ผู้ประกอบการ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
การเป็นผู้ประกอบการ (อังกฤษ: Entrepreneurship) คือ การสร้างหรือการสกัดคุณค่า [1][2][3] หากใช้คำนิยามเบื้องต้นนี้ การเป็นผู้ประกอบการอาจมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งเพื่อทำให้เกิดคุณค่าขึ้น นิยามเบื้องต้นนี้มีความหมายที่ครอบคลุมมากกว่าการประกอบธุรกิจ
ในนิยามที่แคบลงมานั้น การเป็นผู้ประกอบการ คือ กระบวนการในการออกแบบธุรกิจ เปิดตัวสินค้าหรือบริการของธุรกิจสู่สาธารณะ และ การประกอบธุรกิจใหม่ ซึ่งมักจะเริ่มต้นด้วยการเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (small business) ตัวอย่างเช่น ธุรกิจครอบครัวโดยมีสมาชิกในครอบครัวมาช่วยกันทำงานและสร้างกำไรกันในครอบครัว ธุรกิจสตาร์ทอัพที่เริ่มจากผู้ก่อตั้งประมาณ 3-4 คน ช่วยกันสร้างผลิตภัณฑ์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เช่น Wongnai และ Okkbee หรือแม้แต่จะเป็นธุรกิจที่เริ่มและดำเนินการด้วยตัวคนเดียว (Solopreneur) ก็ถือเป็นผู้ประกอบการเช่นกัน[4]
ส่วน ความเป็นผู้ประกอบการ หมายถึง "ความสามารถและความต้องการอย่างแรงกล้าในการพัฒนา ลงทุน และ บริหารจัดการธุรกิจ โดยพร้อมที่จะกล้ารับความเสี่ยงเพื่อให้ได้กำไร (profit)"[5] โดยเรียกกลุ่มคนที่สร้างธุรกิจของตัวเองขว่า ผู้ประกอบการ (entrepreneurs)[6][7]
ในทางเศรษฐศาสตร์ นิยามคำว่า ผู้ประกอบการ หมายถึง ผู้ที่มีความสามารถในการค้นหาโอกาส (เช่น สิ่งประดิษฐ์ หรือ เทคโนโลยี) และใช้โอกาสนั้นในการสร้างสินค้าและบริการ "ผู้ประกอบการสามารถเห็นศักยภาพเชิงพาณิชย์ของสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ และบริหารจัดการเงินทุน, ความสามารถในการผลิต หรือ ทรัพยากรการผลิตอื่น ๆ ที่มี เพื่อประยุกต์สิ่งประดิษฐ์ใหม่นั้น ให้กลายเป็นนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ที่สร้างผลกำไรได้"[8] ในนิยามนี้ คำว่า การเป็นผู้ประกอบการ จะรวมไปถึงการทำกิจกรรมทีเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมของกิจการ ความหมายในเชิงเศรษฐศาสตร์ จะโฟกัสไปที่การสร้างคุณค่าเชิงพาณิชย์ จากสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม
มุมมองต่อการเป็นผู้ประกอบการ
[แก้]ในเชิงวิชาการ คำว่า Entrepreneurship (ความเป็นผู้ประกอบการ) มีแนวคิดหลากหลายมุมมองจากหลายสำนักในสาขาต่าง ๆ เช่น เศรษฐศาสตร์ สังคมวิทยา และ ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ[9][10] โดยนักวิชาการหลายคนมองว่าการเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวข้องอย่างมากผู้ประกอบการ นักวิชาการเหล่านี้มักจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผู้ประกอบการทำและลักษณะพิเศษที่ผู้ประกอบการมี บางครั้งเรียกว่าวิธีการทำงานเพื่อการเป็นผู้ประกอบการ ส่วนนักวิชาการสำนักอื่นมองที่กระบวนการการประกอบการ[11] แทนการเจาะกลุ่มไปที่กลุ่มบุคคลที่ประกอบกิจการ แนวทางนี้บางครั้งเรียกว่า แนวทางเชิงกระบวนการ (processual approach)[12]
พฤติกรรมความเป็นผู้ประกอบการ
[แก้]ผู้ประกอบการมักถูกมองว่าเป็นนวัตกร (innovator) — ผู้ออกแบบไอเดียใหม่ ๆ และกระบวนการทางธุรกิจใหม่[13] ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จม มักเป็นผู้ความเป็นผู้นำ (leadership) สูง มีทักษะการจัดการและการสร้างทีม[14] นักเศรษฐศาสตร์การเมืองชาวอเมริกัน โรเบิร์ต ไรช์ (Robert Reich) ได้กล่าวถึงคุณลักษณะที่จำเป็น 3 อย่างของผู้ประกอบการ ประกอบกอบด้วย ความเป็นผู้นำ (leadership), ความสามารถในการจัดการ (management ability) และ ความสามารถในการสร้างทีม (team-building)[15][16]
