ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาวะเสมอภาคของอำนาจซื้อ"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
[[ไฟล์:GDP (PPP) per capita by countries.png|400px|thumb|GDP ต่อหัว (PPP) ในปี 2013]] |
[[ไฟล์:GDP (PPP) per capita by countries.png|400px|thumb|GDP ต่อหัว (PPP) ในปี 2013]] |
||
'''ความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ''' (Purchasing power parity หรือ '''PPP''') หรือ '''ประสิทธิผลของเงิน''' เป็น |
'''ความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ''' (Purchasing power parity หรือ '''PPP''') หรือ '''ประสิทธิผลของเงิน''' เป็นค่าค่าหนึ่งที่เกิดจากการประมาณทางเทคนิคโดยใช้[[ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์]] เพื่อคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของ[[สกุลเงิน]]แต่ละประเทศ |
||
== ในบริบทของจีดีพี == |
== ในบริบทของจีดีพี == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:38, 28 สิงหาคม 2558
ความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (Purchasing power parity หรือ PPP) หรือ ประสิทธิผลของเงิน เป็นค่าค่าหนึ่งที่เกิดจากการประมาณทางเทคนิคโดยใช้ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ เพื่อคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของสกุลเงินแต่ละประเทศ
ในบริบทของจีดีพี
จีดีพีแบบความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ มักจะสะท้อนอำนาจการบริโภคหรือชีวิตความเป็นอยู่ได้ดีกว่าจีดีพีแบบตัวเงิน ประเทศกำลังพัฒนา มักจะมีGDP (PPP) สูงกว่าGDP (ตัวเงิน) อาทิ
ประเทศ | จีดีพีต่อหัว (ตัวเงิน) | จีดีพีต่อหัว (PPP) | อัตราทด |
---|---|---|---|
อินเดีย | $1,630 | $5,833 | 3.58 |
ไทย | $5,560 | $14,660 | 2.63 |
แอฟริกาใต้ | $6,477 | $13,046 | 2.01 |
เดนมาร์ก | $60,634 | $44,862 | 0.74 |
จากข้อมูลข้างต้น จะพบว่า แอฟริกาใต้ มีรายได้ตัวเงินต่อหัวสูงกว่าประเทศไทย แต่กลับมีอำนาจซื้อต่อหัวต่ำกว่าไทย ซึ่งสามารถสะท้อนได้ว่า "ชาวไทยสามารถใช้เงินในจำนวนที่น้อยกว่าเพื่อบริโภคสินค้าและบริการที่มากกว่าชาวแอฟริกาใต้" และเมื่อพิจารณาอัตราทดแล้ว (อำนาจซื้อต่อหัว/รายได้ตัวเงินต่อหัว) จะพบว่า ในบรรดาสี่ประเทศนี้ ชาวอินเดียสามารถใช้เงินได้มีประสิทธิผลมากที่สุด (สินค้าและบริการมีราคาถูกที่สุด) ในขณะที่ชาวเดนมาร์กนั้น มีราคาสินค้าและบริการแพงที่สุด
อ้างอิง
- ↑ GDP per capita (current US$) ธนาคารโลก
- ↑ GDP per capita, PPP (current international $) ธนาคารโลก