ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ"
Luckas-bot (คุย | ส่วนร่วม) ล โรบอต แก้ไข: io:Objekt-orientizita programifo |
|||
บรรทัด 108: | บรรทัด 108: | ||
[[hu:Objektumorientált programozás]] |
[[hu:Objektumorientált programozás]] |
||
[[id:Pemrograman berorientasi objek]] |
[[id:Pemrograman berorientasi objek]] |
||
[[io: |
[[io:Objekt-orientizita programifo]] |
||
[[is:Hlutbundin forritun]] |
[[is:Hlutbundin forritun]] |
||
[[it:Programmazione orientata agli oggetti]] |
[[it:Programmazione orientata agli oggetti]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:35, 8 กันยายน 2553
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-oriented programming, OOP) คือหนึ่งในรูปแบบการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ให้ความสำคัญกับ วัตถุ ซึ่งสามารถนำมาประกอบกันและนำมาทำงานรวมกันได้ โดยการแลกเปลี่ยนข่าวสารเพื่อนำมาประมวลผลและส่งข่าวสารที่ได้ไปให้ วัตถุ อื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทำงานต่อไป
แนวคิดการเขียนโปรแกรมแบบดังเดิมมักนิยมใช้ การเขียนโปรแกรมเชิงกระบวนการ (Procedural Programming) ซึ่งให้ความสำคัญกับขั้นตอนกระบวนการที่ทำ โดยแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนๆตามลำดับขั้นตอนการทำงาน แต่แนวคิดการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุนั้นให้ความสำคัญกับ ข้อมูล(data) และ พฤติกรรม(behavior) ของวัตถุ และความสัมพันธ์กันระหว่างวัตถุกันมากกว่า
เปรียบเทียบแนวคิดระหว่างการเขียนโปรแกรมเชิงกระบวนการ และเชิงวัตถุ
ตัวอย่างตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ
วิธีการคิดแบบการเขียนโปรแกรมเชิงกระบวนการ
เมื่อมีการหยอดเหรียญเข้าตู้:
- ตรวจสอบจำนวนเหรียญและชนิดของเหรียญ
- แสดงผลชนิดของน้ำที่สามารถเลือกซื้อได้
- ตรวจสอบจำนวนน้ำกระป๋องที่มีอยู่ในตู้
- รับผลการเลือกชนิดน้ำ
- ส่งน้ำที่เลือกออกมาจากช่อง
- จัดเก็บเงินเข้าระบบ
- หากมีเงินทอน ให้ทอนเงินที่เหลือ ที่ช่องรับเงินทอน
แนวทางการออกแบบและแก้ปัญหา
ความท้าทายในการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมเชิงวัตถุมีหลายด้าน โดยแนวทางดังต่อไปนี้ เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการใช้เพื่อแก้ไขปัญหา
ดีไซน์แพตเทิร์น - แบบแผนและแนวทางการออกแบบ
ในการออกแบบและการพัฒนาโปรแกรมเชิงวัตถุ ได้มีการรวบรวมบันทึกวิธีการแก้ปัญหาที่ใช้ได้ผลสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เสมอๆ วิธีการแก้ไขเหล่านี้สามารถนำมาใช้ได้บ่อยๆ ในสถานการณ์ที่หลากหลาย บันทึกรวบรวมนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า ดีไซน์แพตเทิร์น (Design Patterns)
Design Patterns ซึ่งเป็นหนังสือที่ออกจัดจำหน่ายเมื่อปี 2538 โดยผู้แต่งร่วม 4 คนได้แก่ Erich Gamma, Richard Helm, Ralph Johnson และ John Vlissides หรือที่รู้จักในนามของ GoF (Gang of four) ถือว่าเป็น แบบแผนและแนวทางการออกแบบ ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในการนำมาประยุกต์ใช้งานจริง
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุและฐานข้อมูล
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุและระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Management Systems) ได้ถูกใช้งานร่วมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่เนื่องจากฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ไม่สามารถเก็บข้อมูลเชิงวัตถุได้โดยตรง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อเทคโนโลยีทั้งสองเข้าด้วยกัน การแก้ปัญหาสองแบบที่ได้รับความนิยมแพร่หลายคือการใช้ตัวส่งระหว่างโมเดลเชิงวัตถุและเชิงสัมพันธ์ (Object-Relational Mapping: ORM)
อีกวิธีการคือการใช้งานระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (Object-Relational Database Management Systems) แทนที่ระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ แต่วิธีการนี้ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก
โปรแกรมเชิงวัตถุและการเทียบเคียงกับโลกของความเป็นจริง
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุสามารถนำมาใช้จำลองการทำงานตามโลกของความเป็นจริงได้ แต่ไม่ได้เป็นที่นิยมนักเนื่องจากมีนักวิชาการจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยและมองว่าไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
ปัจจุบันวิธีการมาตรฐานที่ใช้ในการเทียบเคียงกับโลกของความเป็นจริง ตามแนวทางของคณิตศาสตร์คือ Circle-ellipse problem ซึ่งก็ถูกต้องบางส่วน แต่แนวคิดการสร้างยังคงต้องให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของพื้นฐานธรรมชาติที่เป็นไปได้ผนวกกับคณิตศาสตร์ด้วย เพื่อให้เกิดสมดุล
ตัวอย่างภาษาที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
- ABAP
- Ada 95
- C#
- C++
- Common Lisp Object System
- Delphi++
- Eiffel
- Fortran 2003
- JADE
- Java
- Modula-3
- Nice
- Oberon
- Objective-C
- Objective Modula-2
- OCaml
- Object Pascal
- Perl
- PHP
- Python
- REALbasic
- Ruby
- Simula
- Sleep
- Smalltalk
- Specman
- SystemVerilog
- UnrealScript
- Visual Basic
- Visual Basic.NET
- Visual C#.NET
- Visual FoxPro