วิเวียน ทอมัส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วิเวียน ทอมัส
เกิดวิเวียน ทีโอดอร์ ทอมัส
29 สิงหาคม 1910
เลคพรอวีเดนซ์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐ
เสียชีวิต26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1985(1985-11-26) (75 ปี)
บอลทิมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐ
การศึกษาเพิร์ลไฮสกูล
อาชีพการงานทางการแพทย์
วิชาชีพอาจารย์สาขาศัลยศาสตร์
สถาบันโรงพยาบาลจอนส์ ฮอปคินส์, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์
งานวิจัยโรคทารกเขียว

วิเวียน ทีโอดอร์ ทอมัส (อังกฤษ: Vivien Theodore Thomas; 29 สิงหาคม 1910[1] – 26 พฤศจิกายน 1985)[2] เป็นผู้ดูแลห้องทดลองชาวอเมริกันผู้พัฒนาหัตถการรักษาภาวะทารกเขียวในทศวรรษ 1940[3] เขาเป็นผู้ช่วยให้กับศัลยแพทย์ อัลเฟรด เบลล็อก ในการทดลองในห้องทดลองสัตว์ที่มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี และต่อมาที่มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปคินส์ในบอลทิมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทอมัสมีความพิเศษที่เขาไม่เคยได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการหรือมีประสบการณ์ในห้องทดลองเพื่อการวิจัยมาก่อน กระนั้นเขาได้ดำรงตำแหน่งผู้ดูแลห้องทดลองศัลยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปคินส์ นานถึง 35 ปี และในปี 1976 เขาได้รับวุฒิดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (honorary doctorate) จากมหาวิทยาลัย และยังได้รับการแต่งตั้งเป็นอาจารย์สาขาวิชาศัลยศาสตร์ (instructor of surgery) ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย[3] แม้เขาจะจบการศึกษาในระบบเพียงแค่ระดับมัธยม

เรื่องราวของเขาถูกนำมาผลิตเป็นภาพยนตร์และสารคดี เช่น สารคดีโดยพีบีเอส เรี่อง Partners of the Heart[4] ออกฉายในปี 2003 ผ่านทาง อเมริกันเอ็กซ์พีเรียนซ์ ของพีบีเอส, ภาพยนตร์ของเอชบีโอ ปี 2004 เรื่อง Something the Lord Made ที่ซึ่งมอส เด็ฟ แสดงเป็นทอมัส

อ้างอิง[แก้]

  1. Soylu, Erdinc; Athanasiou, Thanos; Jarral, Omar A (May 2017). "Vivien Theodore Thomas (1910–1985): An African-American laboratory technician who went on to become an innovator in cardiac surgery". Journal of Medical Biography. 25 (2): 106–113. doi:10.1177/0967772015601566. PMID 26307408. S2CID 31036235.
  2. Johnson, George D. (2011). Profiles in Hue. Light of the Savior Ministries. p. 76. ISBN 978-1-4568-5119-4. สืบค้นเมื่อ February 14, 2012.
  3. 3.0 3.1 "Vivien T. Thomas, L.L.D." Medical archives. Johns Hopkins Medical Institutions. สืบค้นเมื่อ March 18, 2014.
  4. "Almost a Miracle". Hopkinsmedicine.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2012. สืบค้นเมื่อ March 8, 2012.