สุลต่านชะรอฟุดดีน อิดริส ชาห์
สุลต่านชะรอฟุดดีน อิดริส ชาห์ | |
---|---|
![]() | |
สุลต่านแห่งรัฐเซอลาโงร์ ประเทศมาเลเซีย | |
ครองราชย์ | 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 |
รัชกาลก่อนหน้า | สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านซาลาฮุดดีน อับดุล อาซิซ |
รัชกาลถัดไป | ยังอยู่ในราชสมบัติ |
พระบรมราชินี | Tengku Permaisuri Norashikin |
พระราชบิดา | สมเด็จพระราชาธิบดีซาลาฮุดดีน อับดุล อาซิซ |
พระราชมารดา | รายา ไซดาตุล อิห์ซาน เทงกู บาดาร์ ชาห์ |
ประสูติ | 24 ธันวาคม พ.ศ. 2488 |
สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านชะรอฟุดดีน อิดริส ชาห์ ทรงเป็นสุลต่านแห่งรัฐเซอลาโงร์ ประเทศมาเลเซีย ประสูติเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2488 เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระราชาธิบดีซาลาฮุดดีน อับดุล อาซิซสุลต่านองค์ก่อนกับรายา ไซดาตุล อิห์ซาน เทงกู บาดาร์ ชาห์ เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544
ชีวิตทรงพระเยาว์และการศึกษา
พระองค์ประสูติเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2488 ที่พระราชวังอิสตานา เจมาอาห์ กลัง เป็นพระราชโอรสพระองค์แรกของราชามูดา (มกุฏราชกุมาร) แห่งสลังงอร์ เติงกู อับดุล อาซิซ ชาห์ (พระอิสรยศในขณะนั้น) และรายาไซดาตุล อิห์ซาน บินตี เติงกู บาดาร์ ชาห์ พระอัครมเหสี (พ.ศ. 2466–2554) ชื่อแรกประสูติ คือเติงกูอิดริส ชาห์ พระราชบิดาของพระองค์เป็นพระโอรสองค์โตของสุลต่านรายา ฮิซามุดดิน แห่งสลังงอร์และรายา ตวนกู อัมปวน เจะมะห์ ซึ่งต่อมาทั้งสองพระองค์ได้กลายเป็นยังดีเปอร์ตวนอากงพระองค์ที่สองและรายาประไหมสุหรีอากงแห่งมาเลเซีย พระมารดาของพระองค์เป็นพระราชนัดดาของทั้งสุไลมานแห่งสลังงอร์และอับดุลจาลิลแห่งเประ ดังนั้นพระราชบิดาและพระราชมารดาของพระองค์จึงเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
พระองค์ได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนประถมศึกษามาเลย์ กัวลาลัมเปอร์เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา จากนั้นพระองค์เข้าเรียนที่สถาบันเซนต์จอห์นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 ถึง พ.ศ. 2502
ในปี พ.ศ. 2503 พระราชบิดาได้เป็นสุลต่านแห่งสลังงอร์ โดยใช้พระนามว่า สุลต่าน ซาลาฮุดดิน อับดุล อาซิซ ชาห์ ในปีเดียวกันพระองค์ได้รับการประกาศให้เป็นราชามูดา (มกุฎราชกุมาร) แห่งสลังงอร์ เมื่อมีพระชนมายุ 15 พรรษา พระองค์ถูกส่งไปต่างประเทศเพื่อศึกษาต่อโดยเข้าเรียนที่ โรงเรียนเฮล ในเมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 และต่อมาศึกษาต่อที่ วิทยาลัยแลงเฮิร์สต์ ในเมืองเซอร์เรย์ สหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507
หลังจากกลับมาจากสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2511 พระองค์เข้าร่วมรัฐบาลในฐานะข้าราชการ และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการรัฐสลังงอร์ภายใต้การบริหารของ ฮารูน อิดริส นายกรัฐมนตรี พระองค์รับราชการในสำนักงานเขตกัวลาลัมเปอร์และกรมตำรวจกัวลาลัมเปอร์
