ข้ามไปเนื้อหา

เอกสิทธิ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิทธิพิเศษของเคานต์พาลาทีนและอัศวินทองคำ โดยเฟอร์ดินานด์ที่สาม ค.ศ. 1653 สิทธิพิเศษนี้ได้รับการพระราชทานโดยเฟอร์ดินานด์ที่สาม แห่งราชวงศ์ฮับสบูร์ก จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แก่วิทยาลัยแพทย์ที่สำคัญแห่งมิลาน ประเทศอิตาลี

เอกสิทธ์ หมายถึง สิทธิพิเศษเฉพาะบุคคลบางคนหรือบางประเภทที่มีคุณลักษณะพิเศษบางประการ[1] ทำให้มีความชอบธรรมในการอ้างสิทธิดังกล่าวเหนือบุคคลอื่น เช่น เอกสิทธิ์การทูต เอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา

เอกสิทธิ์ในรัฐสภา

[แก้]

เอกสิทธิ์ในทางรัฐสภา หมายถึง สิทธิพิเศษในอันที่จะได้รับการยกเว้นบางประการเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่หรือการดำเนินงานในด้านรัฐสภา อันเป็นอำนาจพิเศษที่จะประกันให้สมาชิกรัฐสภาสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนในรัฐสภาได้อย่างเป็นอิสระ ทั้งทางด้านความคิดและร่างกาย[2]

เอกสิทธิ์ (รวมถึงความคุ้มกันด้วย) เป็นแนวคิดที่มีต้นกำเนิดมาระบบรัฐสภาของสหราชอาณาจักร เนื่องจากในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 สมาชิกรัฐสภาของอังกฤษโดยเฉพาะสมาชิกรัฐสภาสามัญ (House of Common) มักถูกจับกุมและฟ้องร้องในข้อหากล่าวคำใส่ร้ายป้ายสีเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร[3] เอกสิทธิ์ของสภาในอังกฤษ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับเอกสิทธิ์ของรัฐสภารัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐสภานิวเซาท์เวลส์นำหลักกฎหมายของอังกฤษมาใช้ แต่อาจมีความแตกต่างเฉพาะบางกรณี[4]

เอกสิทธิ์ช่วยให้สมาชิกสภา ทำหน้าที่ได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกฟ้องหรือลงโทษจากคำพูดหรือความคิดเห็นที่แสดงในการประชุม เป็นหลักประกันเพื่อคุ้มครอง เสรีภาพในการทำหน้าที่ผู้แทนประชาชน[5]

เอกสิทธิ์ในพยานหลักฐาน คือเอกสิทธิ์หรือสิทธิพิเศษของคู่ความหรือบุคคลใด ซึ่งจะต้องเบิกความหรือนำพยานหลักฐานมาแสดงต่อศาล ที่จะปฏิเสธไม่ยอมเบิกความพยานหลักฐานต่อศาลเว้นแต่บุคคลนั้นจะสละเอกสิทธิ์[6]

เอกสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองได้แก่ เอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 130 ได้กำหนดให้เอกสิทธิ์แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาไว้ ได้แก่ เอกสิทธิ์ในการแถลงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น ออกเสียงลงคะแนน ผู้ใดจะนำไปฟ้องร้องไม่ได้ เว้นแต่เป็นการกล่าวถ้อยคำในการประชุมที่มีการถ่ายทอดสดทางวิทยุหรือโทรทัศน์ ซึ่งมีลักษณะเป็นความผิดอาญาหรือทางแพ่งต่อบุคคลอื่นที่มิใช่รัฐมนตรี หรือสมาชิกแห่งสภา เอกสิทธิ์นี้ให้แก่สมาชิกรัฐสภา เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเกรงว่าจะถูกคนใดฟ้องร้อง การอภิปรายในการประชุมสภาที่สมาชิกสภาแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แม้จะทำให้ผู้อื่นเสียหาย หรือมีความผิดฐานหมื่นประมาท ก็ไม่ถูกฟ้องทั้งทางแพ่งและทางอาญา

ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์ของผู้แทนถาวรและเจ้าหน้าที่ของอาเซียน

[แก้]

1. ผู้แทนถาวรของรัฐสมาชิกอาเซียน และ เจ้าหน้าที่ของรัฐสมาชิก ที่ร่วมปฏิบัติงานกับอาเซียน (เช่น ประชุมหรือทำงานแทนอาเซียน) จะได้รับ ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์ เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างอิสระ

2. ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์นี้ ให้มีผลระหว่างการปฏิบัติงานของอาเซียน ต้องสอดคล้องกับ อนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต พ.ศ. 1961 หรือกฎหมายภายในของรัฐสมาชิกที่เกี่ยวข้อง[7]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ltd, Longdo com, metamedia technology co. "คำศัพท์ เอกสิทธิ์ แปลว่าอะไร". พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์. สืบค้นเมื่อ 2025-08-04.
  2. "ทำความรู้จัก "เอกสิทธิ์" ของสมาชิกรัฐสภา". วุฒิสภา (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-08-04.
  3. "เอกสิทธิ์ ส.ส. หมายถึงอะไร ? | Legardy". www.legardy.com. สืบค้นเมื่อ 2025-08-04.
  4. Raksasataya, Amara (1989). Many faces of democracy. Konrad Adenauer Foundation.
  5. ปานแป้น, สุริยา; บุญนันท์, อนุวัฒน์ (2023-01-26). คู่มือสอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ: พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ แก้ไขเพิ่มเติม. สำนักพิมพ์ร่มโพธิ์. ISBN 978-616-598-236-8.
  6. Wichitchonlachai, Phō̜nphēt (1993). คําอธิบายกฎหมายลักษณะพยาน. Samnakphim Ratchadā. ISBN 978-974-89115-5-7.
  7. สังคะพันธ์, สุทัศน์-ศิริทรัพย์ (2014). อาณาจักรอาเซียน. สำนักพิมพ์ เพชรประกาย. ISBN 978-616-344-323-6.