พื้นที่คุ้มครอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การเดินป่าที่ป่าสงวน Jaldapara Wildlife Sanctuary ในเบ็งกอลตะวันตกในอินเดีย
อุทยานแห่งชาติสวิสในบริเวณภูเขาแอลป์ส่วนที่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์

พื้นที่คุ้มครอง (อังกฤษ: Protected area) คือภูมิภาคหรือบริเวณที่ได้รับการพิทักษ์หรืออนุรักษ์เพราะความมีคุณค่าต่อสิ่งแวดล้อม หรือเพราะความมีคุณค่าทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและต่อวัฒนธรรม ตัวอย่างของภูมิภาคหรือบริเวณที่ได้รับการคุ้มครองก็ได้แก่อุทยาน, เขตสงวนธรรมชาติ (nature reserves) และ เขตอาศัย/อนุรักษ์สัตว์ (wildlife sanctuaries) แต่ไม่รวมภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ เช่นสิ่งก่อสร้างที่มิได้คำนึงถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ แต่รวม “ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม” (cultural landscapes) ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษยชาติและธรรมชาติ พื้นที่คุ้มครองรวม พื้นที่คุ้มครองทางทะเล (Marine Protected Area) ที่หมายถึงภูมิภาคหรือบริเวณที่ได้รับการพิทักษ์หรืออนุรักษ์ที่มีดินแดนที่รวมเนื้อที่ในทะเล

พื้นที่คุ้มครองมีเป็นจำนวนมากและระดับของการพิทักษ์หรืออนุรักษ์ก็ต่างกันออกไปตามแต่กฎหมายของแต่ละประเทศ หรือตามกฎขององค์การระหว่างประเทศ ในปัจจุบันพื้นที่คุ้มครองทั่วโลกมีจำนวนด้วยกันทั้งหมดราว 108,000 แห่ง และมีเนื้อที่รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 30,430,000 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 12% ของเนื้อที่ที่เป็นพื้นดินทั้งหมดทั่วโลก หรือกว้างใหญ่กว่าทวีปแอฟริกาทั้งทวีป[1] ตรงกันข้ามกับพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2009 มีจำนวน 5,000 แห่ง และมีเนื้อที่เพียง 0.8 ของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ที่เป็นมหาสมุทร[2][3]

ความหมาย[แก้]

คำนิยามของพื้นที่คุ้มครองโดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ The International Union for Conservation of Nature หรือ (IUCN)[4] คือ:

"ภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่ชัดแจ้ง, เป็นที่รู้จัก ที่อุทิศ และ บริหารภายใต้กฎหมายหรือวิธีการอันมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีผลต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติระยะยาว โดยมีคุณค่าต่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม"

ประเภท[แก้]

คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครอง (World Commission on Protected Areas)หรือ WCPA แบ่งประเภทของพื้นที่คุ้มครองออกเป็น 6 ประเภท (IUCN Protected Area categories):[5]

  • ประเภท I. พื้นที่สงวนธรรมชาติเข้มงวด 1เอ,พื้นที่สงวนธรรมชาติเข้มงวด 1บี (Ia: Strict Nature Reserve|Ib: Wilderness Area): หมายถึงพื้นที่ที่ได้รับการพิทักษ์และคุ้มครองโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาตร์และสิ่งแวดล้อม
  • ประเภท II. อุทยานแห่งชาติ(National Park): หมายถึงพื้นที่ที่ได้รับการพิทักษ์ที่มีจุดประสงค์หลักในการปกป้องระบบสิ่งแวดล้อม และในการสันทนาการ
  • ประเภท III. อนุสาวรีย์ธรรมชาติ (Natural Monument): หมายถึงพื้นที่พิทักษ์ที่มีจุดประสงค์หลักในการพิทักษ์เพราะความมีคุณค่าที่น่าสนใจหรือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะทางทางธรรมชาติ
  • ประเภท IV. พื้นที่จัดการถิ่นที่อาศัยหรือชนิดพันธุ์หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Habitat/Species Management Area): หมายถึงพื้นที่ที่ได้รับการพิทักษ์ที่มีจุดประสงค์หลักในการปกป้องโดยระบบการบริหารแทรกแซง (management intervention)
  • ประเภท V. พื้นที่คุ้มครองภูมิทัศน์ทางบก/ภูมิทัศน์ทางทะเล(Protected Landscape/ Seascape): หมายถึงพื้นที่ที่ได้รับการพิทักษ์ที่มีจุดประสงค์หลักในการปกป้องและการรักษาภูมิทัศน์ทางบก/ภูมิทัศน์ทางทะเลสำหรับการสันทนาการ
  • ประเภท VI. พื้นที่คุ้มครองแบบมีการจัดการทรัพยากร (Managed Resource Protected Area): หมายถึงพื้นที่ที่ได้รับการพิทักษ์ที่มีจุดประสงค์หลักในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน (sustainable)

ประวัติ[แก้]

ความพยายามของนานาชาติในความพยายามที่จะก่อตั้งเครือข่ายการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมมีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1972 เมื่อมีการออก “ปฏิญญาแห่งสต็อกโฮล์ม” (Stockholm Declaration) โดยการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ (United Nations Conference on the Human Environment) ที่สนับสนุนการพิทักษ์ภูมิภาคตัวอย่างของพื้นที่คุ้มครองของแต่ละประเภทของสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้ในการเป็นพื้นฐานของความต้องการในโครงการอนุรักษ์ระดับชาติ ตั้งแต่นั้นมาการพิทักษ์ภูมิภาคตัวอย่างก็กลายมาเป็นพื้นฐานหลักของการอนุรักษ์ทางชีววิทยาที่สนับสนุนโดยอนุสัญญาหรือข้อตกลงสำคัญๆ ของสหประชาชาติ ที่รวมทั้งกฎบัตรแห่งโลก เพื่อธรรมชาติ (World Charter for Nature) ในปี ค.ศ. 1982, the Rio Declaration at the การประชุมสุดยอดด้านสิ่งแวดล้อม (ค.ศ. 1992) (Earth Summit) และ ปฏิญญาแห่งโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg Declaration) ในปี ค.ศ. 2002

อ้างอิง[แก้]

  1. "Conservation Refugees" by Mark Dowie. First published in Orion, November/December 2005. Re-published in The Best American Science and Nature Writing 2006
  2. Wood et al. 2008. Assessing progress towards global marine protection targets: shortfalls in information and action. Oryx 42:340-351
  3. Protect Planet Ocean http://www.protectplanetocean.org
  4. https://www.iucn.org/about
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-02-14. สืบค้นเมื่อ 2018-07-23.

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พื้นที่คุ้มครอง