ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 66: | บรรทัด 66: | ||
|3= 3. หม่อมยิ้ม มนตรีกุล ณ อยุธยา (สิริวันต์) |
|3= 3. หม่อมยิ้ม มนตรีกุล ณ อยุธยา (สิริวันต์) |
||
|4= 4. หม่อมเจ้าแบน มนตรีกุล |
|4= 4. หม่อมเจ้าแบน มนตรีกุล |
||
|8= 8. [[พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุ้ย กรมหลวงพิทักษ์มนตรี]] |
|8= 8. [[สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุ้ย กรมหลวงพิทักษ์มนตรี]] |
||
|16= 16. [[เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน]] |
|16= 16. [[เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน]] |
||
|17= 17. [[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์]] |
|17= 17. [[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:50, 27 มิถุนายน 2560
หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ | |
---|---|
เกิด | 10 กันยายน พ.ศ. 2417 |
เสียชีวิต | 27 มกราคม พ.ศ. 2517 (อายุ 99 ปี) |
คู่สมรส | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ |
บุตร | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ หม่อมเจ้าศิวากร วรวรรณ |
บิดามารดา |
|
หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ เป็นหม่อมในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 1 (ม.ป.ร.1)
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1 (ว.ป.ร.1)
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 1 (อ.ป.ร.1)
ประวัติ
หม่อมต่วนศรี วรวรรณ เป็นชาวบางกอกใหญ่ ธนบุรี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ปีจอ ตรงกับวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2417[1] ในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นธิดาของหม่อมราชวงศ์ตาบ มนตรีกุล มารดาชื่อยิ้ม (สกุลเดิมศิริวันต์) สายราชสกุลมนตรีกุล ของหม่อมหลวงต่วนศรี เป็นสายที่มีความสามารถสูงในเชิงละครมาตั้งแต่พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุ้ย กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ผู้เป็นต้นราชสกุลนี้
หม่อมต่วนศรี วรวรรณ มีศักดิ์เป็นพระมาตุจฉา(ป้า) ของ หม่อมราชวงค์ สนอง มนตรีกุล ณ อยุธยา
หม่อมเจ้าแบน มนตรีกุล และ หม่อมราชวงศ์ตาบ มนตรีกุล ซึ่งเป็นท่านปู่และท่านพ่อของหม่อมหลวงต่วนศรี ก็มีความรู้ความสามารถและสนใจปลูกฝังวิชาการละครตกทอดมาตามลำดับจนถึงหม่อมหลวงต่วนศรี ท่านจึงรอบรู้ทั้งในกระบวนรำและดนตรีตลอดจนการขับร้อง โดยเฉพาะจะเข้นั้นหม่อมหลวงต่วนศรี เล่นได้ดีมาก เมื่อท่านได้มาเป็นหม่อมของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์นั้น ท่านได้เป็นศิษย์ของเจ้าจอมมารดาเขียน ในรัชกาลที่ 4 ซึงเป็นพระมารดาของกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ เจ้าจอมมารดาเขียนก็เป็นตัวละครเอกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นตัวเอก (เรียกกันเป็นสมญาว่า เขียนอิเหนา เขียนสังคามารตา) จึงได้มรดกการร่ายรำและเพลงการ ตกทอดมาอีกเป็นอันมาก ความรู้ของหม่อมหลวงต่วนศรี จึงมีอุดมสมบูรณ์ในเชิงละครทุกประการ
เมื่อกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงตั้งคณะละครนฤมิตรขึ้น ท่านก็เป็นกำลังสำคัญในการแต่งเพลงในละครร้องทุกเรื่อง บทละครนั้น กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ทรงนิพนธ์อย่างรวดเร็วและท่านก็บรรจุเพลงได้อย่างรวดเร็วทันท่วงทีด้วย เรียกว่าไวกันกันทั้งคู่ วิธีการนั้นคือ ท่านจะเป็นผู้ดีดจะเข้และร้องเพลงไปพร้อมกัน รวมทั้งคิดท่ารำตีบทให้เสร็จที่ขั้นชื่อมากคือเรื่องพระลอ ละครเรื่องแรกที่ท่านมีส่วนช่วยเหลือมากคือเรื่องอาหรับราตรี ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นละครหลวงนฤมิตร จนเมื่อเกิดเป็นโรงละครปรีดาลัยขึ้น ก็เรียกละครปรีดาลัย เพลงต่างๆ ในเรื่อง สาวเครือฟ้า ตุ๊กตายอดรัก พระเจ้าสีป๊อมินทร์ ขวดแก้วเจียรนัย ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของท่านทั้งสิ้น ความเป็นอัจฉริยะทางดนตรีของท่านเห็นได้จากการแต่งเพลงและบรรจุเพลงลงในละครแต่ละเรื่อง เพราะปรากฏว่า ท่านแต่งเพลงเร็วมากและมีลูกเล่นยักเยื้องแพรวพราว เพลงสำเนียงลาวต่างๆ ที่ท่านนำมาบรรจุลงในละครเรื่องพระลอนั้น จริงอยู่ของเก่าก็มีอยู่บ้างแล้วเหมือนกัน แต่ท่านสามารถเปลี่ยนทำนองจนเกิดเป็นเพลงแนวใหม่ขึ้นได้อย่างฉับไว คุณสมบัติข้อนี้จะเห็นได้จากละครเรื่องพระเจ้าสิป๊อมินทร์ อีกเรื่องหนึ่ง เพราะท่านให้กำเนิดเพลงสำเนียงพม่าขึ้นมาใหม่ มีชื่อแปลกๆถึงกว่า 50 เพลง อาทิ พม่าพ้อ พม่าวอน พม่าพิโรธ พม่าตังคียก พม่าพรึม พม่าเหเฮ พม่าละห้อย ฯลฯ มากมายสุดจะพรรณนา ท่านมีอายุยืนมาก และความจำดีจนวาระสุดท้ายเมื่อท่านอายุเกิน 90 ปี ยังนั่งดูละครโทรศัน์ของกรมศิลปากรบ่อยๆ ท่านสามารถติชมวิจารณ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะถ้าเล่าเรื่องพระลอ แล้ว ท่านจะตั้งใจดูเป็นพิเศษ ถ้าเห็นผิดไปจากแนวเดิมของท่านก็แสดงความขุ่นข้องในใจทุกคราวไป[2]
ท่านถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจวาย เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2517 รวมอายุได้ 99 ปี 4 เดือน
โอรส/ธิดา
หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณมีโอรส/ธิดากับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ 2 พระองค์ ได้แก่
- ศาสตราจารย์ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ (25 สิงหาคม 2434 - 5 กันยายน 2519) พระนามเดิม หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ, องคมนตรีในรัชกาลที่ 6, อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรองนายกรัฐมนตรี ทรงเสกสมรสกับ หม่อมเจ้าหญิงพิบูลย์เบญจางค์ กิติยากร และ หม่อมสร้อยสุพิณ บุนนาค (2436-2525) มีธิดากับหม่อมสร้อยสุพิณ 1 ท่าน คือ ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร (นามเดิม หม่อมราชวงศ์วิวรรณ วรวรรณ, สมรสกับ นายจิตริก เศรษฐบุตร อดีตเอกอัครราชทูต)
- หม่อมเจ้าศิวากร วรวรรณ (20 มีนาคม 2439-5 มีนาคม 2503) อดีตอาจารย์เตรียมแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , อดีตเลขานุการสถานทูตไทยประจำกรุงลอนดอน, ครูโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, ครูใหญ่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย และ ครูใหญ่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา ไม่มีทายาทเนื่องจากครองความเป็นโสดจนกระทั่งสิ้นชีพตักษัย
พระราชตระกูล
16. เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน | ||||||||||||||||
8. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุ้ย กรมหลวงพิทักษ์มนตรี | ||||||||||||||||
17. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์ | ||||||||||||||||
4. หม่อมเจ้าแบน มนตรีกุล | ||||||||||||||||
2. หม่อมราชวงศ์ตาบ มนตรีกุล | ||||||||||||||||
1. หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ | ||||||||||||||||
3. หม่อมยิ้ม มนตรีกุล ณ อยุธยา (สิริวันต์) | ||||||||||||||||
อ้างอิง
- ↑ ประวัติศาสตร์ควรบันทึกไว้ สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี องค์บูรณะปฏิสังขรณ์วัดสัมพันธวงศ์. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556
- ↑ ต่วนศรี วรวรรณ, หม่อมหลวง (พ.ศ. 2417-2517). สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556