ในปี พ.ศ. 2513 พระองค์ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการและสาบานตนเป็นราชามูดาพระองค์ที่ 8 แห่งสลังงอร์ ในพิธีที่จัดขึ้นที่พระราชวังอิสตานา อาลัม ชาห์ เมืองกลัง
เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2542 พระองค์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งสลังงอร์หลังจากที่พระราชบิดาของพระองค์ขึ้นดำรงตำแหน่ง ยังดีเปอร์ตวนอากง พระองค์ที่ 11
สุลต่านแห่งสลังงอร์เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 พระองค์ได้รับการประกาศให้เป็นสุลต่านแห่งสลังงอร์ สืบต่อจากพระราชบิดา ซึ่งสวรรคตหลังจากดำรงตำแหน่งยังดีเปอร์ตวนอากงได้เพียงสองปี พระองค์ใช้พระนามว่า ชะรอฟุดดิน (หมายถึง ความรู้แจ้งทางศาสนา ในภาษาอาหรับ)
พิธีราชาภิเษก
พิธีราชาภิเษกอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2546 ที่ พระราชวังอาลัมชาห์ เมืองกลัง
พิธีการเริ่มต้นด้วยการเสด็จมายังกองทหารเกียรติยศซึ่งประกอบด้วยทหารเรือจำนวน 103 นาย ของกองทัพเรือมาเลเซีย หลังจากนั้นพระองค์เสด็จเข้าสู่พระที่นั่งบรรลังเสรี (ท้องพระโรง) พร้อมด้วยขบวนของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง พระองค์ประกอบพิธีรวมถึงการจูบอัลกุรอานและจูบเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ก่อนสวมมงกุฎ
พิธีนี้มีสมาชิกราชวงศ์สลังงอร์ สมาชิกราชวงศ์ของมาเลเซียและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางเข้าร่วมพิธี ผู้ที่เข้าร่วมได้แก่ เติงกูอาเมียร์ ชาห์, เติงกูมุสตาฟา คาเมล สุลต่าน มะห์มุด แห่งตรังกานู, ตุนกูนากียุดดิน ตุนกู จาฟาร์แห่งเนเกรี, นัสริน ชาห์ แห่งเประ, มุฮัมหมัดที่ 5 แห่งรัฐกลันตัน, ตุนกูอับดุลมาลิกแห่งเกดะห์,อิบราฮิม อิสมาอิลแห่งยะโฮร์ และอับดุลลาห์แห่งปะหัง นอกจากนี้ยังมีมุขมนตรีอับดุลลาห์ อาเหม็ด บาดาวี ซึ่งเป็นตัวแทนของยังดีเปอร์ตวนอากง แห่งปะลิส, ผู้สำเร็จราชการแห่งปะลิส ตวนกูไซเอ็ด ไฟซุดดิน ปุตรา จามาลุลไล และเจ้าชายฮัจยี อัล มูห์ตาดี บิลลาห์ อิบนิ พระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งราชอาณาจักรบรูไน
บทบาทและหน้าที่
ในฐานะสุลต่าน เป็นที่ทราบกันดีว่าพระองค์ได้เพิกถอนรางวัลของรัฐบาลที่มอบให้โดยพระองค์หรือพระราชบิดาของพระองค์ ในปี 2550 พระองค์ได้เพิกถอนตำแหน่ง ของนักธุรกิจที่สารภาพผิดในข้อหาฉ้อโกงทางการเงิน พระองค์ยังสั่งพักงานคนอื่นๆ ที่ถูกตั้งข้อหาในศาลในข้อหาประพฤติมิชอบต่างๆ หรือเผชิญกับภาวะล้มละลาย ในปี 2554 พระองค์ได้ระงับการลงนามของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม นายชาน กง ชอย ที่เกี่ยวข้องกับการที่บุคคลหลังถูกตั้งข้อหาในศาลจากเรื่องอื้อฉาวในเขตปลอดอากรท่าเรือเมืองกลัง
การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2551 มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ในสลังงอร์ เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลแนวร่วมของชาติ (BN) ไม่สามารถควบคุมสภาของรัฐได้ สุลต่านเป็นประธานในพิธีสาบานตนของ มุขมนตรีแห่งสลังงอร์ที่ไม่ใช่ BN คนแรก
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2552 พระองค์ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดเป็นเวลา 10 ชั่วโมงที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในเมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย
