ยูนิคอร์นกันดั้ม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ยูนิคอร์นกันดั้ม(ญี่ปุ่น: ユニコーンガンダム  ;อังกฤษ: Unicorn Gundam) เป็นโมบิลสูทตัวเอกของไลท์โนเวลและโอวีเอ โมบิลสูทกันดั้มยูนิคอร์น ออกแบบโดยฮาจิเมะ คาโทกิ ชื่อยูนิคอร์นมาจากลักษณะที่มีเขาเสาอากาศเสาเดียวอยู่กลางหน้าผาก

RX-0 ยูนิคอร์นกันดั้ม
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทโมบิลสูทรุ่นทดลอง
ความสูง19.7 เมตร (ร่างยูนิคอร์น)
21.7 เมตร (ร่างเดสทรอย)
น้ำหนัก23.7 ตัน
เกราะโลหะผสมกันดาเรียม
กำลังเครื่อง3480 kW
อุปกรณ์บีมแม็กนัม
ปืนวัลแคน
บีมเซเบอร์
ไฮเปอร์บาซูก้า
บีมแก็ตลิงกัน
โล่ (ติดตั้งเครื่องกำเนิดสนามพลังIฟิลด์)
คุณสมบัติพิเศษไซโคเฟรม
ระบบ NT-D
La+
นักบินสำคัญบานาจ ลิงซ์

ยูนิคอร์นกันดั้มเป็นโมบิลสูทที่ได้รับการพัฒนาในโปรเจกต์UC มีลักษณะเด่นที่ใช้ระบบไซโคเฟรมควบคุมทั้งตัวและยังมีระบบต่อต้านนิวไทป์ NT-D (ในช่วงแรกนั้นระบุว่ามาจาก NewType Drive แต่ชื่อจริงได้รับการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเป็น NewType Destoyer) และลาพลัส (La+) ซึ่งกุญแจสำหรับนำทางไปยังกล่องของลาพลัสซึ่งเป็นที่ที่เก็บซ่อนความลับของการตั้งสหพันธ์โลกและอาณาจักรซีอ้อนไว้

คาเดียส วิสต์ ผู้นำของตระกูลวิสต์ซึ่งนำยูนิคอร์นกันดั้มไปให้แอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกที่อาณานิคมอินดัสเทรียล7และติดตั้งลาพลัสไว้กับยูนิคอร์น แต่อินดัสเทรียล7ก็ถูกกองกำลังของนีโอซีอ้อนเข้าโจมตีและคาเดียสก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนตายนั้นคาเดียสได้มอบยูนิคอร์นกันดั้มให้ บานาจ ลิงซ์ นักเรียนของวิทยาลัยอุตสาหกรรมแอนาไฮม์ซึ่งเป็นลูกชายของตัวเองขึ้นควบคุม เนื่องจากระบบของลาพลัสได้ลงทะเบียนบานาจไว้ในฐานะนักบินของยูนิคอร์นกันดั้มแล้ว จึงไม่มีใครสามารถบังคับยูนิคอร์นกันดั้มได้อีก

ความสามารถ[แก้]

