ยูกลีนา
ยูกลีนา | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | Eukaryote |
อาณาจักร: | Protista |
ไฟลัมใหญ่: | Discoba |
ไฟลัม: | Euglenozoa |
ชั้น: | Euglenoidea |
อันดับ: | Euglenales |
วงศ์: | Euglenaceae |
สกุล: | Euglena Ehrenberg, 1830 |
ยูกลีนา (euglena) เป็นสัตว์เซลล์เดียวขยายพันธุ์ได้โดยวิธีแบ่งเซลล์ มีลักษณะเป็นรูปกระสวย หน้าป้าน ท้ายเรียว มีเยื่อหุ้มหนาเรียก เพลลิเคิล (Pellicle) มีช่องเปิดขนาดเล็ก เรียก ไซโตสโตม (Cytostome) เชื่อมต่อเซลล์เป็นช่องเรียก canal และ ตอนปลายจะพองออกมีลักษณะเป็นถุงเรียกว่า รีเซอวัว (Reservoir) ทั้ง canal และ resovior รวมเรียกว่า ไซโตฟาริงซ์ (Cytopharynx) โดยที่ช่วงฐานจะมีส่วนที่เรียกว่า เรียก ไคเนโตโซม หรือ เบลฟฟาโรพลาสต์ หรือ เบซอลบอดี (Kinetosome or Blepharoplast or Basal body) เป็นที่เกิดของแฟลเจลลัม โดยมี 2 เส้น เส้นยาวยื่นจากไซโตสโตม เพื่อใช้ในการเคลื่อนที่, เส้นสั้นอยู่ภายในรีเซอวัว -มีคอนแทร็กไทล์แวคิวโอลลักษณะทรงกลมอยู่ทางด้านข้างของรีเซอวัว โดยมีแวคิวโอลขนาดเล็กล้อมรอบอยู่ ทำหน้าที่รวบรวมน้ำ และกำจัดน้ำโดยการหดตัว ทาง canal ของ gullet euglena มีจุดตาสีแดง (Eye spot or Stigma) เพราะมี caroteinoid pigment granules ลักษณะเป็นรูปถ้วยอยู่ทางด้านข้างไซโตฟาริงซ์ ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของแสงส่งไปยังอวัยวะรับความรู้สึกที่โคน flagellum ที่เรียกว่า paraflagellar body (rod) หรือ paraxonemal หรือ paraxial body เพื่อทำให้เกิดการเคลื่อนที่พัดโบกไปยังตำแหน่งของแสงที่สองมาเป็นการตอบสนองที่เรียกว่า phototaxis
ตัวของยูกลีนาเป็นสีเขียว เนื่องจากมีคลอโรพลาสต์รูป Large plated chloroplasts with the so-called double sheeted pyrenoid, that is, a pyrenoid which carries on both plastid surfaces a watch glass shaped cup of paramylon อยู่ในไซโตพลาสซึม จัดเป็น mixotroph เพราะ เมื่ออยู่ในสภาพที่มีแสงจะดำรงชีวิตแบบ autophototroph อาหารสะสมเป็นพาราไมลอนกระจายในเซลล์ ถ้าอยู่ในสภาพที่ไม่มีแสงจะดำรงชีวิตแบบ heterotroph แบบ holozoic nutrition หรือ phagocytosis โดยคลอโรฟิลล์จะสลายไป เรียก bleached euglena หรือ mutant euglena ซึ่งอาจเกิดขึ้นเองหรือเกิดจากการชักนำ (induction) เช่น ความมืด,ยา, UV light,ความร้อน เป็นต้น พวกนี้จะแค่ protoplastid ที่ยังไม่กลายเป็น mature chloroplast แต่ถ้ากลับมาอยู่ในสภาพที่มีแสงใหม่ 4 ชั่วโมงพบยูกลีนาจะสร้างคลอโรฟิลล์ขึ้นมาใหม่โดย protoplastid มีลักษณะรูปร่างยาวขึ้นและ เริ่มเป็นชั้นของ lamellae เกิดขึ้น (lamination of chloroplast) หลังจากนั้น 72 ชั่วโมงพบว่าเหมือนกับ euglena ปรกติที่สามารถสังเคราะห์แสงได้ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า light-dark adaptation
การสืบพันธุ์
[แก้]การสืบพันธุ์ของยูกลีนาเป็นแบบไม่อาศัยเพศ โดยการแบ่งเซลล์ตามยาวจากด้านหน้าไปยังด้านท้าย ในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมยูกลีนาจะแบ่งตัวในซีสต์ โดยเซลล์หดตัวเป็นรูปกลมหุ้มด้วยเยื่อเจลลาติน (Gelationous covering) เป็นการเข้าเกราะ จากนั้นยูกลีนาจึงเริ่มแบ่งตัว ซึ่งจะได้ยูกลีนามากกว่า 1 ตัวใน 1 ซีสต์