ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ เป็นโครงการนานาชาติเพื่อสังคมสำหรับเด็กที่จัดขึ้นประจำปีโดย PJSC Gazprom เป้าหมายของโครงการนี้คือ เพื่อปลูกฝังค่านิยมที่สำคัญให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ และปลูกฝังความสนใจในวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีโดยการเล่นฟุตบอล[1] ภายในกรอบงานของโครงการ ผู้เล่นฟุตบอลที่มีอายุ 12 ปีจากหลายประเทศ[2] จะเข้าร่วมในฟอรัมเด็กนานาชาติประจำปี การแข่งขันระหว่างประเทศในรายการชิงแชมป์โลก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" วันฟุตบอลและมิตรภาพนานาชาติ[3]. โครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) องค์การสหประชาชาติ (UN) คณะกรรมการโอลิมปิกสากล และ คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล ประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล  สมาคมฟุตบอลของประเทศต่างๆ มูลนิธิการกุศลระหว่างประเทศ องค์กรสาธารณะ และ สโมสรฟุตบอลชั้นนำของโลกด้วย[4]. บริษัท เอจีที คอมมิวนิเคชั่นส์ กรุ๊ป (รัสเซีย) /AGT Communications Group (Russia)/ เป็นผู้ให้บริการโครงการดังกล่าวในทั่วโลก[5]

ประวัติของโครงการ[แก้]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2013[แก้]

ฟอรัมเด็กนานาชาติ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ได้ถูกจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 25 พฤษภาคม 2013 ที่กรุงลอนดอน มีเด็กเข้าร่วม 670 คนจาก 8 ประเทศ: บัลแกเรีย สหราชอาณาจักร ฮังการี เยอรมนี กรีซ รัสเซีย เซอร์เบีย และสโลวีเนีย รัสเซียส่งทีมฟุตบอลไป 11 ทีมจาก 11 เมืองในรัสเซียซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2018 อีกทั้งทีมเยาวชนจากสโมสรฟุตบอล Zenit, Chelsea, Schalke 04, Crvena Zvezda, ผู้ชนะการแข่งขันในวันกีฬาเด็กของ Gazprom, และผู้ชนะการแข่งขันจากเทศกาล Fakel ก็มีส่วนร่วมในฟอรัมนี้ด้วย.[6]

ในระหว่างฟอรัม เด็กๆ ได้พูดคุยกับเพื่อนของพวกเขาจากประเทศอื่นๆ และนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง และยังได้เข้าร่วมชมการแข่งขัน UEFA Champions League 2012/2013 รอบชิงชนะเลิศที่สนาม Wembley[7].

ผลที่ได้จากฟอรัมนี้คือจดหมายเปิดผนึกซึ่งเด็กๆ ได้กำหนดค่าของโครงการไว้แปดข้อ ได้แก่ มิตรภาพความเสมอภาค ความยุติธรรม สุขภาพ ความสงบ ความภักดี ชัยชนะ และประเพณี ซึ่งภายหลัง จดหมายนี้ได้ถูกส่งไปที่ฝ่ายบริหารของ UEFA, FIFA และ IOC ในเดือนกันยายนปี 2013 ระหว่างการประชุมระหว่าง Vladimir Putin และ Vitaly Mutko, Sepp Blatter ทั้งหมดได้รับจดหมายและกล่าวว่าจะให้การสนับสนุนโครงการฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ.[8]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2014[แก้]

ฤดูกาลที่สองของโครงการฟุตบอลเพื่อมิตรภาพถูกจัดขึ้นที่กรุงลิสบอน ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2014 และมีผู้เข้าร่วมวัยรุ่นมากกว่า 450 คนจาก 16 ประเทศ: เบลารุส บัลแกเรีย สหราชอาณาจักร ฮังการี เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส รัสเซีย เซอร์เบีย สโลวีเนีย ตุรกี ยูเครน ฝรั่งเศส และโครเอเชีย นักฟุตบอลเยาวชนเหล่านี้ได้เข้าร่วมในฟอรัมนานาชาติ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ", เข้าร่วมในการแข่งขันสตรีทฟุตบอล และเข้าชม UEFA Champions League รอบชิงชนะเลิศในปี 2013/2014.[9] ผู้ชนะการแข่งขันจากการแข่งขันสตรีทฟุตบอลนานาชาติในปี 2014 คือทีมเยาวชนจากสโมสร Benfica (โปรตุเกส)

ผลของโครงการในฤดูกาลที่สองคือ การเลือกตั้งผู้นำของการเคลื่อนไหวโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ผู้ที่ได้รับเลือกคือ Felipe Suarez จากโปรตุเกส ในเดือนมิถุนายนปี 2014 ในฐานะผู้นำโครงการ เขาได้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนานาชาติเพื่อรำลึกถึง Yuri Andreyevich Morozov ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9[10]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2015[แก้]

ฤดูกาลที่สามของโครงการนานาชาติเพื่อสังคม "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ถูกจัดขึ้นเมื่อมิถุนายน 2015 ที่กรุงเบอร์ลิน มีเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการเป็นครั้งแรกจากประเทศในทวีปเอเชีย – ทีมเยาวชนจากญี่ปุ่น จีน และคาซัคสถาน มีทีมเยาวชนเข้าร่วมทั้งหมดจาก 24 สโมสรฟุตบอลจาก 24 ประเทศเข้าร่วมในฤดูกาลที่สามนี้[11]

นักฟุตบอลเยาวชนได้พูดคุยกับเพื่อนของพวกเขาจากประเทศอื่นๆ และนักฟุตบอลชื่อดังต่างๆ ของโลก รวมทั้งทูตของโครงการ Franz Beckenbauer และเข้าร่วมในการแข่งขันสตรีทฟุตบอลนานาชาติระหว่างทีมเยาวชนต่างๆ[11]

ผู้ชนะการแข่งขันจากการแข่งขันสตรีทฟุตบอลนานาชาติในปี 2015 คือทีมเยาวชน Rapid (ออสเตรีย)[11]

งานของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ที่ถูกจัดขึ้นเป็นปีที่สามได้รับการเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนชั้นนำจากทั่วโลกมากกว่า 200 คน รวมทั้งผู้สื่อข่าวเยาวชนที่เป็นสมาชิกของศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติสำหรับเด็กที่มาจากยุโรปและเอเชีย [11]

เหตุการณ์สำคัญของปี 2015 คือพิธีมอบรางวัล Nine values Cup ซึ่งผู้ชนะคือสโมสรฟุตบอล Barcelona (สเปน) ผู้ชนะได้รับเลือกจากการโหวตของเด็กๆจาก 24 ประเทศที่เข้าร่วมฟอรัม

เมื่อจบฟอรัมแล้ว ผู้เข้าร่วมได้ไปชม UEFA Champions League 2014/2015 รอบชิงชนะเลิศที่สนาม Olympic ในกรุงเบอร์ลิน[12]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2016[แก้]

โครงการนานาชาติเพื่อสังคมสำหรับเด็ก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ในปี 2016 เริ่มต้นขึ้นด้วยการเข้าร่วมการแถลงข่าวออนไลน์ Hangout ซึ่งมีขึ้นเมื่อ 24 มีนาคม ที่เมืองมิวนิก โดยมีทูตของโครงการ Franz Beckenbauer เข้าร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย [13]

ในฤดูกาลที่สี่ของโครงการ มีผู้เข้าร่วมใหม่จาก 8 ทีมเยาวชน จากอาเซอไบจาน แอลจีเรีย อาร์มีเนีย อาร์เจนตินา บราซิล เวียดนาม คีร์กีซสถาน และซีเรีย ซึ่งทำให้จำนวนประเทศเข้าร่วมรวมเป็นทั้งหมด 32 ประเทศ[14]

