ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผู้ใช้:Phizaz/montanaclassbattleship"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 47: | บรรทัด 47: | ||
|Ship capacity= |
|Ship capacity= |
||
|Ship troops= |
|Ship troops= |
||
|Ship complement= |
|Ship complement=ปกติ: 2,355 คน<ref name="USB"/><br />เรือธง: 2,789 คน<ref name="USB"/> |
||
|Ship crew= |
|Ship crew= |
||
|Ship time to activate= |
|Ship time to activate= |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:31, 28 มีนาคม 2557
A 1944 model of a Montana-class battleship
| |
ชั้นเรือโดยสรุป | |
---|---|
ชื่อ: | เรือประจัญบาญชั้นมอนทานา |
สร้างที่: | New York Naval Shipyard Philadelphia Naval Shipyard Norfolk Naval Shipyard |
ผู้ใช้งาน: | กองทัพเรือสหรัฐ |
ชั้นก่อนหน้า: | เรือประจัญบาญชั้นไอโอวา |
ชั้นถัดไป: | ไม่มี |
แผนที่จะสร้าง: | 5 |
สร้างเสร็จ: | 0 |
ยกเลิก: | 5 มอนทานา (BB-67) โอไฮโอ (BB-68) เมน (BB-69) นิวแฮมป์ไชร์ (BB-70) ลุยเซียนา (BB-71) |
ลักษณะเฉพาะ | |
ขนาด (ระวางขับน้ำ): |
66,040 ตัน (ปกติ);[1] 72,104 ตัน (เต็มที่)[2][3][4] |
ความยาว: | 920 ft 6 in (280.57 m)[2] |
ความกว้าง: | 121 ft 0 in (36.88 m)[2] |
กินน้ำลึก: | 36 ft 1 in (11.00 m)[2] |
ระบบขับเคลื่อน: | 8 × Babcock & Wilcox 2-drum express type boilers powering 4 sets of Westinghouse geared steam turbines 4 × 43,000 hp (32 MW)[2] – 172,000 shp (128 MW) total power |
ความเร็ว: | 28 kn (32 mph; 52 km/h) (สูงสุด)[2][5] |
พิสัยเชื้อเพลิง: | 15,000 ไมล์ทะเล (17,000 ไมล์; 28,000 กิโลเมตร) ที่ 15 kn (17 mph; 28 km/h)[1] |
อัตราเต็มที่: |
ปกติ: 2,355 คน[2] เรือธง: 2,789 คน[2] |
ยุทโธปกรณ์: |
12 × ปืนใหญ่มาร์ค 7 16-นิ้ว (406-มิลลิเมตร)/50 cal[2] 20 × ปืนใหญ่มาร์ค 16 5-นิ้ว (127-มิลลิเมตร)/54 cals[2] 10–40 × ปืนต่อสู้อากาศยาน Bofors 40 mm[2] 56 × ปืนต่อสู้อากาศยาน Oerlikon 20 mm[2] |
เกราะ: |
Side belt: 16.1 นิ้ว (409 มิลลิเมตร) tapering to 10.2 นิ้ว (259 มิลลิเมตร) on 1-นิ้ว (25-มิลลิเมตร) STS plate inclined 19° Lower side belt: 7.2 นิ้ว (183 มิลลิเมตร) tapered to 1 นิ้ว (25 มิลลิเมตร) inclined 10°[1] Bulkheads: 18 นิ้ว (457 มิลลิเมตร) forward, 15.25 นิ้ว (387 มิลลิเมตร) aft[1] Barbettes: 21.3 นิ้ว (541 มิลลิเมตร), 18 นิ้ว (457 มิลลิเมตร) (aft)[1] Turrets: up to 22.5 นิ้ว (572 มิลลิเมตร) Decks: up to 6 นิ้ว (152 มิลลิเมตร) |
อากาศยาน: | 3–4 × เครื่องบินน้ำ Vought OS2U Kingfisher/Curtiss SC Seahawk |
อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: | 2 × เครื่องปล่อยเครื่องบินน้ำ[3] |
หมายเหตุ: | เป็นเรือประจัญบาญชั้นสุดท้ายที่ออกแบบโดยสหรัฐอเมริกาแม้จะมีแผนการสร้างต่อถูกยกเลิกเสียก่อน |
เรือประจัญบาญชั้นมอนทานา (อังกฤษ: Montana-class battleships) แห่งกองทัพเรือสหรัฐเป็นเรือประจัญบาญชั้นต่อจากเรือประจัญบาญชั้นไอโอวา แม้จะไม่รวดเร็วเท่าแต่กอปรไปด้วยระวางขับน้ำที่มากกว่า อาวุธที่หนักกว่า เกราะที่หนากว่า และความสามารถต่อสู้อากาศยานที่เหนือกว่าชั้นไอโอวา ซึ่งแน่นอนว่านี่จะเป็นเรือประจัญบาญที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่สหรัฐอเมริกาเคยออกแบบและวางแผนที่จะสร้าง และจะเป็นเรือรุ่นเดียวที่สามารถเทียบชั้นได้กับเรือประจัญบาญชั้นยามาโตะแห่งกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในแง่ของเกราะและขนาดของระวางขับน้ำ
