มายฮีโร (วิดีโอเกม)
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
มายฮีโร/เซชุงสแกนดัล | |
---|---|
งานศิลปะกล่องเวอร์ชันยุโรป | |
ผู้พัฒนา | คอร์แลนด์ (อาร์เคด) เซกา (มาสเตอร์ซิสเตม) |
ผู้จัดจำหน่าย | เซกา |
ออกแบบ | โคตาโร ฮายาชิดะ[1] |
เครื่องเล่น | อาร์เคด, มาสเตอร์ซิสเตม |
วางจำหน่าย | อาร์เคด มาสเตอร์ซิสเตม
|
แนว | บีตเอ็มอัป |
รูปแบบ | ผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น |
ระบบอาร์เคด | เซกาซิสเตม 1 |
มายฮีโร (อังกฤษ: My Hero) หรือที่รู้จักในชื่อเซชุงสแกนดัล (ญี่ปุ่น: 青春スキャンダル, การแปลตรงตัว 'วัยรุ่นฉาวโฉ่') ในประเทศญี่ปุ่น[3] เป็นเกมแนวบีตเอ็มอัปแบบเลื่อนด้านข้างที่วางจำหน่ายโดยบริษัทเซกาสำหรับอาร์เคดใน ค.ศ. 1985 และสำหรับมาสเตอร์ซิสเตมในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1986 ซึ่งเกมนี้ได้รับการออกแบบโดยโคตาโร ฮายาชิดะ[1]
รูปแบบการเล่นจะคล้ายกับเกมกังฟูมาสเตอร์ของบริษัทไอเรมที่วางจำหน่ายใน ค.ศ. 1984[7] แต่มายฮีโรแตกต่างจากเกมศิลปะการต่อสู้ก่อนหน้า โดยได้เบี่ยงเบนจากฉากศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิม[4] และแทนที่ด้วยการเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมในเมืองร่วมสมัยที่มีแก๊งข้างถนน ซึ่งเหมือนเกมแนวบีตเอ็มอัปในเวลาต่อมา เช่น เรนอิเกด (ค.ศ. 1986) และดับเบิลดรากอน (ค.ศ. 1987)[7]
รูปแบบการเล่น
[แก้]เวอร์ชันอาร์เคดประกอบด้วยสามด่านที่ต่างกัน โดยแต่ละด่านจะดำเนินวนซ้ำต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนกว่าผู้เล่นจะหมดชีวิต ซึ่งเริ่มด้วยตัวละครของผู้เล่น (ที่ชื่อทาเกชิในประเทศญี่ปุ่น และชื่อสตีเวนตามปรากฏในใบปลิวอาร์เคดของทวีปยุโรป)[8] ขณะเดินชมถนนในเมือง ก็ได้มีนักเลงวิ่งมาโฉบแฟนสาวของเขาไป (ที่ชื่อเรมีตามปรากฏในใบปลิวอาร์เคด หรือชื่อมาริในประเทศญี่ปุ่น) ขณะที่เขาไล่ตามมัน เขาจะต้องต่อสู้กับแก๊งอันธพาลข้างถนนคนอื่น ๆ เมื่อผ่านไปได้ครึ่งทางของด่าน สตีเวนมีโอกาสที่จะช่วยชีวิตผู้เห็นเหตุการณ์ที่ถูกคุมตัว ซึ่งหากได้รับการช่วยเหลือก็จะช่วยเขาต่อสู้จนกว่าผู้เห็นเหตุการณ์นี้จะถูกกำจัด ไม่นาน (หลังจากกระโดดข้ามบรรดาแท่นและหลบลูกไฟ) สตีเวนก็มาถึงชายหาดและต่อสู้กับอันธพาลที่จับกุมเรมีไว้ หลังจากที่บอสของด่านนี้พ่ายแพ้หลังจากถูกโจมตี 10 ครั้ง ก็จะผ่านด่านดังกล่าว ซึ่งกระบวนการเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นซ้ำในช่วงที่เหลือของเกม เฉพาะการออกแบบกับบอสและด่านอีกสองด่านเท่านั้น ซึ่งการออกแบบด่านที่ 2 มีลักษณะคล้ายกับมหากาพย์นินจาญี่ปุ่นยุคเอโดะ โดยมีศัตรูและบอสในธีมนินจา ตามด้วยธีมไซไฟที่อิงจากซีรีส์พิภพวานรอย่างหลวม ๆ รวมถึงศัตรูที่เป็นมนุษย์วานร และบอส
เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ในเซกาการ์ด พอร์ตเซกา มาสเตอร์ซิสเตม จึงนำเสนอเฉพาะแก๊งข้างถนนใน 3 ด่านที่จะวนซ้ำอย่างต่อเนื่องจนกว่าผู้เล่นจะเสียชีวิตทั้งหมดและเกมโอเวอร์ ส่วนศัตรูที่เป็นนินจา และมนุษย์วานรจากเวอร์ชันอาร์เคดจะถูกละไว้
การตอบรับ
[แก้]ในประเทศญี่ปุ่น เกมแมชชีนฉบับวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1985 ได้จัดอันดับให้มายฮีโรเป็นยูนิตอาร์เคดบนโต๊ะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเดือน[9]
ไมก์ รอเบิตส์ และสตีฟ ฟิปส์ จากนิตยสารคอมพิวเตอร์เกมเมอร์ได้วิจารณ์เกมเวอร์ชันอาร์เคดในเชิงบวก พวกเขากล่าวว่าถึงแม้ "จะธรรมดากว่าเกมแฮงก์-ออน ที่น่าทึ่งนิดหน่อย" แต่ก็ยัง "ค่อนข้างสนุก" และมี "รูปแบบที่สนุกสนานของธีมเกมกังฟู" พวกเขาเล่าว่า "ฉากและกราฟิกที่ดีทำให้เกมนี้เป็นเกมที่สนุกสนาน" พร้อมด้วยปริศนาที่ "ค่อนข้างยาก"[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "Alex Kidd in Miracle World – Developer Interview". December 13, 2021.
- ↑ 2.0 2.1 "My Hero (Registration Number PA0000297606)". สำนักงานลิขสิทธิ์แห่งสหรัฐ. สืบค้นเมื่อ 8 May 2021.
- ↑ 3.0 3.1 "青春スキャンダル" [Seishun Scandal]. Media Arts Database (ภาษาญี่ปุ่น). Agency for Cultural Affairs. สืบค้นเมื่อ 8 May 2021.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Roberts, Mike; Phipps, Steve (October 1985). "Coin-Op Connection". Computer Gamer. No. 7. United Kingdom: Argus Press. pp. 18–9.
- ↑ "Availability Update" (PDF). Computer Entertainer. October 1986. p. 14.
- ↑ "Sega Mark III". セガハード大百科 (ภาษาญี่ปุ่น). Sega. สืบค้นเมื่อ 15 August 2021.
- ↑ 7.0 7.1 Plasket, Michael (May 4, 2017). "My Hero". Hardcore Gaming 101. สืบค้นเมื่อ 8 May 2021.
- ↑ "Video Game Flyers: My Hero, Sega (EU)". The Arcade Flyer Archive. สืบค้นเมื่อ 1 August 2021.
- ↑ "Game Machine's Best Hit Games 25 - テーブル型TVゲーム機 (Table Videos)". Game Machine (ภาษาญี่ปุ่น). No. 265. Amusement Press, Inc. 1 August 1985. p. 25.