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2016 ได้มีการโหวตสำหรับรางวัล Nine Values Cup แฟนฟุตบอลจากทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในการโหวตครั้งนี้ แต่การตัดสินใจครั้งสุดท้ายทำโดยผู้เข้าร่วมโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" จากการโหวต ผู้ชนะรางวัลคือสโมสรฟุตบอล Bayern (มิวนิก) ผู้เข้าร่วมโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ได้ทราบถึงกิจกรรมของสโมสรในการสนับสนุนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เช่นเดียวกับการริเริ่มเพื่อให้การรักษาเด็กในประเทศต่างๆ และช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ[15]

ฟอรัมนานาชาติสำหรับเด็ก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สี่ และการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันสตรีทฟุตบอลนานาชาติสำหรับเด็กจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2016 ที่เมืองมิลาน  ผู้ชนะการแข่งขันในครั้งนี้คือทีม Maribor จากสโลวีเนีย เมื่อจบฟอรัมแล้ว ผู้เข้าร่วมได้ไปชม UEFA Champions League รอบชิงชนะเลิศตามประเพณีของโครงการ งานฟอรัมนี้ได้รับการเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนชั้นนำจากทั่วโลกมากกว่า 200 คน รวมทั้งผู้สื่อข่าวเยาวชนจากประเทศที่เข้าร่วมที่เป็นสมาชิกของศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติสำหรับเด็ก[16]

นักฟุตบอลเยาวชนจากสโมสร Al-Wahda จากซีเรียได้เข้าร่วมในโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ที่จัดขึ้นเป็นปีที่สี่ ซึ่งถือเป็นประวัติการณ์สำคัญของโครงการ การเข้าร่วมโครงการของทีมจากซีเรีย รวมทั้งการไปเข้าร่วมงานที่เมืองมิลานของเด็กๆ จากซีเรียถือเป็นก้าวสำคัญในการเอาชนะปัญหาการถูกทอดทิ้งทางด้านมนุษยธรรมที่มีในประเทศ คณะกรรมการบรรณาธิการกีฬาภาษาอารบิกของสถานีโทรทัศน์นานาชาติ Russia Today ได้ถ่ายทำภาพยนตร์สารคดี "Three days without war" เกี่ยวกับเด็กที่เข้าร่วมโครงการ จากการสนับสนุนของสหพันธ์ฟุตบอลซีเรีย เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2016 มีผู้เข้าชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่เมืองดามัสกัสมากกว่า 7,000 คน[17]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2017[แก้]

สถานที่จัดงานของโครงการนานาชาติเพื่อสังคมสำหรับเด็ก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ในปี 2017 คือเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) และการจัดงานครั้งสุดท้ายที่จัดขึ้นที่นี่คือวันที่ 26 มิถุนายน ถึง 3 กรกฎาคม [18]

ในปี 2017 จำนวนประเทศผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นจาก 32 ประเทศเป็น 64 ประเทศ [30] ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่โครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" จะมีผู้เข้าร่วมที่เป็นเด็กๆ จากเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ดังนั้น โครงการนี้จะเป็นการรวมตัวของเยาวชนทั้งสี่ทวีป - แอฟริกา ยูเรเซีย อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ [19]

ในฤดูกาลที่ห้า โครงการได้ดำเนินการตามแนวความคิดใหม่: นักฟุตบอลเยาวชนหนึ่งคนจากแต่ละประเทศได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน นักฟุตบอลเยาวชนเหล่านี้จะรวมตัวกันเป็นทีมมิตรภาพนานาชาติ 8 ทีมที่ประกอบด้วยเด็กชายและเด็กหญิงอายุ 12 ปี และรวมไปถึงเด็กพิการด้วย [20]

ในระหว่างการจับฉลาก จะมีการกำหนดประเทศของทีม และตำแหน่งการเล่นในเกมของตัวแทนประเทศที่เข้าร่วมโครงการ การจับฉลากจะมีขึ้นในโหมดการประชุมทางอินเทอร์เน็ต คนที่เป็นหัวหน้าของทีมมิตรภาพทั้งแปดทีมคือเหล่าโค้ชสายเลือดใหม่: Rene Lampert (สโลวีเนีย), Stefan Maksimovich (เซอร์เบีย), Brandon Shabani (สหราชอาณาจักร), Charlie Sui (จีน), Anatoly Chentuloyev (รัสเซีย), Bogdan Krolevetsky (รัสเซีย), Anton Ivanov (รัสเซีย), Emma Henschen (เนเธอร์แลนด์) Liliya Matsumoto (ญี่ปุ่น) ตัวแทนจากศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ก็เข้าร่วมการจับในครั้งนี้เช่นเดียวกัน[21]

ผู้ชนะการแข่งขันชิงแชมป์โลกในรายการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" 2017 คือทีม "สีส้ม" ซึ่งเป็นการรวมตัวของโค้ชสายเลือดใหม่ กับนักฟุตบอลเยาวชนจาก 9 ประเทศ:  Rene Lampert (สโลวีเนีย), Hong Jun Marvin Tue (สิงคโปร์), Paul Puig I Montana (สเปน), Gabriel Mendoza (โบลิเวีย), Ravan Kazimov (อาเซอร์ไบจาน), Khrisimir Stanimirov Stanchev (บัลแกเรีย), Ivan Agustin Casco (อาร์เจนตินา), Roman Horak (สาธารณรัฐเชค), Hamzah Yusuf Nuri Alhavvat (ลิเบีย)[21]

ฟอรัมนานาชาติสำหรับเด็ก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" มีผู้เข้าร่วมคือ Viktor Zubkov (ประธานคณะกรรมการบริษัท PJSC Gazprom), Fatma Samura (เลขาธิการทั่วไปของ FIFA), Philippe Le Flock (ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ทั่วไปของ FIFA), Giulio Baptista (นักฟุตบอลชาวบราซิล), Ivan Zamorano (ผู้เล่นกองหน้าชาวชิลี), Alexander Kerzhakov (นักฟุตบอลชาวรัสเซีย) และแขกอื่นๆ ที่เรียกร้องให้มีการส่งเสริมคุณค่าหลักของมนุษย์ในหมู่เยาวชน[22]

ในปี 2017 โครงการมีการรวมตัวกันของผู้คนมากกว่า 600,000 คน และเด็กและผู้ใหญ่มากกว่า 1,000 คนจาก 64 ประเทศได้เข้าร่วมกิจกรรมสุดท้ายในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก [23]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2018[แก้]

ในปี 2018 ฤดูกาลที่หกของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" นั้น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 มิถุนายน  ส่วนกิจกรรมรอบสุดท้ายในโครงการ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ»   ได้มีขึ้นที่กรุงมอสโก ก่อนที่ศึกฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉาก สำหรับฤดูกาลนี้ นักเตะรุ่นเยาว์ และ นักข่าวรุ่นเยาว์ ที่เป็นตัวแทนจาก 211 ประเทศและเขตดินแดนทั่วโลก เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ [24]. โครงการในปี 2018 ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ  โดยการจับฉลากแบ่งทีมฟุตบอลในโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างการประชุมออนไลน์ ผลที่ได้มา ก็คือ ทีมฟุตบอล 32 ทีม ซึ่งได้แก่  ทีมฟุตบอลมิตรภาพนานาชาติ จึงได้รับการจัดตั้งขึ้น.

