ข้ามไปเนื้อหา

ผ่านาทีวิกฤติกู้โลก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ผ่านาทีวิกฤติกู้โลก
ไฟล์:Air Force One Film.jpg
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับวูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน
เขียนบทแอนดรูว์ ดับเบิลยู. มาร์โลว์
อำนวยการสร้างอาร์มยาน เบิร์นสไตน์
โทมัส บลิส
เกล แคตซ์
วูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน
โจนาทาน เชสสแต็ก
นักแสดงนำแฮร์ริสัน ฟอร์ด
แกรี โอลด์แมน
เกลนน์ โคลส
เวนดี ครูว์สัน
วิลเลียม เอช. เมซี
กำกับภาพไมเคิล บอลฮอส
ตัดต่อริชาร์ด ฟรานซิส-บรูซ
ดนตรีประกอบเจอร์รี โกลด์สมิท
บริษัทผู้สร้าง
Beacon Pictures
Touchstone Pictures
ผู้จัดจำหน่ายColumbia Pictures (สหรัฐอเมริกา)
Buena Vista International
(ต่างประเทศ)
วันฉาย25 กรกฎาคม ค.ศ. 1997
ความยาว124 นาที
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ, รัสเซีย
ทุนสร้าง85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำเงิน315.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลจาก All Movie Guide
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

ผ่านาทีวิกฤติกู้โลก (อังกฤษ: Air Force One) เป็นภาพยนตร์โลดโผนเขย่าขวัญ เกี่ยวกับการจี้เครื่องบินโดยสารประธานาธิบดีสหรัฐ "Air Force One" โดย ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา (แสดงโดยแฮร์ริสัน ฟอร์ด) พยายามกอบกู้เครื่องบินกลับมาและรักษาชีวิตผู้โดยสารที่เป็นตัวประกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กำกับภาพยนตร์โดยวูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน ออกฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1997

เนื้อเรื่อง

[แก้]

ประธานาธิบดีสหรัฐ เจมส์ มาร์แชล ได้กล่าวในมอสโกว่าสหรัฐจะไม่ต่อรองกับผู้ก่อการร้าย หลังจากที่กองกำลังพิเศษรัสเซียและอเมริกันเข้าจับกุมผู้เผด็จการแห่งคาซัคสถาน นายพลอิวาน ราเดค หลังจากนั้นปธน.จะกลับสู่กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยโดยสาร Air Force One อากาศยานหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มรัสเซียหัวรุนแรง 6 คนอ้างตัวเป็นนักข่าวและได้ทำการแทรกซึมเข้าไปในเครื่องบิน Air Force One

กิบส์ ไส้ศึกหนึ่งในสายลับของปธน. ได้ร่วมงานกับผู้ก่อการร้ายและฆ่าสายลับสามคนบนเครื่อง หัวหน้าผู้ก่อการร้าย อิกอร์ กอร์ซูนอฟ และลูกน้องได้กราดยิงคนในเครื่องบิน และจับภรรยาและลูกสาวของปธน.และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ไว้เป็นตัวประกัน ส่วนผู้โดยสารที่เหลือถูกฆ่าในขณะมีการยิงกันบนเครื่องบิน ส่วนปธน.ถูกพาไปยังยานลี้ภัยใต้ท้องเครื่องบิน และในไม่นานนักบินได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากฐานทัพอากาศในเยอรมนีและให้มีการลงจอดฉุกเฉิน แต่ผู้ก่อการร้ายได้ทำการระเบิดประตูห้องนักบิน และฆ่านักบินต่อมา ผู้ก่อการร้ายจึงบังคับเครื่องบินขึ้น และเครื่องบินก็บินขึ้นน่านฟ้าอีกครั้ง

ในกรุงวอชิงตัน ดีซี รองประธานาธิบดี แคทรีน เบนเน็ต มาที่ทำเนียบขาวเพื่อดูเชิงสถานการณ์ ได้พบว่าปธน.ไม่ได้อยู่ในยานลี้ภัย และเป็นไปได้ว่าเขายังอยู่บนเครื่องบิน ผู้ก่อการร้ายได้ติดต่อไปยังรองปธน. ให้ปล่อยตัวนายพลราเดค มิเช่นนั้นจะฆ่าตัวประกันทุกครึ่งชั่วโมง แต่เบนเน็ตบอกแก่ผู้ก่อการร้ายว่าปธน.รัสเซียจะไม่ปล่อยตัวราเดค (เพทรอฟบอกว่าเขาจะไม่ทำอะไรจนกว่าจะรู้ว่าปธน.มาร์แชลปลอดภัยแล้ว) ผู้ก่อการร้ายจึงฆ่าที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐ

ปธน.มาร์แชลซึ่งแอบอยู่ใต้ท้องเครื่องได้โทรศัพท์ไปหารองปธน. แต่มีผู้ก่อการร้ายคนที่สองมาพบปธน.เข้าพอดี ปธน.จึงลอบส่งคำสั่งให้พวกเขาโจมตี Air Force One เพื่อให้เครื่องบินสะเทือน รองปธน.จึงสั่งเครื่องบิน F-15 ยิงขีปนาวุธใส่ Air Force One เนื่องจาก Air Force One มีระบบป้องกันขีปนาวุธ ทำให้เครื่องบินบินเอียงหลบแรงระเบิดของจรวด ทำให้ปธน.จัดการผู้ก่อการร้ายได้ กอร์ซูนอฟ หัวหน้าผู้ก่อการร้ายจึงพูดว่า "ถึงคุณสายลับ (ผู้ก่อการร้ายไม่รู้ว่าเป็นปธน.) ที่ซ่อนอยู่ใต้เครื่อง ผมจะนับถึงสิบ ถ้าคุณไม่มอบตัว สาวนิสัยดีคนนี้ตาย! (เมลานี มิตเชล)" แต่ปธน.เห็นว่าตรงบันไดมีผู้ก่อการร้ายดักรอไว้แล้ว ถ้าออกไปต้องถูกยิงแน่นอนและจะไม่มีใครช่วยตัวประกันได้ กอร์ซูนอฟจึงฆ่าตัวประกันเสีย แล้วกล่าวว่า "รายต่อไป ผมจะเลือกคนที่สำคัญกว่านี้" ปธน.จึงวางแผนปล่อยน้ำมันออกจากเครื่องเพื่อให้เครื่องร่อนลง กอร์ซูนอฟจึงโทรไปยังรองปธน.ว่า Air Force One เติมน้ำมันกลางอากาศได้จึงขอเครื่องบินส่งน้ำมัน แต่รองฯ เบนเน็ต ไม่ตกลง กอร์ซูนอฟจึงประชดว่า "กฎฟิสิกส์ง่าย ๆ น้ำมันหมดเครื่องตก ทุกคนตาย ไม่งั้นผมจะฆ่าตัวประกันไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ นาที จนกว่าเครื่องบินตกหรือเครื่องส่งน้ำมันมาถึง" รองปธน.จึงต้องส่งน้ำมันไป ในระหว่างนั้นปธน.ได้ช่วยเหลือตัวประกันและวางแผนให้เครื่องบินลดระดับและให้ตัวประกันกระโดดร่มที่ท้ายเครื่องบิน แต่มีผู้ก่อการร้ายระเบิดประตูที่ท้ายเครื่องบิน ทำให้เครื่องบินเสียระดับ และท่อน้ำมันของเครื่องบินเติมน้ำมันติดไฟและเกิดระเบิดขึ้น คอลด์เวล, เชเพิร์ด, ครอบครัวปธน. และกิบส์ (ยังไม่ถูกสงสัยว่าเป็นไส้ศึก) ถูกจับตัว

กอร์ซูนอฟ ผู้ก่อการร้ายบังคับให้ปธน.ปล่อยตัวนายพลราเดค โดยจับลูกและภรรยาเป็นตัวประกัน ปธน.จึงยอมที่จะปล่อยตัวนายพลราเดค เลขาฯในทำเนียบได้มีการประชุมรัฐมนตรีให้ปธน.หมดอำนาจ และให้รองปธน.เซ็นรับ แต่รองฯ เบนเน็ต ไม่ยอมเซ็นชื่อ ซึ่งขณะนั้นราเดคกำลังถูกปล่อยตัว ปธน.ได้ใช้เศษกระจกตัดเทปที่พันข้อมือและต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย เจ้าหน้าที่ของปธน.คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ กอร์ซูนอฟได้พาภรรยาปธน.ไปยังท้ายเครื่องและโยนร่มชูชีพที่เหลือทิ้ง และพูดว่า "ไม่ว่าจะออกหัวหรือก้อย คุณแพ้ ผมชนะ" ภรรยาปธน.จึงปัดปืนของกอร์ซูนอฟ และปธน.ต่อสู้กับกอร์ซูนอฟ และใช้สายร่มชูชีพพันคอจนขาดอากาศหายใจ และกระตุกร่ม สายร่มชูชีพที่พันคออยู่แล้วได้กระตุกคอของกอร์ซูนอฟจนหัก เสียชีวิต ปธน.มาร์แชล โทรกลับไปหา เพทรอฟ ปธน.รัสเซียให้หยุดราเดคไว้ก่อนที่เขาจะออกมาจากคุก ผู้คุมได้ฆ่าราเดคขณะที่เขากำลังจะหนีขึ้นฮ. และปธน.โทรกลับมาว่ายึดเครื่องบินคืนได้แล้ว สร้างความดีใจทั้งแก่ฝ่ายรัสเซียและสหรัฐ

ถึงกระนั้น ยังมีเครื่องบิน MiG 6 ลำ มุ่งหน้ามาโจมตี Air Force One รองปธน.จึงส่ง F-15 ไปปกป้องปธน. แต่ Air Force One ก็ได้รับความเสียหาย ไม่อาจร่อนลงได้ จึงส่งเครื่องบิน C-130 มาช่วยเหลือโดยโยงลวดระหว่าง Air Force One และให้หน่วยกู้ภัยขึงสลิงไป Air Force One และให้เครื่องบินกู้ภัยลดระดับและขึงลวดกลับไป โดยช่วยได้ทีละคนเท่านั้น หลังจากลูก ภรรยาของปธน. และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บปลอดภัยแล้ว เครื่อง Air Force One เครื่องยนต์ดับและกำลังตกลงสู่ทะเล จึงช่วยได้อีกเพียงคนเดียวเท่านั้น กิบส์ ผู้เป็นไส้ศึกฆ่าหน่วยกู้ภัยคนสุดท้ายบน Air Force One และฆ่าเจ้าหน้าที่ของปธน.อีกคนหนึ่ง ปธน.ต่อสู้กับกิบส์และหนีออกมาได้ ปล่อยให้กิบส์ติดอยู่บน Air Force One ที่พุ่งลงสู่ทะเลไป เสียชีวิตไปพร้อมกับเครื่อง เครื่องบินกู้ภัยได้ช่วยเหลือปธน.เอาไว้ได้ จึงเปลี่ยนรหัสเรียกขานเครื่องบินกู้ภัยเป็น Air Force One ภาพยนตร์จบด้วยเครื่องบินบินไปพร้อมกับ F-15 บินคู่ขนานไป

นักแสดง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]