มุมมองต่อความไม่แน่นอน และ การรับความเสี่ยง
[แก้]นักเศรษฐศาสตร์ทฤษฎีชาวอเมริกัน แฟรงค์ ไนท์ (Frank Knight)[17] และ ปีเตอร์ ดรักเคอร์ (Peter Drucker) ได้ให้นิยามคำว่า "ความเป็นผู้ประกอบการ (entrepreneurship)" ว่าเป็นความสามารถในการรับความเสี่ยงสูงได้ (risk-taking) ผู้ประกอบการคือผู้ที่ยอมเอาหน้าที่การงานหรือความปลอดภัยทางการเงินของพวกเขาแขวนไว้บนเส้นได้ และยอมรับความเสี่ยงเพื่อการสร้างธุรกิจจากไอเดีย ใช้ทรัพยากรเงินทุนและทรัพยากรเวลาไปกับการลงทุนที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการมักจะไม่เชื่อว่าตัวเองรับความเสียงที่สูง เนื่องจากผู้ประกอบการมักจะมองเห็นความไม่แน่นอนในระดับที่ต่ำกว่าคนทั่วไป โดยแฟรงก์ ไนท์ ได้แยกความไม่แน่นอนออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้:
- Risk (ความเสี่ยง) คือ ความไม่แน่นอนที่สามารถวัดได้ในทางสถิติ (เช่น โอกาสที่หยิบจะได้บอลสีแดง จากโถที่มีบอลสีแดง 5 ลูก และ สีฟ้า 5 ลูก)
- Ambiguity (ความคลุมเครือ) คือ ความไม่แน่นอนที่วัดได้ยากในทางสถิติ (เช่น โอกาสที่จะหยิบได้บอลสีแดง จากโถที่มีบอลสีแดง 5 ลูก และบอลสีฟ้าที่ไม่รู้จำนวนลูกที่แน่นอน) ball from a jar containing five red balls but an unknown number of white balls)
- True uncertainty (ความไม่แน่นอนที่แท้จริง) หรือ ความไม่แน่นอนแบบไนท์ (Knightian uncertainty) คือ ความไม่แน่นอนที่เป็นไปไม่ได้ที่จะวัดด้วยหลักสถิติ (เช่น โอกาสที่จะหยิบได้บอลสีแดง จากโถที่ไม่รู้จำนวนบอล และไม่รู้สีของบอล)
การเป็นผู้ประกอบการมักเกี่ยวโยงกับความไม่แน่นอนที่แท้จริง โดยเฉพาะเวลาสร้างสินค้าและบริการสำหรับตลาดผู้บริโภคที่ไม่เคยมีมาก่อน (Blur ocean) แทนที่จะลงทุนสร้างสินค้าหรือบริการที่มีมาก่อนแล้ว มีงานวิจัย ปี ค.ศ.2014 ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส ซือริช (ETH Zürich) ได้ทำการเปรียบเทียบผู้จัดการทั่วไปกับผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการจะมีประสิทธิภาพในการตัดสินใจที่สูงกว่า และ มีกิจกรรมในสมองส่วน frontopolar cortex (FPC) ซึ่งเกี่ยวข้องกับกับการสำรวจตัวเลือกต่าง ๆ (explorative choice)[18]
ความสามารถในการรับคำแนะนำ
[แก้]ความสามารถในการทำงานร่วมและรับคำแนะนำ จากนักลงทุนรายเริ่มแรก (early investors) และหุ้นส่วนผู้ร่วมลงทุนคนอื่น ๆ (ความสามารถในการรับคำแนะนำ) คือปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับความสำเร็จของผู้ประกอบการ[19] ในอีกทางหนึ่ง นักเศรษฐศาสตร์ก็ได้โต้เถียงว่าผู้ประกอบการไม่ควรทำตามึคำแนะนำทุกอย่างที่ได้รับ แม้ว่าคำแนะนำนั้นจะมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือก็ตาม เพราะผู้ประกอบการมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งในธุรกิจที่ทำ มากกว่าบุคคลภายนอก ความสามารถในการรับคำแนะนำ (Coachability) ไม่ได้เป็นตัวกำหนดความสำเร็จของผู้ประกอบการ (เช่น การวัดอัตราการรอดของกิจการ) งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า ทีมผู้ก่อตั้งบริษัทที่ใหญ่และประกอบกิจการมายาวนาน (ซึ่งมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งอย่างมากในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเอง) จะมีความสามารถในการรับคำแนะนำ (Coachability) ที่ต่ำกว่าทีมผู้ก่อตั้งบริษัทที่มีขนาดเล็กและก่อตั้งมาไม่นาน