ใน ปี 2018 ภายในกรอบของภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม  ทีมฟุตบอลมิตรภาพนานาชาติก็ได้รับการตั้งชื่อตามสัตว์ที่หายากและกำลังจะสูญพันธุ์

ช้างแอฟริกัน

มังกรโกโมโด

ลิงคีปูนจี

เต่ายักษ์

แอดดรากาเซลล์

เสือชีตาห์

แรด

ปลาฉลามนางฟ้า

หมีขาว

ลีเมอร์

หมีกริซลี

ฉลามวาฬ

สลอธสามนิ้ว

งูจงอาง

ลิงชิมแปนซี

ตะโขงอินเดีย

กอริลลา

นกหัวขวานอิมพีเรียล

กุย

ลิงคาปุชินหน้าขาว

โคอาลา

เสือโคร่งไซบีเรีย

ม้าลายเกรวี

อุรังอุตัง

แพนด้ายักษ์

เพนกวินมาเจลลัน

ยีราฟรอทส์ไชลด์

วาฬหลังค่อม

หมาป่าแอฟริกา

สิงโต

ฮิปโปโปเตมัส

สิงโตทะเลกาลาปาโกส

พร้อมนี้ ภายใต้กรอบของภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมประจำ ปี 2018 นั้น ในวันที่ 30 พฤษภาคม ได้มีการเปิดตัวกิจกรรมระหว่างประเทศ Happy Buzz Day ซึ่งได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมมือสนับสนุนองค์กรเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์ในสัตว์ป่าหายากให้อยู่รอด ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้  ได้แก่ อุทยานแห่งชาติและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของประเทศรัสเซีย สหรัฐอเมริกา เนปาล และ สหราชอาณาจักรอังกฤษด้วย[25] นอกจากนี้ในช่วงกิจกรรมรอบสุดท้ายของโครงการ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ»นั้น ในกรุงมอสโก บรรดาผู้เข้าร่วมโครงการก็ได้เดินทางด้วยรถเมล์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติด้วย[26]

ประเทศและเขตดินแดนที่เข้าร่วมโครงการฟุตบอลเพื่อมิตรภาพในปี 2018 มีดังนี้

1. เครือรัฐออสเตรเลีย

2. สาธารณรัฐออสเตรีย

3. สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน

4. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรีย

5. หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ

6. อเมริกันซามัว

7. แองกวิลลา

8. แอนติกาและบาร์บูดา

9. สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

10. สาธารณรัฐอาร์เจนตินา

11. อารูบา

12. บาร์เบโดส

13. เบลีซ

14. หมู่เกาะเบอร์มิวดา

15. สาธารณรัฐโบลีวาร์แห่งเวเนซุเอลา

16. บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

17. หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน

18. บูร์กินาฟาโซ

19. ราชรัฐลักเซมเบิร์ก

20. ฮังการี

21. สาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัย

22. สาธารณรัฐกาบอง

23. สาธารณรัฐกินี

24. ยิบรอลตาร์

25. บรูไนดารุซซาลาม

26. รัฐอิสราเอล

27. รัฐกาตาร์

28. รัฐคูเวต

29. รัฐลิเบีย

30. รัฐปาเลสไตน์

31. เกรเนดา

32. สาธารณรัฐเฮลเลนิก

33. จอร์เจีย

34. สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต

35. สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

36. สาธารณรัฐประชาธิปไตยเซาตูเมและปรินซิปี

37. สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา

38. สาธารณรัฐโดมินิกัน

39. ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน

40. สาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถาน

41. สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

42. สาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย

43. สาธารณรัฐอิตาลี

44. สาธารณรัฐเยเมน

45. หมู่เกาะเคย์แมน

46. แคนาดา

47. สาธารณรัฐประชาชนจีน

48. จีนไต้หวัน (ไต้หวัน)

