เดอะรูม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดอะรูม
A black-and-white poster for the movie shows Tommy Wiseau's face looking directly at the viewer.
โปสเตอร์เปิดตัวภาพยนตร์
กำกับทอมมี ไวซาว
เขียนบททอมมี ไวซาว
อำนวยการสร้างทอมมี ไวซาว
นักแสดงนำ
กำกับภาพTodd Barron
ตัดต่อEric Chase
ดนตรีประกอบMladen Milicevic
บริษัทผู้สร้าง
Wiseau-Films
ผู้จัดจำหน่าย
  • Chloe Productions
  • TPW Films
วันฉาย27 มิถุนายน ค.ศ. 2003 (2003-06-27)
ความยาว99 นาที[1]
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (~188 ล้านบาท)[2]
ทำเงิน1,900 ดอลลาร์สหรัฐ (~6 หมื่นบาท)[3]

เดอะรูม (อังกฤษ: The Room) เป็นภาพยนตร์อิสระแนวชีวิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา ออกฉาย พ.ศ. 2556 โดยมี ทอมมี ไวโซ(Tommy Wiseau) รับหน้าที่อำนวยการสร้าง เขียนบท กำกับ และแสดงนำ ร่วมกับ เกรก เซสเตโร (Greg Sestero) และ Juliette Danielle เรื่องเกี่ยวกับรักสามเส้าระหว่างนายธนาคารจอห์นนี (แสดงโดยไวซาว), คู่หมั้นผู้มีความลับลิซ่า (แสดงโดย Danielle) และเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ มาร์ก (แสดงโดยเซสเตโร) เนื้อเรื่องส่วนหนึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องย่อยซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องหลัก ซึ่งบางครั้งก็เกี่ยวกับตัวละครสมทบบางราย และบางครั้งก็ถูกปล่อยให้ค้างคาไม่มีบทสรุป ส่วนหนึ่งจากการที่การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ไม่มีความต่อเนื่องโดยสิ้นเชิง ไวซาวกล่าวว่าชื่อเรื่อง The Room ตั้งใจจะสื่อถึงว่าห้องห้องหนึ่งอาจเป็นฉากให้เกิดเรื่องราวได้หลายอย่างทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่ และนอกจากนี้ บทละครเวทีที่เป็นต้นฉบับของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เดินเรื่องอยู่ในห้องเพียงห้องเดียวอีกด้วย[4]

สื่อหลายที่เรียกภาพยนตร์ เดอะรูม ว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา[3] แต่เดิมถูกฉายในโรงหนังเพียงไม่กี่โรงในรัฐแคลิฟอร์เนีย เดอะรูม กลายเป็นภาพยนตร์เกินวิสัยในเวลาอันรวดเร็วด้วยการเล่าเรื่องที่แปลกประหลาดและไม่ธรรมดา ข้อบกพร่องทางเทคนิกและการเล่าเรื่อง รวมถึงการแสดงที่ไม่สม่ำเสมอของไวซาว แม้ไวเซาจะบรรยายว่าภาพยนตร์เป็นแบบตลกร้าย ผู้ชมกลับมองว่ามันเป็นภาพยนตร์ดราม่าที่ทำออกมาได้คุณภาพต่ำ ซึ่งนักแสดงส่วนหนึ่งก็เห็นด้วย

เซสเตโรเขียนหนังสือเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาในชื่อเรื่อง เดอะดิแซสเตอร์อาร์ติสท์ (The Disaster Artist) โดยเขียนร่วมกับ Tom Bissell และตีพิมพ์ใน พ.ศ. 2556 ซึ่งต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกันออกฉายเมื่อธันวาคม พ.ศ. 2560 โดยมีเจมส์ ฟรังโก เป็นผู้กำกับและเป็นนักแสดงนำ ทั้งหนังสือและภาพยนตร์ได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์ และได้รับรางวัลจากหลายเวที

เรื่องย่อ[แก้]

