เมาคลีลูกหมาป่า (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2559)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก The Jungle Book (2016 film))
เมาคลีลูกหมาป่า
= Official artwork poster of the film
ภาพประชาสัมพันธ์
กำกับจอน แฟฟโรว์
บทภาพยนตร์จัสติน มากส์
สร้างจากเมาคลีลูกหมาป่า ของดิสนีย์โดย วูล์ฟแกง เรเทอร์แมน
เมาคลีลูกหมาป่า โดย รัดยาร์ด คิปลิง
อำนวยการสร้าง
  • จอน แฟฟโรว์
  • บริกแฮม เทย์เลอร์
นักแสดงนำ
กำกับภาพบิล โปป
ตัดต่อมาร์ก ลิว็อลซี
ดนตรีประกอบจอห์น เดบนีย์
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์
วันฉาย4 เมษายน ค.ศ. 2016 (2016-04-04)
(เอลแคพิทัน)
15 เมษายน ค.ศ. 2016 (2016-04-15) (สหรัฐอเมริกา)
ความยาว105 นาที[1]
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2][3]
ทำเงิน966.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[4]

เมาคลีลูกหมาป่า (อังกฤษ: The Jungle Book) เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยชีวิตของอเมริกาในปี ค.ศ. 2016 กำกับและอำนวยการผลิตโดยจอน แฟฟโรว์, เขียนบทภาพยนตร์โดยจัสติน มากส์ และอำนวยการผลิตโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์ อ้างอิงจากประมวลผลงานนวนิยายของรัดยาร์ด คิปลิง, ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์คนแสดง/ซีจีไอ ที่เป็นการนำภาพยนตร์ภาพเคลื่อนไหวชื่อเดียวกันของวอลต์ ดิสนีย์ในปี ค.ศ. 1967 นีล เซธี แสดงเป็นเมาคลี, มนุษย์เด็กชายกำพร้าที่ได้รับการปกป้องดูแลโดยเหล่าสัตว์, และต้องผจญภัยเพื่อหลบหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่าโดยแชร์คาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เสียงพากย์และกำกับภาพจากบุคคลโดยบิล เมอร์เรย์, เบน คิงสลีย์, อิดริส เอลบา, ลูพีตา ญองอ, สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน, จีอันการ์โล เอสโปซีโต, และคริสโตเฟอร์ วอลเคน

ผู้อำนวยการสร้าง แฟฟโรว์, มากส์ และบริกแฮม เทย์เลอร์ พัฒนาเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้โดยสร้างให้มีความสมดุลระหว่างภาพยนตร์แอนิเมชันดัดแปลงของดิสนีย์ และผลงานต้นฉบับของรัดยาร์ด คิปลิง โดยยืมองค์ประกอบจากทั้งสองเรื่องมารวมเข้ากันในภาพยนตร์ การถ่ายทำหลักเริ่มต้นในปี 2014 ในลอสแอนเจลิส ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้การสร้างจินตภาพด้วยคอมพิวเตอร์อย่างมาก เพื่อถ่ายทอดเหล่าสัตว์และฉากต่าง ๆ

เมาคลีลูกหมาป่า ออกฉายในสหรัฐอเมริกาในรูปแบบ Disney Digital 3D , RealD 3D , IMAX 3D , D-Box รวมถึงรอบพิเศษ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2016 ภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลก 966 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ส่งผลให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับห้าประจำปี 2016 ในบรรดา ภาพยนตร์สร้างใหม่รูปแบบคนแสดงของดิสนีย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างมากที่สุดเป็นอันดับ 8 และทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 5 จนถึงปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลจากความสำเร็จในสาขาวิชวลเอฟเฟกต์ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 89, รางวัล Critics' Choice Awards ครั้งที่ 22และรางวัล British Academy Film Awards ครั้งที่ 70 การตอบรับเชิงวิพากษ์วิจารณ์จากรอตเทนโทเมโทส์ อธิบายว่า "เป็นเรื่องที่สนุกพร้อมทั้งน่าติดตาม" ภาคต่อกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยมากส์กลับมาเขียนบท และแฟฟโรว์ กลับมาเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างอีกครั้ง

เนื้อเรื่อง[แก้]