49. ราชรัฐอันดอร์รา

50. ราชรัฐลิกเตนสไตน์

51. สาธารณรัฐสหกรณ์กายอานา

52. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี

53. ราชอาณาจักรบาห์เรน

54. ราชอาณาจักรเบลเยียม

55. ราชอาณาจักรภูฏาน

56. ราชอาณาจักรเดนมาร์ก

57. ราชอาณาจักรสเปน

58. ราชอาณาจักรกัมพูชา

59. ราชอาณาจักรเลโซโท

60. ราชอาณาจักรโมร็อกโก

61. ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

62. ราชอาณาจักรนอร์เวย์

63. ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

64. ราชอาณาจักรสวาซิแลนด์

65. ราชอาณาจักรสวาซิแลนด์

66. ราชอาณาจักรตองงา

67. ราชอาณาจักรสวีเดน

68. สาธารณรัฐคีร์กีซ

69. กือราเซา

70. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

71. สาธารณรัฐลัตเวีย

72. สาธารณรัฐเลบานอน

73. สาธารณรัฐลิทัวเนีย

74. มาเลเซีย

75. สาธารณรัฐมัลดีฟส์

76. สหรัฐเม็กซิโก

77. รัฐพหุชนชาติแห่งโบลิเวีย

78. มองโกเลีย

79. มอนต์เซอร์รัต

80. สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ

81. รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี

82. รัฐเอกราชซามัว

83. นิวซีแลนด์

84. นิวแคลิโดเนีย

85. สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย

86. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

87. หมู่เกาะคุก

88. หมู่เกาะเติกส์และเคคอส

89. สาธารณรัฐแอลเบเนีย

90. สาธารณรัฐแองโกลา

91. สาธารณรัฐอาร์มีเนีย

92. สาธารณรัฐเบลารุส

93. สาธารณรัฐเบนิน

94. สาธารณรัฐบัลแกเรีย

95. สาธารณรัฐบอตสวานา

96. สาธารณรัฐบุรุนดี

97. สาธารณรัฐวานูอาตู

98. สาธารณรัฐเฮติ

99. สาธารณรัฐแกมเบีย

100. สาธารณรัฐกานา

101. สาธารณรัฐกัวเตมาลา

102. สาธารณรัฐกินี-บิสเซา

103. สาธารณรัฐฮอนดูรัส

104. สาธารณรัฐจิบูตี

105. สาธารณรัฐแซมเบีย

106. สาธารณรัฐซิมบับเว

107. สาธารณรัฐอินเดีย

108. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

109. สาธารณรัฐอิรัก

110. สาธารณรัฐอิรัก

111. สาธารณรัฐไอซ์แลนด์

112. สาธารณรัฐคาซัคสถาน

113. สาธารณรัฐเคนยา

114. สาธารณรัฐไซปรัส

115. สาธารณรัฐโคลอมเบีย

116. สาธารณรัฐคองโก

117. สาธารณรัฐเกาหลี

118. สาธารณรัฐคอซอวอ

119. สาธารณรัฐคอสตาริกา

120. สาธารณรัฐโกตดิวัวร์

121. สาธารณรัฐคิวบา

122. สาธารณรัฐไลบีเรีย

123. สาธารณรัฐมอริเชียส

124. สาธารณรัฐมาดากัสการ์

125. สาธารณรัฐมาซิโดเนีย

126. สาธารณรัฐมาลาวี

127. สาธารณรัฐมาลี

128. สาธารณรัฐมอลตา

129. สาธารณรัฐโมซัมบิก

130. สาธารณรัฐมอลโดวา

131. สาธารณรัฐนามิเบีย

132. สาธารณรัฐนามิเบีย

133. สาธารณรัฐนิการากัว

134. สาธารณรัฐกาบูเวร์ดี

135. สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน

136. สาธารณรัฐปานามา

137. สาธารณรัฐปารากวัย

138. สาธารณรัฐเปรู

139. สาธารณรัฐโปแลนด์

140. สาธารณรัฐโปรตุเกส

141. สาธารณรัฐรวันดา

142. สาธารณรัฐซานมารีโน

143. สาธารณรัฐเซเชลส์

144. สาธารณรัฐเซเนกัล

145. สาธารณรัฐเซอร์เบีย

146. สาธารณรัฐสิงคโปร์

147. สาธารณรัฐสโลวีเนีย

148. สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า[

149. สาธารณรัฐซูดาน

150. สาธารณรัฐซูรินาม

151. สาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน

152. สาธารณรัฐทาจิกิสถาน

153. สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก

154. เติร์กเมนิสถาน

155. สาธารณรัฐยูกันดา

156. สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน

157. สาธารณรัฐฟีจี

158. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

159. สาธารณรัฐโครเอเชีย

160. สาธารณรัฐชาด

161. สาธารณรัฐมอนเตเนโกร

162. สาธารณรัฐชิลี

163. สาธารณรัฐเอกวาดอร์

164. สาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินี

165. สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์

166. สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน

167. สาธารณรัฐแคเมอรูน

168. สหพันธรัฐรัสเซีย

169. โรมาเนีย

170. เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

171. เครือรัฐปวยร์โตรีโก

172. ไอร์แลนด์เหนือ

173. เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์

174. เซนต์ลูเชีย

175. สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย

176. สาธารณรัฐสโลวัก

177. เครือรัฐบาฮามาส

178. เครือรัฐดอมินีกา

179. สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ

180. สหรัฐอเมริกา

181. หมู่เกาะโซโลมอน

182. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

183. สหภาพคอโมโรส

184. เขตบริหารพิเศษมาเก๊าของสาธารณรัฐประชาชนจีน

185. รัฐสุลต่านโอมาน

186. ตาฮีตี

187. ดินแดนกวม

188. สาธารณรัฐโตโก

189. สาธารณรัฐตูนิเซีย

190. สาธารณรัฐตุรกี

191. ยูเครน

192. เวลส์

193. หมู่เกาะแฟโร

194. สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล

195. สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย

196. สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล

197. สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

198. สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย

199. สหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย

200. สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส

201. สาธารณรัฐฟินแลนด์

202. สาธารณรัฐฝรั่งเศส

203. สาธารณรัฐแอฟริกากลาง

204. สาธารณรัฐเช็ก

205. สมาพันธรัฐสวิส

206. สก็อตแลนด์

207. เอริเทรีย

208. สาธารณรัฐเอสโตเนีย

209. สาธารณรัฐแอฟริกาใต้

210. จาเมกา

211. ญี่ปุ่น

มีทีมฟุตบอลมิตรภาพนานาชาติ 32 ทีม ที่ลงสนามพบกันในการแข่งขันชิงแชมป์โลกในรายการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ"  ปี 2018 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโครงการ ที่เกมสุดท้ายถูกวิจารณ์โดยนักวิจารณ์หนุ่มจากซีเรีย Jazn Taha[27]  ส่วนการแข่งขัน ตัดสินโดยกรรมการผู้ตัดสินหนุ่มจากรัสเซีย Bogdan Batalin[28]

ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันชิงแชมป์โลกในรายการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ประจำ ปี 2018 ได้แก่ ทีม «ชิมแปนซี» ซึ่งมีนักฟุตบอลหนุ่มจากดอมินีกา เซนต์คิตส์และเนวิส มาลาวี โคลัมเบีย เบนินและสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกผู้เข้าร่วมในทีมนี้ โค้ชผู้ฝึกสอนกับทีม ได้แก่ วลาดิสลาฟ โปเลียโคฟ ผู้เข้าร่วมหนุ่มจาก เมืองสารานส์ก[29]

กิจกรรมรอบสุดท้ายในโครงการ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ» (Football for Friendship) ฤดูกาลที่ 6  ได้แก่ ฟอรั่มเด็กนานาชาติ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ» เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ท่ามกลางแขกที่เข้าเยี่ยมชมการประชุมดังกล่าว มี นายวิกเตอร์ ซุบคอฟ (ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทก๊าซพรอม)  นางโอลกา โกโลเด็ตส์ (รองนายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย) อิเกร์ กาซิยาส (นักฟุตบอลสเปน อดีตกัปตันทีมชาติ)  อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ  (นักฟุตบอลรัสเซีย โค้ชของทีมฟุตบอลรุ่นจูเนียร์รัสเซีย) เช่นเดียวกับตัวแทนจาก 54 สถานทูตจากทั่วโลกและแขกคนอื่น ๆ ด้วย[30]

บนเวทีฟอรั่มนั้น ยังมีการมอบรางวัลให้กับนักเตะรุ่นเยาว์ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งฤดูกาลที่หก ซึ่งได้แก่  Deo Kalenga Mwenze จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (กองหน้าที่ดีที่สุด), Yamiru Oura จากเบนิน (กองกลางที่ดีที่สุด), Ivan Volynkin จากเวลส์ (ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด) และ Gustavo Sintra Rocha จากบราซิล (MVP)[27]

นักข่าวรุ่นเยาว์ที่ดีที่สุดของโครงการฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ ในปี 2018 ได้แก่   เด็กหญิง Sheikali Asension จาก Aruba เด็กหญิงผู้นี้เขียนบล็อกโดยเรียกร้องให้คนหนุ่มสาวในโอเชียเนียส่งเสริมจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม[27]

ฟอรั่ม ยังเป็นเวทีนำเสนอหนังสือและแจกลายเซ็นของผู้เข้าร่วมฤดูกาลที่แล้วจากอินเดีย คือ เด็กหญิง Ananya Kamboj[30] หลังจากฤดูกาลที่ห้าของ "โครงฟุตบอลมิตรภาพ" ปี 2017 เสร็จสิ้นแล้ว ด็กหญิง Ananya ได้เขียนหนังสือ “ การเดินทางของฉันจาก รัฐโมหาลี (Mohali) ไปยัง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก” เกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในการเข้าร่วมโครงการในฐานะเป็นนักข่าวรุ่นเยาว์  ในหนังสือเล่มนี้ เธอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับค่านิยมเก้าประการของโครงการซึ่งช่วยเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ขึ้นได้

ในวันที่ 14 มิถุนายน หลังจากที่ ฟอรั่มเด็กนานาชาติ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ» เสร็จสิ้นลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เหล่านักเตะรุ่นเยาว์ และนักข่าวรุ่นเยาว์ ก็ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ณ สนามกีฬาลุจนีกี โดยเหล่าเยาวชน ได้ชักธงชาติของทั้งหมด 211 ประเทศและเขตดินแดนที่เข้าร่วมโครงการ ในปีนี้อย่างครื้นครึก[31] หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดแล้ว บรรดาผู้เข้าร่วมรุ่นเยาว์ของโครงการ «ฟุตบองเพื่อ มิตรภาพ» ก็ได้ร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดเปิดสนามระหว่างทีมชาติรัสเซียและซาอุดิอาระเบียอีกด้วย

ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เชิญอัลเบิร์ตซินนาตอฟ ทูตเยาวชนของ โครงการ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ» จากรัสเซีย เข้าไปนั่งในบ็อกซ์วีไอพีของตนเอง เพื่อจะร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นัดเปิดสนาม นอกจากนี้ ชายหนุ่มก็ยังติดต่อสื่อสารกับ โรแบร์ตู การ์ลุส แชมป์ฟุตบอลโลกจากบราซิล และ  อิเกร์ กาซิยาส ผู้เล่นฟุตบอลสเปนอีกด้วย[32]