สหรัฐอเมริกาได้วางแผนที่จะสร้างเรือชั้นมอนทานาไว้ถึง 5 ลำด้วยกันคือ Montana, Ohio, Maine, New Hampshire และ Louisiana ทั้งห้าลำได้รับอนุมัติให้สร้างเรียบร้อยแล้วระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง แต่การต่อเรือถูกยกเลิกเสียก่อนเนื่องจากมีความต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นเอสเซ็กซ์ และเรือประจัญบาญอื่น ๆ ในชั้นไอโอวามากกว่า จึงทำให้ไม่มีเรือชั้นมอนทานาลำใดถูกวางกระดูกงูเพื่อก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน
การวางแผนการต่อเรือชั้นมอนทานาถูกวางไว้ตั้งแต่ก่อนที่สหรัฐจะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง และเรือในชั้นนี้สองลำแรกได้รับการอนุมัติให้สร้างจากสภาคองเกรสในปี 1939 ภายหลังจากการโจมตีที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์โดยจักรวัรรดิญี่ปุ่น ทำให้สหรัฐอเมริกาเลื่อนแผนการต่อเรือชั้นนี้ออกไป หลังจากนั้น ความสำเร็จจากการต่อสู้ทางอากาศในการรบที่ Coral Sea และต่อด้วยยุทธนาวีเกาะมิดเวย์ ก็แสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพของเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีความสำคัญในการรบเหนือกว่าเรือประจัญบาญ ประกอบกับความต้องการเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือสะเทินน้ำสะเทินบก เรือต่อต้านเรือดำน้ำ และยังมีความต้องการเรือประจัญบาญชั้นไอโอวาเพิ่มเติมเนื่องจากสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วพอที่จะใช้คุ้มกับเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นเอสเซ็กซ์ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้เรือประจัญบาญชั้นมอนทานาถูกยกเลิกการสร้างถาวร และสหรัฐก็ไม่มีแผนในการสร้างเรือประจัญบาญใด ๆ อีกเลยในเวลาต่อมา ทำให้เรือประจัญบาญชั้นไอโอวาทั้งสี่ลำดำรงความเป็นเรือประจัญบาญที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่สหรัฐเคยต่อมาจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "US Battleships". USS Missouri Memorial Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 August 2007. สืบค้นเมื่อ 2007-10-03.
- ↑ 2.00 2.01 2.02 2.03 2.04 2.05 2.06 2.07 2.08 2.09 2.10 2.11 Newhart, Max R. (May 2007) [1995]. American Battleships: A Pictorial History of BB-1 to BB-71 with prototypes Maine & Texas (Battleship Memorial ed.). Missoula, Montana: Pictorial Histories Publishing Company. pp. 102–106. ISBN 1-57510-004-5.
{{cite book}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
(help) - ↑ These would have been the heaviest warships in the US Navy at the time of their commissioning; and would have remained the class with the greatest displacement until the commissioning of the Forrestal-class aircraft carriers, which weighed 79,300 long ton (80,600 t) fully loaded. "CV-59 Forrestal class". Military Analysis Network. Federation of American Scientists. 6 March 1999. สืบค้นเมื่อ 2007-12-24.
- ↑ Johnston, Ian; McAuley, Rob (2002). The Battleships. London: Channel 4 Books (an imprint of Pan Macmillian, LTD). p. 122. ISBN 0-7522-6188-6.
{{cite book}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)