ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความพิการทางการเรียน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Syum90 (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขของ 27.55.158.190 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Horus
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{Infobox disease|
Name = ความพิการทางการเรียน |
Image = |
Caption = |
DiseasesDB = 4509 |
ICD10 = {{ICD10|F|81|9|f|80}} |
ICD9 = {{ICD9|315.0}}-{{ICD9|315.3}} |
ICDO = |
OMIM = |
MedlinePlus = |
eMedicineSubj = article |
eMedicineTopic = 1835801 |
eMedicine_mult = {{eMedicine2|article|1835883}} {{eMedicine2|article|915176}} |
MeshID = D007859 |
}}
'''ความพิการทางการเรียน''' ({{lang-en|learning disability}}) เป็นการจำแนกซึ่งรวมการทำหน้าที่หลายบริเวณซึ่งบุคคล[[การเรียน|เรียน]]ในลักษณะปกติได้ยาก ปกติไม่ทราบว่าเกิดจากปัจจัยใด
'''ความพิการทางการเรียน''' ({{lang-en|learning disability}}) เป็นการจำแนกซึ่งรวมการทำหน้าที่หลายบริเวณซึ่งบุคคล[[การเรียน|เรียน]]ในลักษณะปกติได้ยาก ปกติไม่ทราบว่าเกิดจากปัจจัยใด



รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:51, 12 พฤษภาคม 2558

ความพิการทางการเรียน
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก
ICD-10F81.9
ICD-9315.0-315.3
DiseasesDB4509
eMedicinearticle/1835801 article/1835883 article/915176
MeSHD007859

ความพิการทางการเรียน (อังกฤษ: learning disability) เป็นการจำแนกซึ่งรวมการทำหน้าที่หลายบริเวณซึ่งบุคคลเรียนในลักษณะปกติได้ยาก ปกติไม่ทราบว่าเกิดจากปัจจัยใด

ปัจจัยที่ไม่ทราบ คือ ความผิดปกติซึ่งมีผลต่อความสามารถรับและประมวลสารสนเทศของสมอง ความผิดปกตินี้อาจเป็นปัญหาแก่บุคคลในการเรียนเร็วเท่าหรือวิธีเดียวกับผู้ที่ไม่ได้รับผลจากความพิการทางการเรียน บุคคลที่มีความพิการทางการเรียนมีปัญหาในการดำเนินทักษะบางอย่างหรือทำภารกิจให้สำเร็จหากปล่อยให้หาวิธีการเองหรือสอนในวิธีอนุรักษ์

ปัจเจกบุคคลที่มีความพิการทางการเรียนสามารถเผชิญความท้าทายเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งมักแพร่หลายตลอดอายุขัย ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของความพิการ อาจใช้การรักษาและเทคโนโลยีปัจจุบันช่วยให้ปัจเจกบุคคลเรียนยุทธศาสตร์ซึ่งจะส่งเสริมความสำเร็จในอนาคต การรักษาบางอย่างค่อนข้างเรียบง่าย ขณะที่บางอย่างซับซ้อนยุ่งยาก เทคโนโลยีปัจจุบันอาจต้องอาศัยการฝึกนักเรียนให้เป็นการสนับสนุนห้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ครู บิดามารดาและโรงเรียนสามารถสร้างแผนร่วมกันซึ่งปรับการรักษาและการปรับตัวให้เหมาะเพื่อช่วยปัจเจกบุคคลให้กลายเป็นผู้เรียนอิสระสำเร็จ นักจิตวิทยาโรงเรียนและวิชาชีพมีคุณสมบัติอื่นมักช่วยออกแบบการรักษาและการประสานการดำเนินการรักษากับครูและบิดามารดา การสนับสนุนทางสังคมอาจพัฒนาการเรียนแก่นักเรียนที่มีความพิการทางการเรียน