มีเด็กและวัยรุ่นมากกว่า 1 500 คนจาก 211 ประเทศ และ เขตดินแดน ต่าง ๆ ที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมรอบสุดท้ายในนครหลวงมอสโก โดยรวมแล้ว ภายใต้กรอบของฤดูกาลที่หกนี้ ในภูมิภาคต่างๆของโลก ได้มีการจัดกิจกรรมมากกว่า 180 รายการ ซึ่ง เด็ก ๆ ที่เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว มี่จำนวนมากกว่า 240,000 คน[33]

ในปี 2018 โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ   นางออลกา โกโลเดตส์ รองนายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ในนามประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย  วลาดิเมียร์ ปูติน ก็ได้กล่าวต้อนรับบรรดาผู้เข้าร่วมประขุม และแขกของฟอรั่มเด็กนานาชาติ ด้วย. นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ได้ส่งโทรเลขต้อนรับไปยังผู้เข้าร่วมประชุมและแขกของฟอรั่มเด็กนานาชาติ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ»  ครั้งที่หก[34]

ในระหว่างการบรรยายสรุป  เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นางสาว  Maria Zakharova โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ได้สังเกตให้เห็นว่า วันนี้ โครงการ “ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ” ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกว่าเป็นองค์ประกอบด้านมนุษยธรรมที่สำคัญของนโยบายสังคมระหว่างประเทศของรัสเซีย[35].

ตามปกติ โครงการ «ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ»นี้ ก็ได้รับการสนับสนุนจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อีกด้วย ในองค์กรฟีฟ่า ได้สังเกตว่าจำนวนผู้เข้าร่วมและแขกของกิจกรรมรอบสุดท้ายที่นครหลวงมอสโก ถึง 5,000 คน[36]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2019[แก้]

ฤดูกาลการแข่งฟุตบอลครั้งที่เจ็ดภายใต้โครงการเพื่อสังคมสำหรับเยาวชนนานาชาติในนาม “Football for friendship”  (ฟุตบอลมิตรภาพ) ที่จัดขึ้นในวันที่ 18 มีนาคม 2562 โดยรอบไฟนอลของตารางได้จัดขึ้นที่เมืองมาดริด ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 2 มิถุนายน [37]

โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน ถือเป็นวันฟุตบอลและมิตรภาพสากล ประเทศต่างๆมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกได้ออกมาเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคยุโรป เอเชีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และในการเฉลิมฉลองครั้งนี้สมาคมสหภาพฟุตบอลรัสเซียก็ได้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน [38]

ในวันที่ 30 พฤษภาคม โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลเพื่อสังคมสำหรับเยาวชนนานาชาติ (ปสย) ได้ถูกจัดขึ้นในนามก๊าซปรอม  (Gazprom) Football for friendship (ฟุตบอลมิตรภาพ) 2562 ในโปรแกรมนี้ทางผู้จัดได้เชิญชวนผู้เชี่ยวชาญมากมายจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น โค้ชฟุตบอล แพทย์สนามของทีมเยาวชน ดารา นักข่าว ผู้ดำเนินรายการของสื่อนานาชาติ ตัวแทนจาก academies ค่ายฟุตบอลนานาชาติ และ ตัวแทนจากสหพันธรัฐต่างๆ[39]

วันที่ 31 พฤษภาคม เกิดการจัดงานฟุตบอลเทรนนิ่งสากลที่เมืองมาดริดขึ้น ที่ได้รวบรวนคนหลากหลายสัญชาติ หลากหลายประเทศมาเข้าร่วม [40]

หลังจากการเทรนนิ่งภายใต้โครงการ Football for friendship เสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมจะได้รับประกาศนียบัตร GUINNESS WORLD RECORDS

ในฤดูกาลที่เจ็ดนี้ นักข่าวอายุน้อยทั้งหมด 32  คน จากยุโรป แอฟริกา เอเชีย อเมริกาใต้ และ อเมริกาเหนือ ได้จัดตั้งศูนย์การแข่งขัน Football for friendship สำหรับเยาวชนจากนานาชาติ ที่มีการแข่งขันไปจนถึงรอบไฟนอล นอกจากนี้พวกเขายังได้เข้าร่วมแถลงข่าวกับสื่อมวลชนต่างประเทศและสื่อมวลชนในประเทศ[41]

ผู้เข้าร่วมโครงการในฤดูกาลที่เจ็ดได้ดำเนินการมอบถ้วยรางวัล ”Nine Values Cup ” (รางวัลจากการแข่งขัน Football for friendship)  ให้แก่ทีมฟุตบอล “ลิเวอร์พลู”  ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้เข้าร่วมโครงการให้เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากที่สุด[42]

วันที่ 1 มีนาคม ณ สนามฟุตบอล  UEFA Pitch  ประจำเมืองมาดริด ได้จัดตั้งการแข่งขันรอบชิงแชมป์โลกที่นับเป็นจุดสูงสุดของรายการ Football for friendship

ผลการแข่งขัน คือ  ทีม  antigua polos ปะทะกับทีม Tasmanian Devil ด้วยคะแนน 1: 1 ตามเวลามาตรฐาน จากนั้นทีม antigua polos ชนะด้วยการดวลจุดโทษและได้รับรางวัลชนะเลิศในเวลาต่อมา[43]

ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ 2020[แก้]

ในปี 2563 กิจกรรมสุดท้ายของฤดูกาลที่แปดสำหรับการแข่งขัน Football for friendship ได้จัดขึ้นแบบออนไลน์ผ่านดิจิทัลแพล็ตฟอร์ม ตั้งแต่วันที่ 27 จนถึงวันที่ 9 เดือนธันวาคม2020 โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 คน จาก 100 ประเทศทั่วโลก  [44]

สำหรับฤดูกาลที่แปด โปรแกรมการแข่งขันแบบออนไลน์ได้ถูกพัฒนาขึ้นและจำลองมาจาก Football for friendship โดยมีเงื่อนไขการเล่นแบบผู้เล่นหลายคน  โดยมีพื้นฐานการจำลองมาจากงานแข่งขันออนไลน์แชมป์เปี้ยนชิพนานาชาติภายใต้โครงการ  Football for friendship [45]

สำหรับเกมสามารถดาวน์โหลดได้ทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป โดยวันดังกล่าวยังถือเป็นวันฟุตบอลสากลโลกอีกด้วย

ผู้ใช้งานสามารถเข้าร่วมแมทซ์ต่างๆตามกฎการแข่งขันแบบโครงการ Football for friendship ได้ และสามารถร่วมเล่นกับทีมนานาชาติจากประเทศต่างๆได้

เกมแบบผู้เล่นหลายคนนั้นอิงมาจากหลักพื้นฐานสำคัญที่เน้นคุณค่าด้านมิตรภาพ สันติภาพ และ ความเท่าเทียม

วันที่ 27 พฤศจิกายน งานจับฉลากการแข่งขันออนไลน์แชมป์เปี้ยนชิพของโครงการ Football for friendship 2563 ได้ถูกจัดขึ้น[46]

ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนจนถึงวันที่ 6 ธันวาคม ค่ายออนไลน์นานาชาติถูกจัดขึ้นโดยให้ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนและกีฬาแก่เยาวชน [47]

การประชุมออนไลน์ระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 4 ธันวาคม ได้ถูกจัดขึ้นภายใต้โครงการ Football for friendship โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากีฬาเยาวชน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญได้ชื่นชมการนำเสนอของโครงการ  Football for friendship  ว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับรางวัลสากล[48]

วันที่ 7-8 ธันวาคม การแข่งขันออนไลน์แชมป์เปี้ยนชิพโลกถูกจัดขึ้นภายใต้โครงการ Football for friendship โดยในปีนี้การแข่งขันได้จัดขึ้นพิเศษในรูปแบบออนไลน์ผ่านทางดิจิตัลแพลตฟอร์ม โดยการแข่งขันครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาแบบจำลองเกม  Football for friendship ในแบบผู้เล่นหลายคนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น[49]

