ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กฎของโลปีตาล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
NongBot (คุย | ส่วนร่วม)
robot Adding: da Modifying: zh
Pech (คุย | ส่วนร่วม)
ยกโครงไว้ข้างล่าง
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{โครงคณิตศาสตร์}}

ใน[[แคลคูลัส]] '''หลักเกณฑ์โลปีตาล''' (l'Hôpital's rule) ใช้[[อนุพันธ์]]เพื่อช่วยในการคำนวณ[[ลิมิต (คณิตศาสตร์)|ลิมิต]]ที่อยู่ใน[[รูปแบบยังไม่กำหนด]] (indeterminate forms) หลักเกณฑ์นี้มักนำมาใช้ในการเปลี่ยนรูปแบบยังไม่กำหนด เป็นรูปแบบกำหนด เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณลิมิต
ใน[[แคลคูลัส]] '''หลักเกณฑ์โลปีตาล''' (l'Hôpital's rule) ใช้[[อนุพันธ์]]เพื่อช่วยในการคำนวณ[[ลิมิต (คณิตศาสตร์)|ลิมิต]]ที่อยู่ใน[[รูปแบบยังไม่กำหนด]] (indeterminate forms) หลักเกณฑ์นี้มักนำมาใช้ในการเปลี่ยนรูปแบบยังไม่กำหนด เป็นรูปแบบกำหนด เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณลิมิต


บรรทัด 23: บรรทัด 21:
โปรดสังเกตเงื่อนไขที่ว่าลิมิต ''f''′/''g''′ มีอยู่จริง บางครั้งการหาอนุพันธ์อาจได้ผลลัพท์ที่หาลิมิตไม่ได้ในกรณีนี้หลักเกณฑ์โลปีตาลไม่ครอบครุม
โปรดสังเกตเงื่อนไขที่ว่าลิมิต ''f''′/''g''′ มีอยู่จริง บางครั้งการหาอนุพันธ์อาจได้ผลลัพท์ที่หาลิมิตไม่ได้ในกรณีนี้หลักเกณฑ์โลปีตาลไม่ครอบครุม


{{โครงคณิตศาสตร์}}
[[Category:แคลคูลัส]]
[[Category:แคลคูลัส]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:33, 9 พฤษภาคม 2549

ในแคลคูลัส หลักเกณฑ์โลปีตาล (l'Hôpital's rule) ใช้อนุพันธ์เพื่อช่วยในการคำนวณลิมิตที่อยู่ในรูปแบบยังไม่กำหนด (indeterminate forms) หลักเกณฑ์นี้มักนำมาใช้ในการเปลี่ยนรูปแบบยังไม่กำหนด เป็นรูปแบบกำหนด เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณลิมิต

ภาพรวม

เมื่อต้องการหาค่าลิมิตของผลหาร f(x)/g(x) ซึ่งทั้งตัวเศษและตัวส่วนมีค่าเข้าใกล้ 0 หรือ ตัวส่วนมีค่าเข้าใกล้อนันต์ หลักเกณฑ์โลปีตาล กล่าวว่า การหาอนุพันธ์ของตัวเศษและตัวส่วน จะไม่ทำให้ลิมิตเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม เรามักนิยมแปลงผลหารให้อยู่ในรูปแบบกำหนด เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณ

หรือกล่าวว่า ถ้า และ

แล้ว

โปรดสังเกตเงื่อนไขที่ว่าลิมิต f′/g′ มีอยู่จริง บางครั้งการหาอนุพันธ์อาจได้ผลลัพท์ที่หาลิมิตไม่ได้ในกรณีนี้หลักเกณฑ์โลปีตาลไม่ครอบครุม