กลยุทธ์
[แก้]กลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการอาจใช้ มีดังนี้:
- การสร้างนวัตกรรม (Innovation) ใหม่ (สินค้า บริการ หรือ กระบวนการผลิต)[20]
- การปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง (Continuous process improvement (CPI))[20]
- การสำรวจโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ
- การใช้เทคโนโลยี[20]
- การใช้การวิเคราะห์ธุรกิจอัจฉริยะ (business intelligence)
- การใช้กลยุทธ์ทางเศรษฐศาสตร์
- การพัฒนาสินค้าและบริการแห่งอนาคต[20]
- การพัฒนาและบริหารจัดการความสามารถของทีม[20]
- กลยุทธ์การตลาดสำหรับเครือข่ายเชิงนวัตกรรม[21]
จิตวิทยาผู้ประกอบการ
[แก้]นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน เอ็ดเวิร์ด ลาซีร์ (Edward Lazear) อาจารย์เศรษฐศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยในปี ค.ศ.2005 เพื่อหาคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงในการแยกคนที่มีความเป็นผู้ประกอบการและคนที่ไม่มีความเป็นผู้ประกอบการ พบว่าการศึกษาและประสบการณ์การทำงาน คือสองคุณลักษณะที่สำคัญที่สุดในการจำแนกผู้คนที่มีความเป็นผู้ประกอบการ[22] ในปี ค.ศ.2013 มีการวิจัยโดยอาจารย์อูชิ บาเคส-เกลเนอร์ (Uschi Backes-Gellner) อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยซือริช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ เปตรา มูก อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยซีเกน ประเทศเยอรมนี ได้ค้นพบว่าการมีเครือข่ายทางสังคมที่กว้างขวางนั้น ก็เป็นหนึ่งในอีกปัจจัยที่ทำให้บุคคล (นักศึกษา) คนหนึ่งนั้นกลายเป็นผู้ประกอบการ[23][24]
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าทั้งผู้ประกอบการเพศชายและเพศหญิงนั้น มีความคล้างคลึงกันด้านพฤติกรรมที่ค่อนข้างสูง โดยจากการศึกษาด้วยการสังเกตการณ์ พบว่าผู้ประกอบการเพศหญิงจะมีทักษะด้านการต่อรองและทักษะการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่สูง[25] นักวิจัยชาวสวีเดน โอซ่า แฮนสัน (Åsa Hansson) ที่ได้ทำวิจัยเรื่องความแตกต่างของผู้ประกอบการเพศหญิงและเพศชาย ได้ให้ข้อสรุปว่า ยิ่งผู้หญิงอายุมากขึ้น โอกาสที่จะเป็นผู้ประกอบการก็ยิ่งน้อยลง ในทางกลับกัน ผู้ชายยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเป็นผู้ประกอบการสูงขึ้นตาม[26]
อาจารย์จิตวิทยาชาวเดนมาร์ก เยสปา โชแอนเซิน (Jesper Sørensen) ได้เขียนถึงเรื่องของอิทธิพลที่มีต่อการตัดสินใจเป็นผู้ประกอบการ ไว้ในปี ค.ศ.2010 ซึ่งได้รวมไปถึงปัจจัยด้านเพื่อนร่วมงานและปัจจัยด้านสภาพสังคม โดยเขาได้พบว่าการที่ทำงานกับคนที่เป็นผู้ประกอบการที่สำเร็จนั้น มีอิทธิพลให้บุคคลดังกล่าวกลายเป็นผู้ประกอบการในอนาคต เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ทำงานกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ[27] เนื่องจากทำให้บุคคลดังกล่าวมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ กล่าวคือ "ถ้าเขาทำได้ ทำไมฉันถึงจะทำไม่ได้?" อาจารย์โชแอนเซินได้กล่าวว่า "เมื่อคุณเจอคนที่ได้ประสบความสำเร็จแล้ว คุณก็จะรู้ว่าการประสบความสำเร็จนั้น มันเป็นไปได้"[28]
