น้ำดื่ม
น้ำดื่ม คือน้ำที่ปลอดภัยสำหรับการดื่มหรือใช้สำหรับการเตรียมอาหาร
คนอเมริกันดื่มน้ำหนึ่งลิตรต่อวันและ มีร้อยละ 95 ดื่มน้ำน้อยกว่า 3 ลิตรต่อวัน[1] สำหรับคนที่ทำงานในภูมิอากาศร้อน ต้องการดื่มน้ำมากกว่า 16 ลิตรต่อวัน[2] น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต ร่วมไปกับความกดอากาศ สารอาหาร และพลังงานแสงอาทิตย์[2]
โดยทั่วไปแล้ว ประเทศที่พัฒนาแล้ว น้ำประปามีคุณภาพดีที่สามารถดื่มได้ แม้ว่าจะมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยที่บริโภคน้ำประปาหรือใช้ประกอบอาหาร จากข้อมูลปี ค.ศ. 2015 มีประชากรร้อยละ 89 สามารถหาแหล่งน้ำดื่มที่มีความเหมาะสมได้[3] ในแอฟริกาใต้สะฮารามีน้ำดื่มใช้ร้อยละ 40 ถึง 80 ของจำนวนประชากร มีประชากรทั่วโลกเกือบ 4.2 พันล้านคนที่มีน้ำประปาใช้ ขณะที่อีก 2.4 พันล้านคน เข้าถึงแหล่งน้ำจากบ่อน้ำหรือน้ำประปาสาธารณะได้[3] องค์การอนามัยโลกถือว่าการเข้าถึงแหล่งน้ำดื่มที่ปลอดภัยได้เป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์
มีราว 1 ถึง 2 พันล้านคนขาดแคลนน้ำดื่มที่ปลอดภัย[4] ปัญหานี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 30,000 คน ในทุกสัปดาห์[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Exposure Factors Handbook: 2011 Edition (PDF). National Center for Environmental Assessment. September 2011. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 September 2015. สืบค้นเมื่อ 24 May 2015.
- ↑ 2.0 2.1 Ann C. Grandjean (August 2004). "3" (PDF). Water Requirements, Impinging Factors, & Recommended Intakes. World Health Organization. pp. 25–34. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-22. This 2004 article focuses on the American context and uses data collected from the US military.
- ↑ 3.0 3.1 "Water Fact sheet N°391". July 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 June 2015. สืบค้นเมื่อ 24 May 2015.
- ↑ "Drinking-water". World Health Organization. March 2018. สืบค้นเมื่อ 23 March 2018.
- ↑ Albertiri, Heidi. "Day by day they keep chipping away..." No. May 2018. The Life Style Edit (TLSE). p. 7. สืบค้นเมื่อ 10 May 2018.