ในเวลาปกติ ยูนิคอร์นกันดั้มจะอยู่ในโหมดยูนิคอร์น ซึ่งเป็นสีขาวทั้งตัว แต่เมื่อเข้าต่อสู้กับศัตรูที่เป็นนิวไทป์ ระบบ NT-Dจะทำงานโดยอัตโนมัติและยูนิคอร์นกันดั้มจะเข้าสู่ เดสทรอยโหมด ซึ่งเขาของยูนิคอร์นกันดั้มจะกางออกเป็นแบบVฟินและเกราะหน้าจะเปิดออกเป็นแบบกันดั้มทั่วๆไป นอกจากนี้เกราะทั้งตัวของยูนิคอร์นจะเลื่อนเปิดให้ ในสภาพนี้ไซโคเฟรมจะส่องแสงสีแดงและความสูงของยูนิคอร์นกันดั้มจะสูงขึ้นสองเมตร ในโหมดเดสทรอยนี้ สมรรถนะของยูนิคอร์นกันดั้มจะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าของโหมดยูนิคอร์น โดยเฉพาะการควบคุมด้วยพลังจิตผ่านไซโคเฟรมทำให้นักบินสามารถควบคุมยูนิคอร์นกันดั้มได้เหมือนร่างกายตัวเอง แต่เนื่องจากโมบิลสูทมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์มาก นอกจากนั้น ชุดนักบินของยูนิคอร์นกันดั้มยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้ช่วยกระตุ้นสารเคมีในร่างกายนักบินเพื่อให้สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงได้ สภาพร่างกายและจิตใจของนักบินจึงต้องรับภาระหนัก ยูนิคอร์นกันดั้มจึงสามารถต่อสู้ในโหมดเดสทรอยได้เพียงห้านาทีเท่านั้นก่อนกลับเป็นโหมดยูนิคอร์น ในโหมดเดสทรอยนี้ ยูนิคอร์นกันดั้มยังมีความสามารถควบคุมอาวุธไซคอมมิวของศัตรูและบังคับให้กลับไปทำลายเจ้าของได้

อุปกรณ์[แก้]

อาวุธของยูนิคอร์นกันดั้มประกอบด้วยบีมเซเบอร์สี่เล่ม โดยสองเล่มแรกนั้นติดไว้ที่แขนและสามารถพับใช้งานโดยไม่ต้องใช้มือถือเหมือนเป็นทอนฟาได้ ส่วนอีกสองเล่มอยู่ที่แบ็คแพ็คซึ่งเมื่อเป็นเดสทรอยโหมดจะเลื่อนขึ้นมาด้านบน ในตำแหน่งเดียวกับกันดั้มรุ่นแรก บีมไรเฟิลของยูนิคอร์นกันดั้มเป็นบีมแม็กนัมซึ่งใช้ตลับEแพ็คแบบพิเศษ บีมแม็กนัมนี้สามารถยิงได้ทั้งลำแสงแบบปกติและลำแสงอานุภาพสูงซึ่งจะใช้พลังงานทั้งหมดจากตลับEแพ็คในครั้งเดียว บีมที่ยิงโดยใช้พลังงานทั้งหมดนี้มีพลังทำลายเทียบได้กับเมก้าบีมแคนน่อนและสามารถยิงได้ต่อเนื่องสี่วินาที โดยยูนิคอร์นกันดั้มจะมีEแพ็คสำรองอีกห้าตลับเก็บไว้ที่แบ็คแพ็ค โล่ของยูนิคอร์นกันดั้มก็จะกางออกเมื่อเป็นโหมดเดสทรอยเช่นกัน และในสภาพนี้เครื่องกำเนิดสนามพลังIฟิลด์บาเรียร์ที่ติดอยู่กับโล่จะทำงาน ทำให้สามารถป้องกันอาวุธบีมได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาวุธอื่นๆของยูนิคอร์นประกอบด้วยไฮเปอร์บาซูก้าและปืนกลบีมแก็ตลิง

แบนชี[แก้]

แท้จริงแล้วยูนิคอร์นกันดั้มยังมีเครื่องหมายเลข 2 หรือ แบนชี ซึ่งได้ทำการทดสอบโดยสถาบันออกัสตาบนโลกและใช้ข้อมูลของยูนิคอร์นกันดั้ม แบนชีนั้นมีสีดำและเมื่อเข้าสู่โหมดเดสทรอย เสาอากาศที่ส่วนหัวจะกางออกคล้ายกับแผงคอของสิงโตและแสงจากไซโคเฟรมจะเป็นสีทอง ความสามารถโดยรวมของแบนชีจะใกล้เคียงกับยูนิคอร์น แต่สามารถต่อสู้กลางอากาศได้ดีกว่าและไม่มีลาพลัส นักบินของแบนชีก็คือมาริดา ครูซ และต่อมาได้เปลี่ยนเป็นริดดี มาเซนัส

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]