ข้ามไปเนื้อหา

มหาวิทยาลัยเคปทาวน์

พิกัด: 33°57′27″S 18°27′38″E / 33.95750°S 18.46056°E / -33.95750; 18.46056
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยเคปทาวน์
Universiteit van Kaapstad
iYunivesithi yaseKapa
ทิวทัศน์วิทยาเขตบน (Upper Campus) ของมหาวิทยาลัยเคปทาวน์
ชื่อเดิมวิทยาลัยแอฟริกาใต้
คติพจน์Spes Bona
คติพจน์อังกฤษ
Good Hope
ประเภทสาธารณะ
สถาปนา1 ตุลาคม 1829; 195 ปีก่อน (1829-10-01)
ทุนทรัพย์ZAR 11.8 พันล้าน [1]
อธิการบดีPrecious Moloi-Motsepe
รองอธิการบดีMamokgethi Phakeng
อาจารย์1,208[2]
เจ้าหน้าที่3,179
ผู้ศึกษา28,703[3]
ปริญญาตรี17,217[3]
บัณฑิตศึกษา10,511[3]
ที่ตั้ง, ,
แอฟริกาใต้

33°57′27″S 18°27′38″E / 33.95750°S 18.46056°E / -33.95750; 18.46056
วิทยาเขตวิทยาเขตชานเมือง 4 แห่ง
วิทยาเขตเมือง 2 แห่ง
สีน้ำเงินอ่อน, น้ำเงินเข้ม, ดำ และ ขาว        
ฉายาIkeys
เครือข่ายAAU, ACU, CHEC, HESA, IARU, IAU, WUN
มาสคอต
เสือ
เว็บไซต์www.uct.ac.za

มหาวิทยาลัยเคปทาวน์ (อังกฤษ: University of Cape Town; UCT) เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัยสาธารณะ ตั้งอยู่ในเมืองเคปทาวน์ จังหวัดเวสเติร์นเคป ประเทศแอฟริกาใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1829 ภายใต้ชื่อวิทยาลัยแอฟริกันใต้ เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาใต้[4] และเป็นสถาบันที่ได้รับสถานะมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ และในภูมิภาคซับซาฮารา คู่กับมหาวิทยาลัยสเตลเลนบอช ซึ่งได้รับสถานะมหาวิทยาลัยในัวนเดียวกันเมื่อปี 1918

มหาวิทยาลัยประกอบด้วย 57 กน่วยงานภายใต้ 6 คณะและศูนย์สหวิทยาการเพื่อการอุดมศึกษา 1 แห่ง มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาอยู่ที่ 29000 ถึง 30000 คนที่กำลังศึกษาในสาขาศิลปศาสตร์ (liberal arts), วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ (pure sciences) และวิชาชีพ (professional) ซึ่งมีวุฒิการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรี (NQF 7) ถึงปริญญาเอก (NQF 10).[5] ชุมชนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมีความหลากหลายและประกอบด้วยชุมนุมและขมรมมากกว่า 100 กลุ่ม ภายใต้ความสนใจที่หลากหลาย เช่นศาสนา การเมือง วัฒนธรรม จิตอาสา และกีฬา มหาวิทยาลัยเคปทาวน์เป็นมหาวิทยาลัยคู่แข่งทั้งทางการศึกษา กีฬา และประวัติศาสตร์กับมหาวิทยาลัยสเตลเลนบอช ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนคือภาษาอังกฤษภาษาเดียว

มหาวิทยาลัยเคปทาวน์เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของทวีปแอฟริกาโดยการจัดอันดับคิวเอสเวิลด์ยูนิเวอร์ซิที, การจัดอันดับของอุดมศึกษาไทมส์ และในการจัดอันดับทางวิชาการ ส่วนคณะวิทยาการธุรกิจ (Commerce), นิติศาสตร์ และแพทยศาสตร์ ล้วนติดอันดับหนึ่งในร้อยของโลกมาโดยตลอด นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังเป็นมหาวิทยาลัยเดียวของทวีปแอฟริกาที่เป็นสมาชิก GULF ของเวิลด์เอคอนอมิกฟอรัม ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัยชั้นนำ 26 แห่งของโลก[6] มีบุคลากร อาจารย์ และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยรวม 5 คนที่เคนได้รับรางวัลโนเบล และมีคณาจารย์รวม 35 คนที่ได้รับสถานะนักวิจัยของ NRF ระดับเอ (A) คิดเป็น 30% ของนักวิจัยทั้งหมดในประเทศที่มีสถานะดังกล่าว[7] และคณาจารย์อีก 88 คนซึ่งเป็นสมาชิกวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติ[8]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Annual Report for 2017 (PDF). University of Cape Town. p. 127. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 11 April 2019. สืบค้นเมื่อ 1 September 2018.
  2. Annual Report for 2017 (PDF). University of Cape Town. p. 60. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 11 April 2019. สืบค้นเมื่อ 1 September 2018.
  3. 3.0 3.1 3.2 Annual Report for 2017 (PDF). University of Cape Town. p. 55. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 11 April 2019. สืบค้นเมื่อ 1 September 2018.
  4. https://www.brandsouthafrica.com/governance/education/south-africas-universities/?amp เก็บถาวร 2018-09-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน | South Africa's universities
  5. "CHE | Council on Higher Education | Regulatory body for Higher Education in South Africa | Education | Innovation | University | South Africa". www.che.ac.za. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-05-24. สืบค้นเมื่อ 2020-05-25.
  6. "Global University Leaders Forum Members" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 19 พฤษภาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 18 พฤษภาคม 2018.
  7. "NRF A-rated". University of Cape Town. สืบค้นเมื่อ 30 March 2020.
  8. "Academy of Science of South Africa members". University of Cape Town. สืบค้นเมื่อ 30 March 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]