รีสปอว์น เอนเตอร์เทนเมนท์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รีสปอว์น เอนเตอร์เทนเมนท์
อุตสาหกรรมวิดีโอเกม
ก่อตั้ง12 เมษายน 2010; 13 ปีก่อน (2010-04-12)
ผู้ก่อตั้ง
  • เจสัน เวสต์
  • วินซ์ ซัมเปลลา
สำนักงานใหญ่,
จำนวนที่ตั้ง
3 (2566)[1]
พื้นที่ให้บริการ
ทั่วโลก
บุคลากรหลัก
วินซ์ ซัมเปลลา (CEO)
ผลิตภัณฑ์ชุดไททันส์ฟอลล์
เอเพ็กซ์เลเจนส์
สตาร์ วอร์ส เจได: ฟอลเลนออร์เดอร์
มีเดล ออฟ ฮอนเนอร์: อะโบฟแอนด์บียอนด์
สตาร์ วอร์ส เจได: เซอร์ไวเวอร์
พนักงาน
315 (2562)
บริษัทแม่อิเล็กทรอนิก อาตส์ (2560–ปัจจุบัน)
บริษัทในเครือรีสปอว์น เอนเตอร์เทนเมนท์ แวนคูเวอร์
รีสปอว์น เอนเตอร์เทนเมนท์ วิสคอนซิน
เว็บไซต์respawn.com

รีสปอว์น เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นสตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งในปี 2553 โดย เจสัน เวสต์ และ วินซ์ ซัมเปลลา และเป็นของอิเล็กทรอนิก อาตส์ (EA) ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา

รีสปอว์นเปิดตัวด้วยเกมไททันส์ฟอลล์ในปี 2557 ต่อมาอิเล็กทรอนิก อาตส์ได้เข้าซื้อสตูดิโอในเดือนธันวาคม 2560 และเปิดตัวเกมเอเพ็กซ์เลเจนส์ซึ่งเป็นเกมเล่นฟรีในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามด้วยการวางจำหน่ายเกมสตาร์ วอร์ส เจได: ฟอลเลนออร์เดอร์ในปีเดียวกัน นอกจากนี้รีสปอว์นยังได้พัฒนาเกม มีเดล ออฟ ฮอนเนอร์: อะโบฟแอนด์บียอนด์ ซึ่งได้รวมสารคดีขนาดสั้นชื่อโคเล็ตต์ที่ได้รับรางวัลออสการ์ไว้ในโบนัสของเกมด้วย[2]

ประวัติ[แก้]

เจสัน เวสต์ และ วินซ์ ซัมเปลลา เป็นผู้นำในอินฟินิตี้วอร์ด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือแอคทิวิชัน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2545 โดยอินฟินิตี้วอร์ดเป็นสตูดิโอหลักที่พัฒนาเกมชุดคอลล์ออฟดิวตี และได้เปิดตัวคอลล์ออฟดิวตี 4: มอเดิร์นวอร์แฟร์ในปี 2550 นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของเกมชุดนี้ เวสต์และซัมเปลลาจึงได้ใช้ความสำเร็จดังกล่าวเจรจาต่อสัญญากับแอคทิวิชันในปี 2551 โดยขอควบคุมงานสร้างสรรค์และโบนัสจำนวนมากเพื่อแลกกับการเปิดตัว คอลล์ออฟดิวตี: มอเดิร์นวอร์แฟร์ 2 ในปี 2552 ซึ่งแอคทิวิชันได้ตกลงโดยมีเงื่อนไขว่าแอคทิวิชันจะกลับมาเป็นผู้ควบคุมงานหากทั้งคู่ถูกไล่ออก นับจากนั้นแอคทิวิชันได้มองหาข้อขัดแย้งจากสัญญานั้น ส่วนเวสต์และซัมเปลลาก็มองหาวิธีที่ทำให้อินฟินิตี้วอร์ดเป็นอิสระ ต่อมาในเดือนมีนาคม 2553 ทั้งสองถูกไล่ออกจากแอคทิวิชันและสูญเสียโบนัส ทำให้มีการฟ้องร้องหลายคดีตามมา โดยเวสต์และซัมเปลลากล่าวหาแอคทิวิชันเรื่องการค้างชำระโบนัส ขณะที่แอคทิวิชันโต้กลับว่าทั้งคู่สมคบคิดกับอิเล็กทรอนิก อาตส์เพื่อสร้างความเสียหายให้กับอินฟินิตี้วอร์ด แต่ท้ายที่สุดคดีเหล่านี้ก็ถูกตัดสินให้พ้นจากศาล[3]

ในเดือนเมษายน 2553 หนึ่งเดือนหลังออกจากแอคทิวิชัน เวสต์และซัมเปลลาได้ก่อตั้ง รีสปอว์น เอนเตอร์เทนเมนท์ สตูดิโออิสระแห่งใหม่ ด้วยเงินทุนจาก EA ผ่านทางโปรแกรมหุ้นส่วน EA ซึ่งเวสต์และซัมเปลลาจะยังคงมีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดที่พวกเขาผลิตขึ้นในอนาคต [4] [5] [6] จากนั้นวันที่ 10 กรกฎาคม 2553 พนักงานอินฟินิตี้วอร์ด 38 คนจาก 46 คนที่ลาออกจากสตูดิโอหลังเวสต์และซัมเปลลาถูกไล่ออกได้ตั้งสถานะการเซ็นสัญญากับรีสปอว์น เอนเตอร์เทนเมนท์ผ่านโปรไฟล์ ลิงกต์อินและเฟซบุ๊กของพวกเขา [7] [8]

อ้างอิง[แก้]

  1. Valentine, Rebekah (May 18, 2020). "Respawn marks its ten-year anniversary with a new Vancouver studio". GamesIndustry.biz. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 19, 2020. สืบค้นเมื่อ May 18, 2020.
  2. Spangler, Todd (15 March 2021). "Facebook Gets First-Ever Oscar Nomination for 'Colette' Documentary Short". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 2, 2023. สืบค้นเมื่อ 30 March 2021.
  3. Chafkin, Max (June 11, 2013). "MODERN WARFARE". Vanity Fair. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 9, 2015. สืบค้นเมื่อ January 2, 2020.
  4. Pham, Alex; Ben Fritz (April 12, 2010). "Jason West and Vincent Zampella's new call of duty". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 13, 2010. สืบค้นเมื่อ May 21, 2010.
  5. Grant, Christopher (April 12, 2010). "Respawn Entertainment announced by ex-IW heads, partnering with EA". Joystiq. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 17, 2016. สืบค้นเมื่อ May 21, 2010.
  6. Reilly, Jim (April 12, 2010). "Infinity Ward Founders Developing A 'Big Blockbuster'". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 9, 2013. สืบค้นเมื่อ May 21, 2010.
  7. "Who Remains At Infinity Ward ?". Cynicalsmirk.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 30, 2020. สืบค้นเมื่อ May 21, 2010.
  8. "Who Remains at Infinity Ward?". cynicalsmirk.com. May 25, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 20, 2012. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.