การแข่งขันรอบไฟนอลของ  Football for friendship ถูกจัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม[50]

การจัดตั้งสัมนาออนไลน์สำหรับเด็กจากนานาประเทศมีจุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ  75 ปี ขององค์กรสหประชาชาติ (UN)  

สัมนาถูกจัดขึ้นในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันในฤดูกาลที่แปด

ในระหว่างการแข่งขันฤดูกาลที่ 8 ได้ออกอากาศ นักฟุตบอลอิสระกลุ่มหนึ่งได้ดำเนินการจัดรายการที่มีชื่อว่า “Stadium is where I am” ทุกๆสัปดาห์ ในทุกเทปจะมีนักฟุตบอลอิสระกลุ่มนี้ให้ความรู้แก่ตัวแทนเยาวชนด้านเทคนิคต่างๆสำหรับการเล่นกีฬาฟุตบอล

ในช่วงท้ายของรายการ ทางรายการจะประกาศ challenge เพื่อค้นพาผู้ที่ใช้เทคนิคได้ดีที่สุดจากบทเรียน  และออนไลน์มาสเตอร์คลาสนี้ยังถือเป็นรายการที่สมบูรณ์แบบ เพราะมีโครงการ football for friendship คอยให้การสนับสนุน

โดยโครงการ football for friendship นั้นถูกจัดอยู่ในสถิติของ กินเนสส์บุ๊ค   ถึงสองครั้ง โดยประเมินจากจำนวนผู้มีส่วนร่วม

เพิ่มเติม คือ  นักข่าวกลุ่มที่มีอายุน้อยของโครงการ Football for friendship ยังได้นำรายการรายสัปดาห์ดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ จนทำให้รายการมีเด็กๆจากทั่วโลกเข้ามาแชร์ข่าวสารในเชิงบวกต่อกันเรื่อยๆ[51]

การแข่งขันชิงแชมป์โลก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ"[แก้]

การแข่งขันฟุตบอลนานาชาติสำหรับเด็กถูกจัดขึ้นภายในกรอบงานของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ที่มที่เข้าร่วมการแข่งขัน – ทีมมิตรภาพ  – ซึ่งได้รวมตัวหลังจากการจับฉลาก ทีมได้รับการจัดการ อยู่บนพื้นฐานของ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ": นักกีฬาที่มีความแตกต่างด้านสัญชาติ เพศ และความสามารถทางกายภาพจะมาเล่นร่วมกันในทีมเดียวกัน [52]

ฟอรัมนานาชาติสำหรับเด็ก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ"[แก้]

ในงานฟอรัมนานาชาติสำหรับเด็ก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ผู้เข้าร่วมโครงการวัยเยาว์และผู้ใหญ่จะปรึกษาหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณค่าของโครงการทั่วโลก ระหว่างงาน เด็กๆได้พบปะและพูดคุยกับเพื่อนจากประเทศอื่นๆ, นักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง, ผู้สื่อข่าวและบุคคลสาธารณะ, และยังเป็นทูตเด็กที่ในอนาคตจะยังคงส่งเสริมคุณค่าที่เป็นสากลในหมู่เพื่อนฝูงของตนเอง

ศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติสำหรับเด็ก[แก้]

คุณสมบัติพิเศษของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" คือการมีศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติสำหรับเด็กเป็นของตนเอง ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ในปี 2014 [46] ผู้สื่อข่าวเด็กในศูนย์สื่อมวลชนจะรายงานการทำกิจกรรมในโครงการไปยังประเทศของตน: พวกเขาเตรียมข่าวสำหรับสื่อกีฬาท้องถิ่นและต่างชาติ เข้าร่วมในการสร้างช่องโทรทัศน์ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" หนังสือพิมพ์และสถานีวิทยุที่เป็นทางการของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" สำหรับเด็ก ศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติสำหรับเด็กเป็นศูนย์รวมของผู้ชนะการแข่งขันผู้สื่อข่าวเด็กยอดเยี่ยมประจำชาติ บล็อกเกอร์เด็ก ช่างภาพ และนักเขียน ผู้สื่อข่าวเด็กจากศูนย์สื่อมวลชนนำเสนอมุมมองจากภายในโครงการ โดยใช้รูปแบบ "เด็กเกี่ยวกับเด็ก" [53]

วันฟุตบอลและมิตรภาพนานาชาติ[แก้]

ภายใต้โครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" จะมีการฉลองวันฟุตบอลและมิตรภาพนานาชาติขึ้นในวันที่ 25 เมษายน การฉลองในวันหยุดนี้มีขึ้นครั้งแรกในปี 2014 ใน 16 ประเทศ ในวันนั้นได้มีแมตช์กระชับมิตร แฟลชม็อบ รายการวิทยุแบบมาราธอน การสอนทำกิจกรรมต่างๆ รายการโทรทัศน์ การเปิดฝึกอบรม ฯลฯ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 50,000 คน[54]

ในปี 2015 ได้มีการฉลองวันฟุตบอลและมิตรภาพใน 24 ประเทศ ในเทศกาลนี้ ได้มีแมตช์ฟุตบอลกระชับมิตร และกิจกรรมต่างๆ มากมาย ที่ประเทศเยอรมนี ผู้เล่นของทีม Schalke 04 ได้เปิดสอนการเล่นฟุตบอล ประเทศเซอร์เบียดำเนินรายการโทรทัศน์ ประเทศยูเครน – มีแมตช์ระหว่างทีม Volyn FC และเด็กๆ ที่ลงทะเบียนไว้ที่ศูนย์ของเมืองลัตสก์ของบริการสังคมสำหรับครอบครัว เด็ก และคนหนุ่มสาว [55]

ในประเทศรัสเซีย ได้มีการฉลองวันฟุตบอลและมิตรภาพเมื่อวันที่ 25 เมษายน ใน 11 เมือง แมตช์ฟุตบอลกระชับมิตรได้ถูกจัดขึ้นที่เมือง Vladivostok, Novosibirsk, Yekaterinburg, Krasnoyarsk, Barnaul, St. Petersburg และ Saransk เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณค่าหลักของโครงการ ในเมือง Krasnoyarsk, Sochi และ Rostov-on-Don มีการแลกเปลี่ยนทางมิตรภาพโดยมีผู้เข้าร่วมเป็นผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิกในปี 2014 ในเมืองมอสโก ได้มีการจัดการประกวดโอกาสที่เท่าเทียมกัน ด้วยการสนับสนุนจากสหพันธ์กีฬาของคนตาบอด ในวันที่ 5 พฤษภาคม มีการฉลองวันฟุตบอลและมิตรภาพที่เมือง Nizhny Novgorod และ Kazan[9]

ในปี 2016 มีการฉลองวันฟุตบอลและมิตรภาพใน 32 เมือง ที่ประเทศรัสเซียมีการฉลองใน 9 เมือง: Moscow, St. Petersburg, Novosibirsk, Barnaul, Birobidzhan, Irkutsk, Krasnodar, Nizhny Novgorod และ Rostov-on-Don Nizhny Novgorod ได้เป็นเจ้าภาพในแมตช์กระชับมิตรระหว่างนักฟุตบอลเยาวชนจาก Volga FC และผู้เล่นผู้ใหญ่จากสโมสรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อฝึกฝนเด็กๆ ในแมตช์กระชับมิตรที่เมือง Novosibirsk มีเด็กพิการร่วมเล่น – ทีม Yermak-Sibir จากเขต Novosibirsk [15]