จอห์นนีเป็นนายธนาคารที่ประสบความสำเร็จ เขาอาศัยอยู่ที่ทาวน์เฮาส์ในเมืองซานฟรานซิสโกกับว่าที่ภรรยา ด้วยความไม่พอใจในชีวิตและในจอห์นนี ลิซ่าทำการยั่วยวนเพื่อนสนิท มาร์ก และเริ่มคบกันในฐานะชู้ เมื่อวันแต่งงานใกล้เข้ามา อิทธิผลของจอห์นนีที่ธนาคารลดลง และลิซ่าสลับกันระหว่างเชิดชูและว่าร้ายจอห์นนีให้ครอบครัวของเธอฟัง โดยทั้งโกหกว่าจอห์นนีทำร้ายเธอและปกป้องจอห์นนีจากการวิจารณ์ ระหว่างนั้น จอห์นนีแอบได้ยินลิซ่าสารภาพเกี่ยวกับการนอกใจของเธอให้แม่ของเธอฟัง เขาจึงติดเครื่องดักฟังไว้บนโทรศัพท์ของพวกเขาเพื่อพยายามชี้ตัวผู้เป็นชู้

เดนนี ผู้เป็นนักเรียนข้างบ้านซึ่งจอห์นนีให้ความช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและทางจิตใจ ได้เผชิญหน้ากับผู้ค้ายาติดอาวุธ คริส-อาร์ ผู้ถูกจอห์นนีกับมาร์กปราบ และนำเดนนีมาอยู่ใต้ความดูแล เดนนีมีใจให้ลิซ่าและสารภาพกับจอห์นนี จอห์นนีรู้สึกสับสนและโทรหาปีเตอร์ จิตแพทย์ผู้เป็นเพื่อนของเขาและมาร์ก ปีเตอร์สลับกันระหว่างปกป้องลิซ่าและประเมินว่าเธอเป็นโรคจิต ซึ่งทำให้มาร์ก ผู้รู้สึกผิดกับความที่ตัวเองเป็นชู้ พยายามที่จะฆ่าเขาอยู่ช่วงนึง

ระหว่างงานวันเกิดของจอห์นนี หนึ่งในเพื่อนของเขาจับได้ขณะลิซ่ากำลังจูบกับมาร์ก ระหว่างที่แขกคนอื่นอยู่ข้างนอก และเข้าไปหาเธอ จอห์นนีประกาศว่าเขากับลิซ่ากำลังจะมีลูก แต่ลิซ่ากลับบอกกับแขกว่าเธอโกหกเกี่ยวกับการตั้งท้อง ในคืนนั้น ลิซ่าแสดงว่าเธอเป็นชู้กับมาร์กต่อหน้าจอห์นนีผู้เข้าโจมตีมาร์ก

หลังงานเลี้ยง จอห์นนีขังตัวเองในห้องน้ำด้วยความเศร้า เมื่อเขากลับ เขานำเทปบันทึกเสียงโทรศัพท์กลับไปด้วย และได้ยินบทสนทนาอันใกล้ชิดระหว่างลิซ่าและมาร์ก ด้วยความโมโห จอห์นนีตะคอกลิซ่าเกี่ยวกับการที่เธอหักหลังเขา บอกให้เธอเลิกกับเขาและไปอยู่กับมาร์ก จอห์นนีเสียใจมาก เขาทำลายข้าวของในห้องและใช้ปืนยิงตัวตาย หลังได้ยินเสียง เดนนี มาร์ก และลิซ่าวิ่งขึ้นบันไดมาเจอร่างของจอห์นนี มาร์กโทษว่าการตายของจอห์นนีเป็นความผิดของลิซ่า และบอกให้เธอออกไปจากชีวิต เดนนีบอกให้ทั้งสองคนปล่อยให้เขาอยู่กับจอห์นนีเพียวลำพัง แต่สุดท้ายพวกเขาทั้งหมดก็ปลอบกันและกันจนตำรวจมาถึง

อ้างอิง[แก้]

  1. Foundas, Scott (กรกฎาคม 17, 2003). "Review: 'The Room'". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มิถุนายน 19, 2017. สืบค้นเมื่อ มิถุนายน 16, 2017.
  2. Jones, Nate (มิถุนายน 27, 2013). "How The Room Became the Biggest Cult Film of the Past Decade". Vulture. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มิถุนายน 19, 2017. สืบค้นเมื่อ มิถุนายน 16, 2017.
  3. 3.0 3.1 Collis, Clark (ธันวาคม 12, 2008). "The Crazy Cult of 'The Room'". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มิถุนายน 19, 2017. สืบค้นเมื่อ มิถุนายน 16, 2017.
  4. The Room DVD Bonus Features: Q&A