เมาคลี เป็นมนุษย์เด็กชาย ซึ่งอาเคล่ากับรัคชา คู่สุนัขป่าอินเดีย เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ หลังจากที่บากีรา เสือดำอินเดีย นำมาฝากไว้แต่ยังเป็นทารก บากีราเองก็ช่วยอบรมสั่งสอนให้เมาคลีใช้ชีวิตอย่างสุนัขป่า แต่ยิ่งเติบโตก็ยิ่งพบอุปสรรคในการเป็นสุนัขป่า เมาคลีจึงมีพัฒนาการช้ากว่าพี่น้อง และหันไปใช้กลวิธีแยบคายต่าง ๆ เพื่อตามให้ทัน เป็นเหตุให้ถูกบากีราติเตียนว่า หัดใช้กลโกงอย่างมนุษย์

วันหนึ่งในฤดูแล้ง สัตว์ทั้งปวงสโมสรกัน ณ ผาสันติ (Peach Rock) เพื่อแบ่งกันบริโภคน้ำเท่าที่เหลืออยู่ ตามความในสัญญาหย่าศึกชิงน้ำ (Water Truce) แต่การชุมนุมสันตินี้ต้องชะงักเมื่อแชร์คาน เสือโคร่งเบงกอลผู้ดุร้าย ปรากฏกาย แชร์คานได้กลิ่นอายมนุษย์ในท่ามกลางที่ชุมนุม จึงตวาดขึ้นว่า ป่านี้ไม่ต้อนรับมนุษย์หน้าไหนทั้งสิ้น ทั้งนี้ เพราะแชร์คานเคยถูกมนุษย์ทำร้ายจนหน้าบาก ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้เจ็บช้ำใจอยู่บนใบหน้า แล้วแชร์คานก็สำทับก่อนผละไปว่า ตนจะกลับมาเอาชีวิตเด็กผู้เป็นเจ้าของกลิ่นนั้น ชาวสุนัขป่าจึงอภิปรายกันว่า จะให้เมาคลีติดสอยห้อยตามอยู่ในฝูงต่อไปอีกหรือไม่ แต่ก่อนที่จะได้มติ เมาคลีก็กล่าวขึ้นว่า ตนสมัครใจจะไปจากป่าเองเพื่อความผาสุกและเบาใจของทุกฝ่าย บากีราจึงอาสานำพาเมาคลีไปส่งยังนิคมมนุษย์

ระหว่างทางไปยังนิคมมนุษย์นั้น แชร์คานซุ่มโจมตีเมาคลีและบากีรา บากีราบาดเจ็บ เมาคลีหนีรอดเพราะได้ความช่วยเหลือของฝูงกระบือป่า เมาคลีจึงออกเดินต่อไปโดยลำพัง ไปพบคา (का) งูเหลือมตัวมหึมา คาใช้วิชาสะกดจิตช่วยให้เมาคลีระลึกภาพอดีตได้ เมาคลีเห็นบิดาตนถูกเชียร์คานสังหาร เป็นเหตุให้ตนถูกทิ้งไว้ในป่าจนบากีรามาพบเข้า ในภาพสะกดจิตนั้น คายังแจ้งแก่เมาคลีว่า มนุษย์มีอาวุธทรงพลานุภาพ คือ "ไฟ" หรือที่เรียกว่า "ดอกไม้แดง" (red flower) แต่คานั้นสะกดจิตไปก็เลื้อยพันตัวเมาคลีไปมิให้รู้สึกตัว ขณะที่เมาคลีตกอยู่ทั้งในห้วงสะกดจิตและห้วงกระหวัดของคา กำลังจะถูกจับกินอยู่นั้น บาลู หมี ก็เข้าช่วยเมาคลีไว้ได้ทันท่วงที บาลูให้เมาคลีตอบแทนด้วยการไปเอาน้ำผึ้งยอดผามาให้ ในไม่ช้า เมาคลีกับบาลูก็กลายเป็นสหายสนิทแน่นแฟ้นกัน เมาคลีจึงตกลงจะอยู่กับบาลูจนฤดูเหมันต์

