พระราชวัชรสิริมงคล (สี สิริญาโณ)
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระราชวัชรสิริมงคล (พระสี สิริญาโณ) | |
---|---|
ชื่ออื่น | หลวงปู่สี สิริญาโณ |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2467 (100 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดป่าศรีมงคล จังหวัดอุบลราชธานี |
อุปสมบท | 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 |
พรรษา | 79 |
ตำแหน่ง | ประธานสงฆ์วัดป่าศรีมงคล |
พระราชวัชรสิริมงคล (เกิด 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2467) เป็นพระสงฆ์ชาวไทย ดํารงตําแหน่งพระราชาคณะชั้นราช และเป็นประธานสงฆ์วัดป่าศรีมงคล (วัดป่าบ้านเปือย) ตำบลโนนกาเล็น อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) ปัจจุบันนับได้ว่าท่านเป็นผู้มีพรรษามากที่สุดในบรรดาศิษย์ของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) ที่ยังดำรงค์ธาตุขันธ์อยู่ด้วยวัย 100 ปี
ประวัติ
[แก้]ชาติกําเนิดและอุปสมบท
[แก้]พระราชวัชรสิริมงคล เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2467 ตรงกับวันศุกร์ แรม 6 คํ่า เดือน 6 ปีชวด ฉศก จ.ศ. 1286 ที่บ้านเปือย หมู่ที่ 3 ตําบลโนนกาเล็น อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรของอินทร์ นามนาง และนาง นามนาง พระราชวัชรสิริมงคลมีชื่อและนามสกุลเดิมว่า ศรี นามนาง (ภายหลังได้เปลี่ยนวิธีการสะกดชื่อตัวเป็น " สี ")[1] ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดป่าบ้านเปือย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 เวลา 16.20 น. ได้รับฉายาว่า สิริญาโณ โดยมี พระครูสีลสุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์
ปฏิบัติกรรมฐาน
[แก้]เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2512 หลวงปู่สีได้มีโอกาสมาพบกับ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) การพบกันครั้งนั้นนับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต เนื่องจากได้มีโอกาสเรียนรู้ธรรมและการปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกต้องจากหลวงพ่อชาโดยตรง จนกระทั่งหลวงพ่อชาได้มอบหมายให้หลวงปู่สีไปดูแลวัดสาขาของวัดหนองป่าพง ซึ่งก็คือวัดป่าศรีมงคลนั่นเอง
หลวงปู่สี สิริญาโณ ประธานสงฆ์วัดป่าศรีมงคล (วัดป่าบ้านเปือย) อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง ก่อนที่ท่านจะได้เข้ามาขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาพระธรรมกับหลวงพ่อชานั้น หลวงปู่สีท่านได้เคยร่ำเรียนวิชชาการวิทยาคมต่าง ๆ มาแล้วหลายสายหลายด้าน เรียกได้ว่าก่อนหน้าที่ท่านจะได้พบกับหลวงพ่อชานั้น ท่านได้ศึกษาวิชชาอาคมมามากมายหลายศาสตร์แขนง แม้แต่การใช้พระคาถาปัดเป่ารักษาคนป่วยไข้ให้หายจากอาการป่วย ท่านก็ได้ร่ำเรียนมาจนแตกฉาน กระทั่งท่านได้มีบุญโอกาสมาเจอกับหลวงพ่อชา ใน ปี พ.ศ. 2512 ท่านถึงได้ตัดสินใจเป็นมั่นคงหนักแน่นที่จะละทิ้งในวิชาอาคมต่าง ๆ ที่เรียนมาทั้งหมด เพื่อที่จะนำตัวของท่านเข้าสู่การปฏิบัติธรรม เจริญความเพียรทางด้านวิปัสสนาให้ถ่องแท้แตกฉาน จากวันนั้นเป็นต้นมาท่านจึงได้อยู่ปฏิบัติกับหลวงพ่อชา จวบจนกระทั่งจนมาถึงวันหนึ่ง หลวงพ่อชา ผู้เป็นพระอาจารย์ได้มีดำริสั่งการ ให้ตัวท่านนั้นได้เดินทางไปดูแลวัดป่าในสาขาของวัดหนองป่าพง สาขาที่ 13 ณ วัดป่าศรีมงคล (วัดป่าบ้านเปือย) ตำบลโนนกาเล็น อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี จนถึงปัจจุบัน
สมณศักดิ์
[แก้]- 25 พฤษภาคม 2565 เป็นพระราชาคณะชั้นราชฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระราชวัชรสิริมงคล วิมลภาวนาวรกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี