb”. |
|||
'''1886''' '''Graphaphone''' |
|||
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) ชิเชสเตอร์ เบลล์ (Chichester Bell) และ ชาร์ลส์ เทนเทอร์ (Charles Tainter) ประดิษฐ์ Graphaphone ซึ่งดัดแปลงมาจาก Phonograph โดยเปลี่ยนแท่งกระบอกดีบุก เป็นกระบอกกระดาษเคลือบขี้ผึ้ง เพื่อการใช้งานง่ายยิ่งขึ้น |
|||
'''1887 Gramophone''' |
|||
อีมิล เบอร์ไลเนอร์ (Emile Berliner) เริ่มบันทึกเสียงบนแผ่นเสียงที่ทำจากครั่ง โดยบันทึกร่องเสียงลงไปในแนวนอนแทนแนวตั้งแบบแท่งทรงกระบอก และเริ่มคิดค้นการผลิตเป็นอุตสาหกรรม |
|||
'''1948 Vinyl''' |
|||
แผ่นเสียงไวนิลเริ่มครองตลาด เพราะทนและยืดหยุ่นกว่าแผ่นครั่ง บันทึกเสียงได้มากกว่า แถมมีเสียงรบกวนน้อยกว่า น้ำหนักเบากว่า |
|||
'''1954''' '''Stereo''' |
|||
มีการทำเครื่องบันทึกเสียงสเตอริโอที่สามารถแยกเสียงซ้ายขวา เพิ่มมิติในการฟัง แผ่นเสียงสเตอริโอเข้ามาแทนที่การบันทึกเสียงแบบโมโนที่มีเสียงเป็นก้อน ๆ อันเดียว |
|||
'''1962 Cassette Tapes''' |
|||
การบันทึกเสียงบนแถบแม่เหล็กได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถพกพาได้ ใช้กับรถยนต์และ “Sony Walkman” เครื่องเล่นเทปแบบพกพายอดฮิตในยุคนั้น |
|||
'''1982''' '''CD''' |
|||
Sony และ Philips แนะนำ Compact Disc สู่ตลาด ซีดีกลายเป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลดิจิทัลได้หลายประเภท |
|||
'''1996''' '''DVD''' |
|||
Digital Video Disc หรือ Digital Versatile Disc จุข้อมูลได้มากกว่า CD หลายเท่าตัว |
|||
'''1998 MP3''' |
|||
สามารถบีบอัดไฟล์เสียงให้มีขนาดเล็ก และส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ |
|||
'''2001''' '''iPod''' |
|||
Apple วางตลาดเครื่องเล่น MP3 แบบพกพาพร้อมความจุมหาศาล ภายใต้ชื่อ iPod |
|||
'''การบันทึกเสียง''' |
'''การบันทึกเสียง''' |
||
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 23:59, 25 กุมภาพันธ์ 2563
การบันทึกเสียง
เบื้องต้นจะต้องมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ เช่น
- Mixer
- CD Player
- Minidisc Recordable
- Cassette Tape
- Amplifier
- Turntable
- Microphone
- Speaker
- Computer and Recording Software เป็นต้น
การบันทึกเสียงจะต้องใช้ห้องบันทึกเสียงที่มีการออกแบบเฉพาะการบันทึกเสียง โดยมีการออกแบบให้เก็บเสียงไม่ให้เสียงสะท้อน และไม่ให้เสียงจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาได้ เรียกว่าระบบ Acoustic คือให้มีความเป็นธรรมชาติของเสียงมากที่สุด โดยอาจจะบุผนังด้วยวัสดุซับเสียงที่มีความอ่อนนุ่ม เช่น ผนังกระดานชานอ้อย ฟองน้ำที่ออกแบบเฉพาะใช้ในการบุผนังห้องบันทึกเสียง หรือ รังใส่ใข่
ห้องบันทึกเสียงโดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนควบคุมคือห้องที่รวบรวมอุปกรณ์ในการบันทึกเสียง และห้องผู้ประกาศ คือห้องที่จะมีเพียงไมโครโฟนหรือเครื่องดนตรีที่ต้องการจะบันทึกเท่านั้น โดยจะมีสายสัญญาณต่อพ่วงไปยังห้องควบคุมที่จะมีผนังกั้นแต่จะมีกระจกตรงกลางเพื่อให้มองเห็นการบันทึกเสียงของผู้ประกาศ