ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอิตซี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Mann vom Hauslabjoch (Museum Bélesta).jpg|thumb|200px|หุ่นจำลองเลียนแบบเอิตซี]]
'''เอิตซี''' ({{lang-de|Ötzi}}) เป็น[[มัมมี่]]ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ของชายซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีมาแล้ว ร่างดังกล่าวได้รับการค้นพบโดยนักปีนเขาชาวเยอรมันสองคนในธารน้ำแข็งชนัลสตัล, เอิตซทัลแอลป์ ใกล้กับเฮาสลับยอค บนพรมแดนระหว่าง[[ออสเตรีย]]และ[[อิตาลี]] เอิตซีเป็นมัมมีมนุษย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดใน[[ทวีปยุโรป]] และได้ให้ภาพใหม่เกี่ยวกับชาวยุโรป[[ยุคสำริด]]
'''เอิตซี''' ({{lang-de|Ötzi}}) เป็น[[มัมมี่]]ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ของชายซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีมาแล้ว ร่างดังกล่าวได้รับการค้นพบโดยนักปีนเขาชาวเยอรมันสองคนในธารน้ำแข็งชนัลสตัล, เอิตซทัลแอลป์ ใกล้กับเฮาสลับยอค บนพรมแดนระหว่าง[[ออสเตรีย]]และ[[อิตาลี]] เอิตซีเป็นมัมมีมนุษย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดใน[[ทวีปยุโรป]] และได้ให้ภาพใหม่เกี่ยวกับชาวยุโรป[[ยุคสำริด]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:35, 5 มีนาคม 2554

ไฟล์:Mann vom Hauslabjoch (Museum Bélesta).jpg
หุ่นจำลองเลียนแบบเอิตซี

เอิตซี (เยอรมัน: Ötzi) เป็นมัมมี่ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ของชายซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีมาแล้ว ร่างดังกล่าวได้รับการค้นพบโดยนักปีนเขาชาวเยอรมันสองคนในธารน้ำแข็งชนัลสตัล, เอิตซทัลแอลป์ ใกล้กับเฮาสลับยอค บนพรมแดนระหว่างออสเตรียและอิตาลี เอิตซีเป็นมัมมีมนุษย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป และได้ให้ภาพใหม่เกี่ยวกับชาวยุโรปยุคสำริด

ได้มีกรณีพิพาททางการทูตเล็กน้อยระหว่างออสเตรียและอิตาลีว่าประเทศใดจะเป็นเจ้าของร่างดังกล่าว ปัจจุบัน ร่างของเขาและทรัพย์สินถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์โบราณคดีเซาท์ไทรอลในบอลซาโนในไทรอลใต้

นอกจากนี้ ยังมีการต่อสู้ทางกฎหมายยืดเยื้อยาวนานโดยผู้ค้นพบ เฮลมุทและเอริกา ไซมอน สำหรับรางวัลตอบแทนที่เหมาะสม หลังจากคำพิพากษาหลายศาล รัฐบาลท้องถิ่นตกลงที่จะจ่ายเงิน 150,000 ยูโร ให้กับเอริกา ไซมอน 17 ปีหลังจากที่ทั้งสองค้นพบร่าง และสามีของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว

สาเหตุการเสียชีวิต

เมื่อ พ.ศ. 2544 การตรวจสอบด้วยรังสีเอกซ์และซีทีสแกนพบว่า เอิตซีมีหัวธนูฝังอยู่ในหัวไหล่ซ้ายเมื่อเขาเสียชีวิต และรอยฉีกขนาดเล็กที่เข้ากันบนเสื้อโค้ตของเขา การค้นพบหัวธนูนำให้นักวิจัยคิดว่าเอิตซีเสียชีวิตเพราะเสียเลือดจากบาดแผล ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตแม้ว่าจะมีวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ก็ตาม

การวิจัยต่อไปค้นพบว่าด้ามธนูได้ถูกนำออกไปก่อนที่จะเสียชีวิต และการตรวจสอบร่างอย่างใกล้ชิดได้พบรอยฟกช้ำและรอยบาดบริเวณมือ ข้อมือและหน้าอก หนึ่งในรอยบาดนั้นอยู่ที่โคนนิ้วหัวแม่มือซึ่งลึกลงไปจนถึงกระดูกแต่ไม่มีเวลาที่จะรักษาก่อนหน้าเขาเสียชีวิต

ในปัจจุบัน เป็นที่เชื่อกันว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากการโจมตีเข้าที่ศีรษะ นักวิจัยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการสะดุดล้ม หรือจากการถูกตีด้วยก้อนหินจากคนอื่น