ข้ามไปเนื้อหา

Protect for Windows

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Protect for Windows
นักพัฒนาICZ
รุ่นเสถียร
3.2.23
ระบบปฏิบัติการWindows NT/2000/2003 Server/XP
ประเภทโปรแกรมเข้ารหัส
สัญญาอนุญาตShareware
เว็บไซต์http://protect.icz.biz/

Protect for Windows เป็นส่วนต่อขยายสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการนี้ ด้วยวิธีการเข้ารหัส (Encryption) พัฒนาขึ้น- โดยบริษัท ICZ ประเทศสาธารณรัฐเชค[1]

รูปแบบของ Protect for Windows นั้นเป็นส่วนต่อขยายที่เข้ามาเพิ่มช่องทางในการเก็บรักษาความ ปลอดภัยของข้อมูลในระบบ ปฏิบัติการ windows โดยที่ผู้ใช้สามารถกำหนด Keys และขอบเขตในการเข้ารหัส ข้อมูลเป็นโฟลเดอร์เฉพาะที่ได้เลือกไว้

อัลกอริทึมการเข้ารหัส

[แก้]
อัลกอริทึมที่ Protect for Windows ใช้ในการเข้ารหัส
  • AES (128 bits) - public algorithm (FIPS 197)
  • CAST (80, 128 bits) - public algorithm (RFC 2144)
  • WinCros II (80, 160 bits)

การทำงานของ Protect for Windows คือจะทำการเข้ารหัสไฟล์ภายในโฟลเดอร์ที่เลือกด้วยคีย์ที่สร้างขึ้นจากรหัสผ่าน ที่ผู้ใช้เป็นผู้กำหนด และเมื่อผู้ใช้ต้องการเข้าถึงไฟล์ โปรแกรมจะทำการถอดรหัส ไฟล์ที่ต้องการโดยให้ผู้ใช้ระบุรหัสผ่านที่ใช้ในการสร้างคีย์ สำหรับให้ในการถอดรหัสข้อมูลที่ต้องการ

รูปแบบการใช้งาน

[แก้]

Protect for Windows เป็นซอฟต์แวร์สำหรับช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลโดยวิธีการเข้ารหัส ข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัย โดยมีรูปแบบการปกป้องข้อมูลอยู่สองรูปแบบคือ

  • Off-line Encryption - เป็นการเข้ารหัสตามปกติที่ application level เหมือนกับซอฟต์แวร์เข้ารหัสทั่วไป
  • On-line Encryption - เป็นการเข้ารหัสแบบพิเศษซึ่งใช้ Driver พิเศษมาใช้ในการทำการเข้ารหัสบนระดับ kernel ของระบบปฏิบัติการ

การทำงานในแบบ On-line Encryption

[แก้]

เป็นการปกป้องข้อมูลในแบบพิเศษมีลักษณะเด่นคือช่วยให้ การทำงานกับข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสสะดวก สบายกว่าการเข้ารหัสแบบปกติ โดยที่ Protect จะมี Driver พิเศษแทรกอยู่ระหว่าง I/O Manager และ File System

ในระดับ Kernel ของระบบปฏิบัติการเพื่อทำการเข้าและถอดรหัส ข้อมูลที่อยู่ในไดเร็คทอรี่พิเศษที่ผู้ใช้งานเป็นผู้กำหนดโดยการตั้งชื่อ โฟลเดอร์ โดยให้มีอักขระ "@" เป็นอักขระตัวแรก ของชื่อโฟลเดอร์ นั้นซึ่งการทำงานในระดับkernelมีผลทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ได้ อย่างรวดเร็วไม่ต้อง เสียเวลารอการเข้าและถอดรหัสข้อมูลที่ต้องการใช้เหมือนกับการเข้ารหัส ที่ระดับ application level [2]

การใช้งาน

[แก้]

เนื่องจาก Protect เป็นเพียงส่วนต่อขยายของระบบปฏิบัติการวินโดวส์จึงไม่มีส่วนที่เป็นหน้าต่างหลักเหมือนซอฟต์แวร์เข้ารหัสทั่วไป ผู้ใช้จะใช้งาน Protect ได้ผ่านทางการคลิกเมาส์ขวาและไอคอนพิเศษบน Taskbar

เพื่อเข้ารหัสข้อมูลและปรับแต่งคุณลักษณะของ Protect ตามต้องการ ซึ่งมีวิธีใช้งานเบื้องต้นดังนี้

การสร้าง Key
สามารถทำได้ทางเมนูที่ไอคอนบน Taskbar โดยเลือกคำสั่ง Key... เมื่อทำการสร้าง Key ผู้ใช้จะต้องทำการกำหนดรหัสลับจากนั้น Protect จะนำรหัสลับนั้นไปสร้างเป็น Key เพื่อใช้ในการเข้ารหัสต่อไป
การเข้ารหัสแบบ off-line
เป็นการสร้างไดเร็คทอรี่พิเศษเพื่อเข้ารหัสข้อมูลภายในขอบเขตนั้นในลักษณะ off-line สามารถทำได้โดยคลิกเมาส์ขวาในพื้นที่ที่ต้องการสร้างแล้วเลือก NEW > Protected archive for Protect system เลือก Key ที่ต้องการใช้งานจากนั้นนำข้อมูลที่ต้องการใส่ลงไปในโฟลเดอร์นั้น
การเข้ารหัสแบบ on-line
สามารถทำได้โดยการสร้างโฟลเดอร์ใหม่ตามปกติแต่ให้อักขระนำหน้าชื่อของโฟลเดอร์นั้นเป็น '@' ต่อจากนั้นระบบจะให้ผู้ใช้ทำการเลือก Key เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน ผู้ใช้สามารถใช้งานโฟลเดอร์ได้ตามปกติในขณะที่ข้อมูลภายในโฟลเดอร์นั้นจะได้รับการปกป้องโดย Protect

อ้างอิง

[แก้]