ในปี 2017 มีการฉลองวันฟุตบอลและมิตรภาพใน 64 ประเทศ นักฟุตบอลชื่อดัง รวมทั้งผู้เล่นกองหลังชาวเซอร์เบีย Branislav Ivanovich และผู้เล่นกองหน้าชาวดัทช์ Dirk Kuyt ได้ร่วมในกิจกรรมที่มีขึ้นรอบโลก ในประเทศกรีซ ผู้ชนะจากการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปในปี 2004 Theodoras Zagorakis ได้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกับทีมชาติของเขา ในประเทศรัสเซีย สโมสร Zenit FC ได้เป็นเจ้าภาพในการเปิดการอบรมให้กับ Zakhar Badyuk ผู้ที่เป็นทูตของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ในปี 2017 ในการฝึก ผู้รักษาประตูของสโมสร Zenit FC Yury Lodygin ได้ให้คะแนนความสามารถของ Zakhar ไว้ด้วยคะแนนที่สูง และได้ถ่ายทอดเคล็ดลับของการเป็นผู้รักษาประตูให้กับเขา[20]

ค่านิยมหลักเก้าประการของโครงการ ฟุตบอง เพื่อมิตรภาพ[แก้]

ในระหว่างฟอรั่มเด็กนานาชาติครั้งแรกซึ่งจัดขึ้น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2013 นั้น  เหล่ายุวทูตจาก สหราชอาณาจักรอังกฤษ  เยอรมนี สโลวีเนีย ฮังการี เซอร์เบีย บัลแกเรีย กรีซ และรัสเซีย ก็ได้บัญญัติสค่านิยมหลักแปดประการแรกของโครงการ กล่าวคือ  มิตรภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม สุขภาพ สันติภาพ ความจงรักภักดี ชัยชนะ และ ประเพณี  แล้วนำเสนอค่านิยนหลักในจดหมายเปิดผนึก ต่อมาจดหมายดังกล่าวถูกส่งไปยังหัวหน้าองค์กรกีฬาระหว่างประเทศ คือ  สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สมาคมฟุตบอลแห่งสหภาพยุโรป (ยูฟ่า) และ คณะกรรมการโอลิมปิกสากลด้วย ในเดือนกันยายน ปี 2013 ในระหว่างการพบปะหารือกันกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ปูติน และ วิทาลีมุทโก   นายโจเซฟแบลตเตอร์ได้ยืนยันการรับจดหมาย และบอกว่าเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน โครงการ "ฟุตบอลมิตรภาพ"[11]

ในปี 2015 ผู้เข้าร่วมจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และคาซัคสถานเข้าร่วมโครงการ ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ และเสนอให้เพิ่มค่านิยมหลักที่เก้า คือ เกียรติด้วย[56]

รางวัล Nine Values Cup[แก้]

รางวัล Nine Values Cup เป็นรางวัลของโครงการนานาชาติเพื่อสังคมสำหรับเด็ก "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ในแต่ละปี จะมีการให้รางวัลสำหรับความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคุณค่าของโครงการ: มิตรภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม สุขภาพ ความสงบ ความภักดี ชัยชนะ ประเพณี และเกียรติยศ

แฟนฟุตบอลจากทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในการโหวตครั้งนี้ แต่การตัดสินใจครั้งสุดท้ายทำโดยผู้เข้าร่วมโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" จากการโหวต สโมสรฟุตบอลที่ได้รับรางวัล Nine Values Cup: Barcelona (2015), Bayern Munich (2016), Al Wahda (Special Prize), Real Madrid (2017)[57]

สร้อยข้อมือมิตรภาพ[แก้]

กิจกรรมทั้งหมดของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" เริ่มต้นด้วยการแลกสร้อยข้อมือมิตรภาพซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเท่าเทียมกัน และวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี สร้อยข้อมือประกอบด้วยเชือกสองสี ฟ้าและเขียว และทุกคนที่สนับสนุนโครงการสามารถใส่ได้[58]

จากคำพูดของ Franz Beckenbauer

"สัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวเป็นสร้อยข้อมือสองสี ซึ่งเป็นเรื่องง่ายและเข้าใจได้ว่าเป็นค่านิยมที่เกิดโดยธรรมชาติของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ"

เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการได้ผูกสร้อยข้อมือมิตรภาพนี้ให้บนข้อมือของนักกีฬาชื่อดังและบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง [59] ซึ่งรวมไปถึง: Dick Advocaat, Anatoly Timoshchuk และ Luis Netu, Franz Beckenbauer, Luis Fernandev, Didier Drogba, Max Meyer, Fatma Samura, Leon Gorecka, Domenico Krishito, Michel Salgado, Alexander Kerzhakov, Dimas Pirros, Miodrag Bozovic, Adelina Sotnikova, Yuri Kamenets[59]

กิจกรรมของผู้เข้าร่วมระหว่างฤดูกาล[แก้]

นักฟุตบอลเยาวชนจากโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" เข้าร่วมในกิจกรรมหลายอย่างที่มีขึ้นนอกฤดูกาลปกติ ในเดือนพฤษภาคม 2013 ผู้เล่นจากสโมสรฟุตบอลเยาวชน Maribor (สโลวีเนีย) ได้จัดแมตช์กระชับมิตรเพื่อการกุศลโดยแข่งกับเด็กๆ จากประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2014 ที่เมือง Sochi ผู้เข้าร่วมจากโครงการชาวรัสเซียได้พูดคุยกับ Vladimir Putin ในการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย และประธาน FIFA Sepp Blatter[60] ในเดือนมิถุนายน 2014 ประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส Francois Hollande ได้เชิญทีม Taverni ที่เป็นสมาชิกของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ไปยังพระราชวัง Elysee เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA 2014 ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติไนจีเรีย ในเดือนเมษายน Yuri Vashchuk ผู้ซึ่งเป็นทูตของโครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ในปี 2015 ได้พบปะกับชายที่แข็งแรงที่สุดในประเทศเบลารุส Kirill Shimko และนักฟุตบอลเยาวชนจากสโมสร BATE FC เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของการเข้าร่วมโครงการ Yuri Vashchuk ได้มอบสร้อยข้อมือสัญลักษณ์มิตรภาพให้กับ Kirill Shimko ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้มอบกระบองเพื่อสนับสนุนอุดมการณ์ของโครงการ ได้แก่ มิตรภาพ ความยุติธรรม และวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี [61]

รางวัลต่างๆ[แก้]

โครงการ "ฟุตบอลเพื่อมิตรภาพ" ได้รับรางวัลหลายรางวัลจากการแข่งขันหลายแห่ง ทั้งจากในประเทศรัสเซียและนานาชาติ บรรดารางวัลที่ได้รับ ได้แก่: "โครงการความร่วมมือทางสังคมที่ดีที่สุดของรัสเซีย" ในสาขา "การพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ", รางวัลปากกาขนนกทองคำจากสมาคมธุรกิจระหว่างประเทศ (IABC) ในสาขา "ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร" (2016), รางวัล Saber ในสาขา "โครงการต่อสังคมยอดเยี่ยมของโลก" (2016), รางวัล Drum Social Buzz ในสาขา "กลยุทธ์ระหว่างประเทศยอดเยี่ยม" (2017)[62],  รางวัลนานาชาติสำหรับนวัตกรรมการตลาดดิจิทัลในสาขา "กลยุทธ์ทางการตลาดยอดเยี่ยม" (2017), รางวัล "ธนูเงิน" ในสาขา "โครงการเพื่อสังคมยอดเยี่ยมของประเทศรัสเซีย" (2018), และรางวัลกรังปรีซ์ "ธนูเงิน" (2018)

