พาโลม่า พิแคสโซ่

พาโลม่า พิแคสโซ่
เกิด	Anne Paloma Ruiz-Picasso y Gilot (1949-04-19) เมษายน 19, 1949 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
อาชีพ	การออกแบบแฟชั่น, jewellery designer, businesswoman socialite and style icon
คู่สมรส	Rafael Lopez-Cambil (1978-1998) Eric Thévenet 1999-
บุพการี	ปาโบล ปีกัสโซ and Françoise Gilot
ญาติ	Claude Picasso (brother), Maya Widmaier-Picasso, half-sister, Paulo Picasso, half-brother, and another half-sister, Aurelia, from her mother's relationship with artist Luc Simon.

พาโลม่า พิแคสโซ่ (เกิดขึ้นมาจาก แอน พาโลม่า รูอิซ และ พิแคสโซ่ วาย จิลอท ณ ปารีส เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2492) เธอเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศสและทำธุรกิจซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทางด้านการออกแบบเครื่องประดับในนาม ทิฟฟานี่ แอนด์ โค และธุรกิจน้ำหอมในนามชื่อของเธอเอง เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของศิลปินผู้โด่งดังในสมัยศตวรรษที่20 ชื่อว่า พาโบล พแคสโซ่ และฟรองซ์ซัว จิลอท นักเขียนและนักวาดภาพ พี่ชายคนโตพ่อแม่เดียวกันมีชื่อว่า กลอด พิแคสโซ่ (เกิดเมื่อ พ.ศ. 2490) เธอมีพี่ชายต่างมารดาชื่อ พอลโล่ พิแคสโซ่ (พ.ศ. 2464-2518) มีพี่สาวต่างมารดาชื่อเมย่า (เกิดเมื่อ พ.ศ. 2478) และมีน้องสาวต่างบิดาชื่อ ออเรเลีย (เกิดเมื่อพ.ศ. 2499) ซึ่งพ่อของออเรเลียเป็นศิลปินที่ชื่อว่า ลุค ไซมอน

พาโลม่า ในภาษาสเปน หมายถึง “นกพิราบ” พาโลม่า พิแคสโซ่ ถูกใช้นำมาเป็นชื่อในผลงานต่างๆของพ่อเธอ อาทิ นกพิราบกับผลส้ม และนกพิราบสีน้ำเงิน

อาชีพ

อาชีพการทำเครื่องประดับของพาโลม่า พิแคสโซ่ เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2511 เมื่อครั้งที่เธอเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าในกรุงปารีส สร้อยคอหินจากแม่น้ำไนล์บางชิ้น เธอก็ได้ออกแบบมาจากหินที่ถูกซื้อมาจากตลาดนัด ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับความชื่นชมว่าเป็นผลงานที่เกิดจากความตั้งใจโดยเหล่านักวิจารณ์ นับว่าเป็นผลงานแรกๆที่ประสบความสำเร็จจนได้รับการจดเป็นหลักสูตรในด้านการออกแบบเครื่องประดับ หนึ่งปีต่อมา พิแคสโซ่ ได้นำเสนอผลงานชิ้นแรกให้กับเพื่อนของเธอ ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง อีฟ แซง ลอเรน ซึ่งได้ตัดสินให้ผลงานการออกแบบเครื่องประดับของเธอเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นของเขา และในปี พ.ศ. 2514 เธอก็ได้ทำงานที่บริษัทเครื่องประดับและอัญมณีของกรีกที่ชื่อว่า โซโลตัส

ในปี พ.ศ. 2523 พิแคสโซ่ ได้ออกแบบเครื่องประดับในนาม ทิฟฟานี่ แอนด์ โค ของนิวยอร์ก และในปีพ.ศ. 2527 เธอก็ได้เริ่มหันมาทดลองออกแบบเรื่องของเครื่องหอม โดยได้สร้างสรรค์น้ำหอมในนาม “พาโลม่า” ให้กับ ลอรีอัล ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ นิวยอร์กโพสต์ ได้ขนานนามให้พิแคสโซ่เป็น “ผู้หญิงแกร่งที่มีความเป็นตัวของตัวเอง” รวมไปถึงการทำเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิว ทั้งบอดี้โลชั่น, แป้ง, ครีมอาบน้ำ และสบู่ ซึ่งก็ถูกผลิตออกมาในปีเดียวกันนั่นเอง

พิพิธภัณฑ์ชื่อดังในอเมริกา 2 แห่ง ได้ว่าจ้าง พิแคสโซ่ ให้มาร่วมงานเพื่อออกแบบคอลเลคชั่นซึ่งได้ตั้งแสดงอยู่ถาวร นั่นก็คือที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสถาบันสมิธโซเนี่ยล ซึ่งเป็นสร้อยคอที่ทำจากพลอยคุนไซต์ สีชมพูม่วงขนาด 396.30 กะรัต และผู้เข้าชมที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในเมืองชิคาโก้ ก็สามารถชมผลงานการออกแบบสร้อยข้อมือมูนสโตนขนาด 408.63 กะรัตที่ถูกประดับด้วยเพชรรูปสายฟ้าฟาด

ในปี พ.ศ. 2531 พิแคสโซ่ ได้ถูกยกย่องจากบรรดาเหล่าแฟชั่นนิสต้า เดอะ แฟชั่น กรุ้ป ให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีอิทธิพลสูงสุดในวงการธุกิจดีไซน์เนอร์ด้วยกัน สถาบันฮิสแพนิค ดีไซน์เนอร์ ได้เสนอให้เธอได้รับรางวัล โมดา สาขาการออกแบบยอดเยี่ยม และตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526เธอได้ร่วมเป็นสมาชิกของ ดิ อินเตอร์เนชั่นนัล เบสท์ เดรสเสด ลิส

ในปี พ.ศ. 2553 พิแคสโซ่ ได้เฉลิมฉลองในวาระที่ทิฟฟานี่แอนด์โค ครบรอบปีที่ 30 โดยได้ผลิตคอลเลคชั่นใหม่ที่ชื่อว่า มาร์ราเกช ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากความหลงใหลที่เธอมีต่อประเทศโมรอคโค และในปี พ.ศ. 2554 เธอก็ได้ออกแบบคอลเลคชั่น เวเนเซีย ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองเมืองเวนิชและมันก็ได้รับความนิยมอีกเช่นเคย

แหล่งข้อมูลอื่น

• Paloma Picasso ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
• Paloma Picasso's Tiffany Collection