ผู้ประกอบการอาจได้แรงบันดาลใจให้กลายเป็นผู้ประกอบการได้จากประสบการณ์ที่ตนเองได้ประสบในอดีต โดยเฉพาะคนที่ถูกเลิกจ้าง มักจะมีแนวโน้มในการเป็นผู้ประกอบการที่สูง[26] จากแบบทศสอบบุคลิกภาพของเรย์มอน์ แคทเทลเกี่ยวกับบุคลิกภาพ แคทเทลได้กล่าวว่าการเป็นผู้ประกอบการนั้น เกี่ยวข้องกับทั้งบุคลิกภาพประจำตัวบุคคลและทัศนคติของบุคคล ทั้งสองอย่างคือปัจจัยทางจิตวิทยาที่ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของบุคคล[29]
ผู้ประกอบการนวัตกรรม มักจะมีประสบการณ์ทางจิตวิทยาแบบหนึ่ง ที่นักจิตวิทยาชาวฮังการี มิฮาย ชีคแซ็นต์มิฮายิ (Mihaly Csikszentmihalyi) เรียกว่า "โฟลว์ (flow)". "โฟลว์" คือ พฤติกรรมทางจิตวิทยาเวลาที่คนคนหนึ่งลืมสิ่งรอบตัวภายนอกเวลาทำงาน หรือ ทำกิจกรรมอะไรสักอย่างหนึ่ง มิฮายได้กล่าวว่านวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการต่าง ๆ นั้น มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาทางจิตวิทยาดังกล่าว[30]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Diochon, Monica; Anderson, Alistair R. (2011-03-01). "Ambivalence and ambiguity in social enterprise; narratives about values in reconciling purpose and practices". International Entrepreneurship and Management Journal (ภาษาอังกฤษ). 7 (1): 93–109. doi:10.1007/s11365-010-0161-0. hdl:10059/613. ISSN 1555-1938.
- ↑ Gaddefors, Johan; Anderson, Alistair R. (2017-01-01). "Entrepreneursheep and context: when entrepreneurship is greater than entrepreneurs". International Journal of Entrepreneurial Behavior & Research. 23 (2): 267–278. doi:10.1108/IJEBR-01-2016-0040. hdl:10059/2299. ISSN 1355-2554.
- ↑ Alvarez, Sharon A.; Busenitz, Lowell W. (2001-12-01). "The entrepreneurship of resource-based theory". Journal of Management (ภาษาอังกฤษ). 27 (6): 755–775. doi:10.1177/014920630102700609. ISSN 0149-2063.
- ↑ "Entrepreneur / Entrepreneurship คืออะไร เริ่มต้นอย่างไร". HardcoreCEO (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2021-08-21.
- ↑ "Business Dictionary definitionyuuggtygn". Business Dictionary. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-16. สืบค้นเมื่อ 2020-08-18.
- ↑ AK Yetisen; LR Bob Volpatti; AF Coskun; S Cho; E Kamrani; H Butt; A Khademhos\\seini; SH Yun (2015). "Entrepreneurship". Lab Chip. 15 (18): 3638–3660. doi:10.1039/c5lc00577a. PMID 26245815.
- ↑ Katila, Riitta; Chen, Eric L.; Piezunka, Henning (7 June 2012). "All the right moves: How entrepreneurial firms compete effectively" (PDF). Strategic Entrepreneurship JNL. 6 (2): 116–132. doi:10.1002/sej.1130. สืบค้นเมื่อ 18 May 2017.
- ↑ Audretsch, David B.; Bozeman, Barry; Combs, Kathryn L.; Feldman, Maryann; Link, Albert N.; Siegel, Donald S.; Stephan, Paula; Tassey, Gregory; Wessner, Charles (2002). "The Economics of Science and Technology". The Journal of Technology Transfer. 27 (2): 157. doi:10.1023/A:1014382532639.
- ↑ Lindgren, Monica; Packendorff, Johann (2009-01-01). "Social constructionism and entrepreneurship: Basic assumptions and consequences for theory and research". International Journal of Entrepreneurial Behavior & Research. 15 (1): 25–47. doi:10.1108/13552550910934440. ISSN 1355-2554.
