ข้ามไปเนื้อหา

คาร์มินา บูรานา (ออร์ฟ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วงล้อแห่งโชคลาภ จากต้นฉบับคาร์มินา บูรานา ในศตวรรษที่ 11-12

คาร์มินา บูรานา (ละติน: Carmina Burana; /ˈkɑrmɨnə bʊˈrɑːnə/ ; แปลว่า "Songs from Benediktbeuern") เป็นคันตาตาที่แต่งโดยคาร์ล ออร์ฟ ในปี ค.ศ. 1935-1936 มาจากบทกวีในยุคกลาง 24 ชิ้น จากทั้งหมด 254 ชิ้นที่มีชื่อว่า "Carmina Burana" ซึ่งแต่งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 11 - 12 เกี่ยวกับ "วงล้อแห่งโชคลาภ" (Wheel of Fortune) ต้นฉบับบทกวีเขียนด้วยภาษาละติน ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1803 และถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ โดยออร์ฟได้อ่านฉบับแปลภาษาอังกฤษซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1884 และเกิดแรงบันดาลใจที่จะแต่งคันตาตาชิ้นนี้

คันตาตานี้ออกแสดงครั้งแรกที่แฟรงเฟิร์ตเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 1937 และประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มแรก กลายเป็นผลงานดนตรีที่จากเยอรมนีที่ประสบความสำเร็จที่สุดในขณะนั้น [1] และยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในทศวรรษ 1960 หลังสิ้นสุดสงครามโลก

คาร์มินา บูรานา แบ่งออกเป็น 25 มูฟเมนต์ โดยแบ่งเป็น 5 ส่วนหลัก ได้แก่

Fortuna Imperatrix Mundi

I – Primo vere ("In Spring")

  • iii: Veris leta facies
  • iv: Omnia sol temperat
  • v: Ecce gratum

Uf dem Anger ("In the Meadow", "On the Lawn")

  • vi: Tanz ("Dance"–instrumental)
  • vii: Floret Silva
  • viii: Chramer, gip die varwe mir
  • ix:
a) Reie ("round dance"–instrumental)
b) Swaz hie gat umbe
c) Chume, chum, geselle min
d) Swaz hie gat umbe (reprise)
  • x: Were diu werlt alle min

II – In Taberna ("In the Tavern")

  • xi: Estuans interius
  • xii: Olim lacus colueram
  • xiii: Ego sum abbas
  • xiv: In taberna quando sumus

III – Cour d'amours ("Court of Love")

  • xv: Amor volat undique
  • xvi: Dies, nox et omnia
  • xvii: Stetit puella
  • xviii: Circa mea pectora
  • xix: Si puer cum puellula
  • xx: Veni, veni, venias
  • xxi: In trutina
  • xxii: Tempus est iocundum
  • xxiii: Dulcissime

Blanziflor et Helena ("Blanchefleur and Helen")

  • xxiv: Ave formosissima

Fortuna Imperatrix Mundi ("Fortune, Empress of the World")

  • xxv: O Fortuna (reprise)

มูฟเมนต์ที่ 1 และ 25 ซึ่งเริ่มต้นและลงท้าย มีชื่อว่า O Fortuna เป็นงานดนตรีของออร์ฟที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้รับการบันทึกว่าเป็นงานดนตรีคลาสสิกที่ถูกบรรเลงบ่อยครั้งที่สุดในสหราชอาณาจักรในรอบ 75 ปีมานี้ [2] และปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมสมัยนิยมเป็นจำนวนมาก [3] เช่นใช้เป็นเพลงทีเซอร์ก่อนการแสดงของไมเคิล แจ็กสัน ในเดนเจอรัส เวิลด์ ทัวร์ และอัลบัม Video Greatest Hits – HIStory

อ้างอิง

[แก้]
  1. Taruskin, Richard: The Oxford History of Western Music. Vol. 4 "The Early Twentieth Century". Oxford: Oxford University Press, 2005, 764.
  2. Most played classical music of the past 75 years
  3. ""O Fortuna" in popular culture". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-24. สืบค้นเมื่อ 2010-07-22.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]