ในช่วงนั้น แชร์คานไปหาฝูงสุนัขป่าและถามถึงเมาคลีจนมีปากเสียงกัน แชร์คานฆ่าอาเคล่า จ่าฝูง ตาย จึงตั้งตัวเป็นประมุขคนใหม่ เพราะคาดหวังว่า เมาคลีจะกลับคืนฝูงอีกครั้ง ฝ่ายบากีราพบว่า เมาคลีไปอยู่กับหมีบาลู จึงติดตามไปหาและพูดคุยด้วย เพื่อสวัสดิภาพของเมาคลีเอง บาลูจึงจำใจพูดปดต่อเมาคลีว่า ตนไม่เคยนับเมาคลีเป็นเพื่อนเลย บาลูหวังว่า พูดเช่นนี้แล้วเมาคลีจะได้จากไปอยู่ในที่อันสมควรเสีย

แต่ก่อนที่จะได้เป็นไปดังนั้น ลิงฝูงหนึ่งมาลักตัวเมาคลีไปยังวิหารร้าง และนำถวายเจ้าลูอี พญาวานรผู้เป็นนายของพวกตน เจ้าลูอีพยายามบีบให้เมาคลีเผยความลับเกี่ยวกับ "ดอกไม้แดง" บากีรากับบาลูมาถึงที่นั้นโดยฉับพลันเพื่อช่วยเหลือเมาคลี เจ้าลูอีกับพวกไล่ล่าเมาคลีอย่างอลหม่านจนวิหารพังถล่ม ตัวราชาวานรถูกซากวิหารถล่มทับสิ้นสติ แต่ก่อนหมดสติได้บอกให้เมาคลีทราบถึงมรณกรรมของอาเคล่า เป็นเหตุให้เมาคลีโกรธว่า บากีรากับบาลูปิดบังเรื่องดังกล่าวจากตน และตัดสินใจกลับไปเผชิญหน้ากับแชร์คานเพื่อล้างแค้นให้แก่อาเคล่าบิดาบุญธรรม

ระหว่างทาง เมาคลีได้เห็น "เพื่อนมนุษย์" เป็นครั้งแรก ณ หมู่บ้านแถบนั้น ซึ่งทำให้เขาพิศวงงงงวย แต่เมื่อเขาเห็น "ดอกไม้แดง" กำลังลุกโชนอยู่บนกองฟอน ก็คว้าฟืนติดเพลิงท่อนหนึ่งกลับไป มีบากีรากับบาลูคอยตามไปอยู่ไม่ห่าง ข่าวเรื่องการมาของมนุษย์ผู้ทรง "ดอกไม้แดง" แพร่สะพัดไปทั้งป่า สรรพสัตว์จึงมาประชุมกัน ณ ผาสันติอีกครั้ง ณ ที่นั้น เมาคลีพบแชร์คาน การประจัญหน้าก็เริ่มขึ้น แชร์คานพยายามยุให้เมาคลีวางคบเพลิงลงลำธารไป แต่เมาคลีก็ล่อลวงให้แชร์คานตกลงสู่หลุมเพลิงถูกเพลิงคลอกขาดใจตาย แล้วเหล่าช้างสารทั้งหลายก็ช่วยกันทดน้ำมาดับไฟ

ในเวลานี้ เมาคลีรับรู้แล้วว่า ตนเองมิใช่สุนัขป่า หากแต่เป็นมนุษย์ จึงยินยอมพร้อมใจจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมนุษย์ ภาพยนตร์จบลงด้วยภาพเมาคลีนั่งอยู่บนต้นไม้ร่วมกับสองสหายบากีราและบาลู เมาคลีนั้นค้นพบว่า แค่ได้อยู่กับเพื่อนรู้ใจ ที่ไหนก็เป็นบ้านได้

นักแสดง[แก้]

ผู้แสดง[แก้]

  • นีล เซธี รับบทเป็น เมาคลี (Mowgli; ฮินดี: मोगली, โมคะลี); เด็กชายกำพร้าผู้กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว ได้รับการเลี้ยงดูโดยฝูงสุนัขป่าและได้รับการอบรมสั่งสอนโดยเหล่าสัตว์ป่า และต้องการใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง
    • เคนดริก เรเยสรับบท เมาคลีในวัยทารก
  • ริเทศ ราชัน รับบทเป็น บิดาของเมาคลี

ผู้ให้เสียง[แก้]