- ↑ Neergaard, Helle; Ulhøi, John P. (2007). Handbook of Qualitative R Methods in Entrepreneurship (ภาษาอังกฤษ). Edward Elgar Publishing. ISBN 978-1-84720-438-7.
- ↑ Olaison, Lena (2014). Entrepreneurship at the limits. Frederiksberg: Copenhagen Business School (CBS). ISBN 978-87-93155-25-1.
- ↑ Olaison, Lena (2014). Entrepreneurship at the limits. Frederiksberg: Copenhagen Business School (CBS). ISBN 978-87-93155-25-1.
- ↑ Investopedia; Investopedia.com; access date.
- ↑ Prive, Tanya (19 December 2012). "Top 10 Qualities That Make A Great Leader". Forbes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 October 2017. สืบค้นเมื่อ 1 August 2013.
- ↑ Cantillon, Richard (1755). Essai sur la Nature du Commerce en Général. Londres, Chez Fletcher Gyles.
- ↑ Drucker, Peter F. (1985). Innovation and Entrepreneurship. attributes the coining and defining of "entrepreneur" to Jean-Baptiste Say in his A Treatise on Political Economy; (1834).
- ↑ Knight, Frank Hyneman (2005). Risk, Uncertainty and Profit. Cosimo, Inc. ISBN 978-1-59605-242-0.
- ↑ Laureiro-Martínez, Daniella; Canessa, Nicola; Brusoni, Stefano; Zollo, Maurizio; Hare, Todd; Alemanno, Federica; Cappa, Stefano F. (22 January 2014). "Frontopolar cortex and decision-making efficiency: comparing brain activity of experts with different professional background during an exploration-exploitation task". Frontiers in Human Neuroscience. 7: 927. doi:10.3389/fnhum.2013.00927. PMC 3897871. PMID 24478664.
- ↑ Timmons, Jeffry A.; Bygrave, William D. (1986). "Venture capital's role in financing innovation for economic growth". Journal of Business Venturing. 1 (2): 161–176. doi:10.1016/0883-9026(86)90012-1.
- ↑ 20.0 20.1 20.2 20.3 20.4 Qureshi, Hamid (3 September 2015). "Decoding Right Strategies for Entrepreneurship". Greater Kashmir. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-05. สืบค้นเมื่อ 30 March 2016.
- ↑ Adel, H.M.; Mahrous, A.A.; Hammad, R. (2020). "Entrepreneurial marketing strategy, institutional environment, and business performance of SMEs in Egypt". Journal of Entrepreneurship in Emerging Economies (ahead-of-print). doi:10.1108/JEEE-11-2019-0171.
- ↑ Lazear, Edward (2005). "Entrepreneurship". Journal of Labor Economics. 23 (4): 649–680. doi:10.1086/491605.
- ↑ Backes-Ge1llner, Uschi; Moog, Petra (December 2013). "The disposition to become an entrepreneur and the jacks-of-all-trades in social and human capital". The Journal of Socio-Economics. 47: 55–72. doi:10.1016/j.socec.2013.08.008.
- ↑ Baer, Drake (19 February 2015). "Scientists have discovered a personality difference between entrepreneurs and employees". สืบค้นเมื่อ 25 February 2015.
- ↑ Muljadi, Paul (บ.ก.). Entrepreneurship. Paul Muljadi. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 31, 2013.
- ↑ 26.0 26.1 Hansson, Åsa (2012). "Tax policy and entrepreneurship: empirical evidence from Sweden". Small Business Economics. 38 (4): 495–513. doi:10.1007/s11187-010-9282-7. S2CID 153414747.
- ↑ Sørensen, J.; Nanda, R. (July 2010). "Workplace Peers and Entrepreneurship" (PDF). Management Science. 56 (7): 1116–1126. doi:10.1287/mnsc.1100.1179. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 10 October 2017. สืบค้นเมื่อ 30 June 2013.
- ↑ "Peers Influence Decision to Become an Entrepreneur". Stanford Graduate School of Business; News. 1 September 2009. สืบค้นเมื่อ 30 June 2013.
- ↑ ENTREPRENEURIAL BEHAVIOR, Retrieved 17 December 2014.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Csikszentmihalyi, Mihaly (13 October 2009). Flow. HarperCollins. ISBN 978-0-06-187672-1.