  1. https://www.sportindustry.biz/news/football-friendship-project-returns
  2. inserbia.info/today/2014/04/gazproms-football-for-friendship-2014
  3. www.newswire.ca/en/story/1505319/europe-and-asia-to-meet-within-football-for-friendship-international-children-s-social-project-of-gazprom
  4. https://www.sport-express.ru/football/gazprom/reviews/futbol-dlya-druzhby-2018-obyavleny-imena-uchastnikov-programmy-ot-rossii-1401229/
  5. www.prnewswire.com/news-releases/young-football-players-from-24-countries-of-europe-and-asia-meet-at-third-international-childrens-football-for-friendship-forum-506472841.html
  6. https://archive.today/20150515191023/http:/fcbusiness.co.uk/news/article/newsitem=2379/title=franz+beckenbauer+kicks+off+gazprom%92s+%91football+for+friendship%92+campaign
  7. www.ntv.ru/sport/627113
  8. https://web.archive.org/web/20150522173321/http:/www.epochtimes.de/service/vladimir-putin-und-fifa-praesident-joseph-s-blatte-bei-football-for-friendship-222
  9. 9.0 9.1 www.euronews.com/2014/05/27/football-for-friendship-teaching-values-through-football
  10. www.lazionews.eu/settore-giovanile/oltre-450-ragazzi-riuniti-da-gazprom-in-occasione-del-secondo-forum-internazionale-football-for-friendship/
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 www.noodls.com/viewNoodl/28582380/oao-gazprom/young-football-players-from-24-countries-of-europe-and-asia-
  12. www.prnewswire.com/news-releases/young-football-players-from-24-countries-of-europe-and-asia-meet-at-third-international-childrens-football-for-friendship-forum-506472841.html
  13. www.mirror.co.uk/sport/football/news/franz-beckenbauer-reveals-hes-barcelona-7695610
  14. www.sportindustry.co.za/news/football-friendship-project-returns
  15. 15.0 15.1 rbth.com/sport/2016/06/01/gazprom-brings-soccer-crazy-kids-to-milan-for-uefa-champions-league-final_599353
  16. www.prnewswire.co.uk/news-releases/fourth-international-football-for-friendship-forum-brings-together-young-footballers-from-three-continents-581479171.html
  17. www.euronews.com/2016/05/31/football-for-friendship-syrian-youth-team-make-tournament-debut-in-milan
  18. www.live5news.com/story/34934258/fifth-season-of-gazproms-football-for-friendship-international-childrens-project-launched
  19. finance.dailyherald.com/dailyherald/news/read/33918303/Fifth_Season_of_Gazprom's_Football_for_Friendship_International_Children's_Project_Launched
  20. 20.0 20.1 https://www.merrilledge.com/research/story?stryKey=600-201703161740PR_NEWS_USPRX____enUK201703165338-1
  21. 21.0 21.1 www.newswit.com/.gen/2017-03-17/bafb838790ea60129b53d1add5e4ee99/
  22. www.euronews.com/2017/07/06/football-brings-kids-together
  23. stomp.straitstimes.com/singapore-seen/12-year-old-sporean-messi-wins-global-football-contest-in-russia
  24. www.thedailystar.net/sports/football/time-defender-bangladesh-1543027
  25. www.chronicle.co.zw/russia-opportunity-for-zim-youngsters/
  26. www.africanews.com/2018/02/17/football-for-friendship-draw-held-ahead-of-the-2018-world-cup//
  27. 27.0 27.1 27.2 https://www.sovsport.ru/others/lifestyle/articles/1059219-shikarnyj-futbol-krepkaja-druzhba
  28. https://www.sovsport.ru/others/lifestyle/articles/1058343-ih-podruzhil-futbol
  29. https://www.sport-express.ru/football/gazprom/news/yunyy-trener-iz-rossii-stal-chempionom-mira-po-futbolu-dlya-druzhby-1420530/
  30. 30.0 30.1 https://www.sport-express.ru/football/gazprom/reviews/more-schastya-druzhby-i-futbola-1428124/
  31. https://rsport.ria.ru/russia2018_news/20180615/1138055010.html
  32. https://www.sport-express.ru/football/gazprom/news/yunyy-posol-futbola-dlya-druzhby-vstretilsya-s-prezidentom-rossii-na-chm-v-moskve-1424143/
  33. https://www.sport-express.ru/football/gazprom/news/uchastniki-futbola-dlya-druzhby-iz-211-stran-i-regionov-pribyli-v-moskvu-1419265/
  34. http://government.ru/gov/persons/183/telegrams/32841/
  35. http://www.mid.ru/ru/press_service/spokesman/briefings/-/asset_publisher/D2wHaWMCU6Od/content/id/3231268##23
  36. https://www.fifa.com/worldcup/news/211-countries-and-regions-took-part-in-the-sixth-international-football-for-frie
  37. "The Daily Times Leader". business.dailytimesleader.com. สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  38. Friendship, Gazprom Football for. "International Day of Football and Friendship Celebrated in Schools Around the World". www.prnewswire.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  39. "Int'l Football for Friendship Forum 2019 in Madrid Unites Kids' Soccer Experts From Around the Globe". sputniknews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  40. "Football for Friendship Young Participants became correspondents of international media". TASS. สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  41. "Football for Friendship Young Participants became correspondents of international media". TASS. สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  42. "End of Seventh Season of Football for Friendship in Madrid". sputniknews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  43. "Football for Friendship: Sportsmanship has no borders". euronews (ภาษาอังกฤษ). 2019-06-06. สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  44. "Gazprom Football For Friendship International Children's Programme | F4F". footballforfriendship.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  45. "New 'Football for Friendship' Simulator to be Released on World Football Day". sputniknews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  46. "Gazprom Football: Newsdetail". Gazprom Football (ภาษาเยอรมัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-12-19. สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  47. "Friendship Camp | F4F". footballforfriendship.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  48. "Shortlist | F4F". footballforfriendship.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  49. "World Championship | F4F". footballforfriendship.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  50. "Live Broadcast: Grand Final | F4F". footballforfriendship.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  51. "Live Broadcast: Grand Final | F4F". footballforfriendship.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
  52. rbth.com/sport/2014/05/30/big_soccer_for_little_europeans_37075.html
  53. www.financialexpress.com/india-news/mission-xi-million-picks-chandigarh-girl-ananya-kamboj/689736/
  54. https://www.theguardian.com/football/2015/apr/26/said-and-done-blatter-putin-david-cameron
  55. business-center.amchamchina.org/news/?dir=17&doc=201504262030PR_NEWS_ASPR_____EN90314&andorquestion=OR&&ok=1&passDir=0
  56. http://www.joblenobl.ru/news/287-v-ramkakh-programmy-futbol-dlya-druzhby-uchrezhden-kubok-devyati-tsennostej
  57. www.euronews.com/2017/07/17/f4f-nine-values-cup-2017-goes-to-real-madrid
  58. www.deweekkrant.nl/artikel/2014/mei/27/double_dutchie_dirk_proper_uit_elst_een_voetbal
  59. www.theboltonnews.co.uk/news/11270319.Interview_sends_Megan_Mackey_to_Champions_League_final/
  60. en.kremlin.ru/events/president/news/19222
  61. www.leparisien.fr/politique/mondial-2014-hollande-invite-deux-clubs-amateurs-a-l-elysee-pour-france-nigeria-28-06-2014-3960541.php
  62. www.socialbuzzawards.com/social-buzz-awards-2017/best-international-strategy/how-to-make-kids-voices-to-be-heard-globally