เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์
เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์ในปี ค.ศ. 1868 ถ่ายโดย จูเลีย มาร์กาเร็ต คาเมรอน
เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์ในปี ค.ศ. 1868 ถ่ายโดย จูเลีย มาร์กาเร็ต คาเมรอน
เกิด27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1807(1807-02-27)
พอร์ตแลนด์ รัฐเมน สหรัฐ
เสียชีวิตมีนาคม 24, 1882(1882-03-24) (75 ปี)
เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ
อาชีพกวี, อาจารย์
จบจากวิทยาลัยโบดิน
คู่สมรสแมรี สโตเรอร์ พอตเตอร์
ฟรานเชส อลิซาเบธ แอปเปิลตัน

ลายมือชื่อ

เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์ (อังกฤษ: Henry Wadsworth Longfellow, 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1807 – 24 มีนาคม ค.ศ. 1882) เป็นกวีและอาจารย์ชาวอเมริกัน มีผลงานเด่นคือบทกวี "Paul Revere's Ride" และมหากาพย์ The Song of Hiawatha และ Evangeline ลองเฟลโลว์เป็นกวีที่มีความสามารถในการเขียนกลอนได้หลากหลาย เช่น กลอนเปล่า ลำนำนิทาน และซอนเน็ต[1] และเป็นหนึ่งในกวี Fireside poets ซึ่งเป็นกลุ่มกวีที่มีชื่อเสียงของสหรัฐช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19

เฮนรี วอดส์เวิร์ท ลองเฟลโลว์เกิดในปี ค.ศ. 1807 ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐเมน เป็นบุตรคนที่ 2 จากทั้งหมด 8 คนของสตีเฟนกับซิลปาห์ (นามสกุลเดิม วอดส์เวิร์ท) ลองเฟลโลว์[2] ครอบครัวของลองเฟลโลว์สืบเชื้อสายมาจากชาวอาณานิคมอังกฤษที่ตั้งรกรากในนิวอิงแลนด์ช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1600[3] เมื่ออายุได้ 6 ปี ลองเฟลโลว์เข้าเรียนที่วิทยาลัยพอร์ตแลนด์ ก่อนจะเรียนต่อที่วิทยาลัยโบดินในเมืองบรันสวิค[4] ที่นั่นเขาตีพิมพ์บทกวีกว่า 40 ชิ้นและรู้จักกับแนแธเนียล ฮอว์ธอร์น ผู้ซึ่งต่อมาเป็นนักเขียนคนสำคัญ[5][6] หลังเรียนจบ ลองเฟลโลว์เดินทางไปยุโรปเพื่อเรียนภาษาต่างประเทศอื่น ๆ ก่อนจะกลับมาทำงานเป็นอาจารย์สอน ร่วมกับเป็นบรรณารักษ์และทำงานแปลที่วิทยาลัยโบดิน[7] ในปี ค.ศ. 1834 ลองเฟลโลว์ได้รับจดหมายเชิญให้มาทำงานที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาทำงานอยู่ที่วิทยาลัยนี้เป็นเวลา 20 ปีก่อนจะหันมาเขียนหนังสือเต็มตัว[8] หลังจากนั้นลองเฟลโลว์ใช้เวลาหลายปีในการแปล ดีวีนากอมเมเดีย ของดันเต อาลีกีเอรีจนสำเร็จในปี ค.ศ. 1867[9] ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1860 ลองเฟลโลว์สนับสนุนแนวคิดเลิกทาสและการปรองดองระหว่างฝ่ายเหนือและใต้หลังสงครามกลางเมืองอเมริกา เขาเขียนในบทความปี ค.ศ. 1878 เกี่ยวกับการปรองดองนี้ว่า "ผมมีความปรารถนาเดียว นั่นคือความเป็นอันหนึ่งอันเดียว และความจริงใจตรงไปตรงมาต่อกันระหว่างฝ่ายเหนือและใต้"[10]

ด้านชีวิตส่วนตัว ลองเฟลโลว์แต่งงานครั้งแรกกับแมรี สโตเรอร์ พอตเตอร์ แต่เธอเสียชีวิตหลังแท้งบุตรในปี ค.ศ. 1835 ต่อมาในปี ค.ศ. 1843 เขาแต่งงานใหม่กับฟรานเชส อลิซาเบธ แอปเปิลตัน ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 6 คน[11] ลองเฟลโลว์เสียชีวิตจากเยื่อบุช่องท้องอักเสบที่บ้านในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ในปี ค.ศ. 1882[12]

อ้างอิง[แก้]

  1. Williams (1964), p. 130.
  2. Thompson (1938), p. 16.
  3. Farnham, Russell Clare and Dorthy Evelyn Crawford. A Longfellow Genealogy: Comprising the English Ancestry and Descendants of the Immigrant William Longfellow of Newbury, Massachusetts, and Henry Wadsworth Longfellow. Walrus Publishers, 2002.
  4. Arvin (1963), p. 11.
  5. Arvin (1963), p. 14.
  6. McFarland (2004), pp. 58–59.
  7. Calhoun (2004), p. 40.
  8. Brooks (1952), p. 453.
  9. Irmscher (2006), p. 263.
  10. Irmscher (2006), p. 205.
  11. Gale, Cengage Learning (2016). A Study Guide for Henry Wadsworth Longfellow's "A Psalm of Life". Farmington Hills, Michigan, US: Gale, Cengage Learning. ISBN 9781410356031.
  12. Wagenknecht (1966), p. 11.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]