ในช่วงต้นปี 2554 พระองค์พัวพันกับวิกฤตเรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการรัฐ ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนระดับสูงที่สุดของรัฐ รัฐบาลกลางแต่งตั้งโมห์ด คูสริน มูนาวีให้ดำรงตำแหน่ง ซึ่งสุลต่านทรงยินยอม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแห่งรัฐที่นำโดย ปากาตัน รักยัต คัดค้านการแต่งตั้ง ในที่สุดรัฐบาลของรัฐก็ยอมอ่อนข้อ และคูสรินเข้ารับหน้าที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554
พระองค์ดำรงตำแหน่งอธิการบดีฝ่ายอำนวยการของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมารา (UiTM) ตั้งแต่ปี 2543 ถึง 2548 และเป็นอธิการบดีปัจจุบันของมหาวิทยาลัยปุตรา มาเลเซีย ตั้งแต่ปี 2545
การอภิเษกสมรสและพระราชบุตร
พระองค์ทรงอภิเษกสมรส 3 ครั้ง
ในปี 2511 ในฐานะเติงกูอิดริส พระองค์อภิเษกสมรสกับ รายาซารินา บินตี รายา ตัน ศรี ไซนาล การอภิเษกสมรสสิ้นสุดลงด้วยการหย่าร้างในปี 2529 มีพระราชธิดา 2 พระองค์
• เติงกูเซราฟินา(ประสูติ พ.ศ. 2512) ปัจจุบันเป็นผู้ประกอบการในลอนดอน พระองค์แต่งงานกับ คอลิน ซาเลม พาร์เบอรี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2547
• เติงกูซาตาชาห์(ประสูติ พ.ศ. 2516) ปัจจุบันเป็น CEO ของ Light Cibles Malaysia และเป็นนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม พระองค์แต่งงานกับ ออบรี ราฮีม เมนเนสสัน (เกิด พ.ศ. 2515) ชาวฝรั่งเศส ที่มัสยิดหลวงแห่งปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ที่พระราชวังอาลัมชาห์ เมืองกลัง
ในปี 2531 ในฐานะเติงกูอิดริส พระองค์อภิเษกสมรสกับนูร์ลิซา อิดรีส บินตี อับดุลลาห์ (ลิซา เดวิส) สาวชาวอเมริกัน แต่ทรงหย่าร้างกันในปี 2540 และมีพระราชโอรสด้วยกัน 1 พระองค์
• เติงกูอาเมียร์ ชาห์ (ประสูติ พ.ศ. 2533) ราชามูดา (มกุฎราชกุมาร) แห่งสลังงอร์คนปัจจุบัน
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 ในฐานะสุลต่าน พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับผู้ประกาศข่าวชื่อดัง นางสาวโนราชิกิ อับดุล ราห์มาน ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในพระนามเติงกู ประไหมสุหรี โนราชิกิ พิธีการดำเนินการที่มัสยิดเขตพระราชวังอาลัมชาห์ เมืองกลัง
ความสนใจ
พระองค์เป็นที่รู้จักในเรื่องการผจญภัย ท่องโลกกว้างและปีนภูเขา เมื่อมีพระชนมายุ 30 พรรษา
ก่อนที่จะมาเป็นสุลต่าน พระองค์เป็นกะลาสีตัวยง ในปี พ.ศ.2538 พระองค์ล่องเรือยอทซ์ SY Jugra ไปทั่วโลก การเดินทางใช้เวลา 22 เดือน พระองค์ขายเรือยอทซ์ก่อนที่จะกลายเป็นสุลต่าน กิจกรรม Raja Muda Selangor International Regatta ซึ่งเป็นกิจกรรมการแล่นเรือใบประจำปีที่สำคัญได้รับการตั้งชื่อตามพระนาม
พระองค์ยังมีส่วนร่วมในการแข่งขันแรลลี่และการแข่งรถทางไกลอีกด้วย พระองค์เข้าร่วมและเสร็จสิ้นการแข่งขัน Peking to Paris Motor Challenge ในปี พ.ศ.2540 ด้วยรถ Ford Model B ปี พ.ศ. 2475 วิ่งได้ 16,000 กม. ใน 43 วัน คว้าเหรียญเงินในประเภทรถโบราณ ในปี พ.ศ. 2529 พระองค์ขับรถ Proton Saga จากโคตาคินาบาลูไปยังกูชิง รวมระยะทาง 1,111 กม. ในสองวัน