เกียรติภูมิ สิริพันธุ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เกียรติภูมิ สิริพันธุ์

เกียรติภูมิ สิริพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท

ประวัติ[แก้]

เกียรติภูมิ เกิดที่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2511 เป็นบุตรชายของ นายภาสกร สิริพันธุ์ และนางทัศนีย์ สิริพันธุ์ (นามสกุลเดิม ตะเวทีกุล) จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และในระดับอุดมศึกษาจบการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาโท Master Of Science In Management ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) เมื่อปีพ.ศ. 2537 โดยสามารถสอบชิงทุนรัฐบาลไทย หรือ ทุน ก.พ.ได้ในปี พ.ศ. 2535 และได้กลับมาทำงานใช้ทุนรัฐบาลที่ธนาคารกรุงไทยในโครงการปรับเปลี่ยนระบบงานของธนาคาร (Re Engineering)

ประวัติการทำงาน[แก้]

เกียรติภูมิ เริ่มต้นทำงานที่บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย ในตำแหน่งนักวิเคราะห์ และหลังจากจบปริญญาโทจากสถาบัน MIT ได้ทำงานในสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น Goldman Sachs ธนาคารซันวา/ Bank of Tokyo Mitsubishi UFJ ธนาคารกรุงเทพ และได้รับตำแหน่งสุดท้ายในสายการเงินการธนาคารคือ Senior Vice President & Head of Investment Banking ที่ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หลังจากนั้นเป็นผู้บุกเบิกเริ่มต้นสร้างโครงการด้านพลังงานทางเลือก หลายโครงการเช่น พลังงานชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และอื่นๆ ในประเทศไทย จนได้รับรางวัลต่างๆมากมาย เช่น รางวัล The One Smart Green Hero 2555 รางวัล Smart Energy Hero 2557 รางวัล CEO Thailand Awards 2557 รางวัล HOWE Smart CEO Award 2565 เป็นต้น

งานการเมือง[แก้]

เกียรติภูมิ เริ่มต้นเส้นทางการเมืองครั้งแรกเมื่อได้รับการทาบทามจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ มาดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ในปี 2561 เพื่อการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 และมีส่วนผลักดันให้พรรคได้รับความนิยมในระดับหนึ่งจนทำให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ได้รับคะแนนเสียงประมาณ 480,000 เสียง จนได้ 6 ที่นั่งในสภา ในปี พ.ศ. 2563 นายเกียรติภูมิ ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกสโมสรโรตารีสุขุมวิท

ในปี 2565 ได้เริ่มต้นเข้ามาที่พรรคมวลชนสยาม และได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกพรรคให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และได้เปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคไทยสมาร์ท (จากการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2565) และได้ตั้งสาขาภาคครบทั้ง 4 ภาค ตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว โดยพรรคไทยสมาร์ทมีแนวทางที่จะนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก มาช่วยสร้างรายได้ให้ประชาชน และ ปลดหนี้ และจะผลักดันให้คนไทยและประเทศไทยสมาร์ทตามสโลแกน “ปลดหนี้ มีรายได้ หายจน คนไทยสมาร์ท” และมีอุดมการณ์ที่จะยกระดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศในกลุ่มโลกที่ 1 คือประเทศพัฒนาแล้ว โดยยึดหลักจริยธรรมและความสามารถที่จะบรรลุเป้าหมาย ตามแนวคิดที่ว่า “ประเทศไทยจะสมาร์ท ผู้นำต้องฉลาดและไม่โกง”

[1]

  1. ที่มา : นิตยสาร HOWE พ.ศ.2565