ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า
ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||||
| ||||||||||||
|
ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า (The Storm Riders) เป็นภาพยนตร์ นิยาย หนังสือการ์ตูนจีนกำลังภายใน รวมทั้งเกมส์คอมพิวเตอร์. แต่งและวาดโดยหม่าหยงเฉิงนักเขียนชาวฮ่องกง. โดยแต่งครั้งแรกเป็นฉบับการ์ตูนซึ่งมีชื่อเสียงมากในฮ่องกง โดยกล่าวกันว่าใครไม่เคยอ่านฟงอวิ๋นถือว่าเชยเลยทีเดียว. หลังจากนั้นมีการทำเป็นภาพยนตร์จอเงินและโด่งดังไปทั่วทวีปเอเชีย. หลังจากนั้นอีกราว 10 ปี หม่าหยงเฉิงจึงตัดสินใจเขียนฉบับนิยายโดยเพิ่มรายละเอียด ความเป็นมาจากฉบับการ์ตูน. โดยฉบับหนังสือการ์ตูนและนิยาย ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเป็นของสำนักพิมพ์บูรพัฒน์ ฉบับการ์ตูนปัจจุบันถึงเล่มที่ 152 ประกอบไปด้วย 3 ภาค
- ภาค 1 อยู่ในเล่มที่ 1 ถึง 24 จะกล่าวถึง ตัวละครหลัก 2 คน คือ เนี่ยฟง กับปู้จิ้งอวิ๋น ที่มีชีวิตอาภัพในวัยเด็ก และถูกรับเข้าเป็นศิษย์ของสงป้า ประมุขพรรคใต้หล้าผู้ซึ่งหวังจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน. ในภายหลังเนื้อเรื่องก็จะกล่าวถึงการบุกรุกตงง้วนจากดินแดนตะวันออก ซึ่งฟงอวิ๋นต้องร่วมมือกันต่อสู้ โดยได้รับความช่วยเหลือจากจอมยุทธคนอื่น ๆ.
- ภาค 2 อยู่ในเล่ม 24 ถึง 59 จะกล่าวถึงการตามหาธาตุมังกร ซึ่งเป็นยาวิเศษที่จะให้ผู้ที่ครอบครองไร้เทียมทาน. ในภาพยนตร์ภาคนี้มีชื่อว่า 7 ยอดศาสตรา.
- ภาค 3 อยู่ที่เล่ม 59 ถึง ปัจจุบัน ในภาคนี้ตัวเอกจะเป็นรุ่นลูกของฟงอวิ๋นและเพื่อน เช่น ปู้เทียน เสินฟง และ อี้ฟง.
ภาพยนตร์
[แก้]ฉายในปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เป็นประวัติการณ์ของฮ่องกง โดยทำรายได้ชนะภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอย่าง อาร์มาเก็ดดอน (Armageddon) และ ก๊อตซิลล่า (Godzilla) กำกับโดย แอนดริว์ หลิว นำแสดงโดย กัวฟู่เฉิง (ปู้จิ้งอวิ๋น) เจิ้ง อี้เจี้ยน (เนี่ยฟง) ซอนนี่ ชิบะ(สงป้า) ข่งฉือ (หยาง กง หยู) ซูฉี(ฉูฉู่) ด้วยสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ตระการตา อย่างที่ไม่เคยมีก่อนในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน ฉายในประเทศไทย เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน ใช้ชื่อภาษาไทยว่า "ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า"
ภาค2 มีฉายตอนปลายปี 2552 โดยผู้กำกับ แดนนี่ แปง และ ออกไซด์ แปง โดยนำแสดงคนเดิมจากภาคแรกอย่าง เจิ้ง อี้เจี้ยน นำแสดงเป็นเนี้ยฟง และ กัวฟู่เฉิง มาเล่นอีกครั้ง แม้ระยะเวลาจะจากภาคแรกห่างถึง 11 ปี แต่ทั้งคู่ ก็ยังแสดงได้ยอกเยี่ยมเหมือนดิม ทั้งนี้ บริษัท Universe และ Beijing"s Chengtian Entertainment ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ได้ลงทุนสร้างสร้างสตูดิโอ ในประเทศไทย ที่โกดังสยามทุนพัฒนา ย่านปากเกร็ดเพื่อใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ แล้วภาคนี้ยังมีจุดเด่นคือ CG ที่อลังการ ซึ่งเป็นจุดเด่นเหมือนภาคแรกที่ได้สร้างออกมาแล้วสร้างความฮือฮาในขณะนั้น