  • บิล เมอร์เรย์ รับบทเป็น บาลู (Baloo; ฮินดี: भालू, ภาลู); หมีสีน้ำตาลผู้ร่าเริงและรักสนุก ซึ่งเข้ามาตีสนิทและผูกมิตรกับเมาคลีจนกลายเป็นคู่สนิทแน่นแฟ้น
  • เบน คิงสลีย์ รับบทเป็น บากีรา (Bagheera; ฮินดี: बघीरा, พะคีรา); เสือดำผู้ปราดเปรียว ช่วยชีวิตเมาคลีเมื่อเขาถูกทิ้งในป่าแต่ยังเป็นทารก เขารักและผูกพันกับเมาคลี ในฐานะผู้อบรมสั่งสอนเมาคลีให้ใช้ชีวิตในป่าอย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี
  • อิดริส เอลบา รับบทเป็น แชร์คาน (Shere Khan; ฮินดี: शेर खान, เศระ ขานะ); เสือโคร่งเบงกอลผู้ดุร้ายและทรงพลัง มีร่องรอยแผลเป็นที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งทำให้เขาเกลียดชังมนุษย์อย่างแรงกล้า และมีความปรารถนาที่จะกำจัดเมาคลี
  • ลูพีตา ญองอ รับบทเป็น รัคชา (Raksha; ฮินดี: रक्षा, รักษา); สุนัขป่าตัวเมีย มารดาบุญธรรมของเมาคลี
  • สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน รับบทเป็น คา (Kaa; ฮินดี: का, กา): งูเหลือมขนาดมหึมา จอมเจ้าเล่ห์และเจ้าคารม ผู้สามารถใช้วิชาสะกดจิตให้เมาคลีละลึกภาพในอดีต
  • จีอันการ์โล เอสโปซีโต รับบทเป็น อาเคลา (Akela; ฮินดี: अकेला, อะเกลา): จ่าฝูงผู้สุขุมของเหล่าสุนัขป่า และบิดาบุญธรรมของเมาคลี
  • คริสโตเฟอร์ วอลเคน รับบทเป็น เจ้าลูอี (King Louie): พญาไจแกนโตพิธิคัส ผู้ปกครองฝูงลิงบันดาร์ โล้ก มีความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือต้องการจะรู้ความลับของ "ดอกไม้แดง" หรือ ไฟ ที่อันตรายของพวกมนุษย์ และใช้คารมคมคายของเขาในการหลอกล่อให้เมาคลีคายความลับออกมา
  • แกร์รี แชนด์ลิง รับบทเป็น อิกกิ (Ikki; ฮินดี: इकी, อิกี)[5]; เม่นผู้คอยสังเกตการณ์
  • ไบรตัน โรส รับบทเป็น สหายเทา (Grey Brother)[5]: สุนัขป่าตัวสุดท้องในบรรดาพี่น้องบุญธรรมของเมาคลี
  • จอน แฟฟโรว์ รับบทเป็น เฟร็ด (Fred)[5]: หมูป่าแคระ หนึ่งในมิตรของบาลู
  • แซม ไรมี (Sam Raimi) รับบทเป็น นายลิ่น (Giant Squirrel)[5]: หนึ่งในมิตรของบาลู
  • รัสเซลล์ พีเทอส์ รับบทเป็น แรดร็อกกี (Rocky)[5]
  • แมดลีน แฟฟโร รับบทเป็น แรดราเกล (Raquel)[5]: ลูกสาวของร็อกกี้
  • ซารา อาร์ริงตัน รับบทเป็น นิลกาย

อ้างอิง[แก้]

  1. "THE JUNGLE BOOK [2D] (PG)". British Board of Film Classification. March 29, 2016. สืบค้นเมื่อ March 29, 2016.
  2. Anita Busch and Nancy Tartaglione (April 12, 2016). "'The Jungle Book', 'Barbershop: The Next Cut' To Ignite Weekend Box Office – Preview". Deadline.com. สืบค้นเมื่อ April 13, 2016.
  3. Dave McMarry (April 12, 2016). "'Jungle Book' to Rule Box Office Kingdom With $70 Million Opening". Variety. สืบค้นเมื่อ April 13, 2016.
  4. "The Jungle Book (2016)". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ August 29, 2016.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 "The Jungle Book: Press Kit" (PDF). wdsmediafile.com. The Walt Disney Studios. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-06-26. สืบค้นเมื่อ March 29, 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]