ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผักกาดหัว"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
หัวผักกาด ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ผักกาดหัว
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20: บรรทัด 20:
[[หมวดหมู่:ผัก]]
[[หมวดหมู่:ผัก]]
{{โครงพืช}}
{{โครงพืช}}

[[ar:فجل]]
[[bg:Репичка]]
[[ca:Rave]]
[[da:Radise]]
[[de:Radieschen]]
[[el:Ρεπάνι]]
[[en:Radish]]
[[es:Raphanus sativus]]
[[eo:Rafano]]
[[fr:Radis]]
[[is:Hreðka]]
[[it:Raphanus sativus]]
[[he:צנון]]
[[ht:Radi]]
[[la:Raphanus sativus]]
[[lt:Valgomasis ridikas]]
[[nl:Radijs]]
[[ja:ハツカダイコン]]
[[pl:Rzodkiew]]
[[pt:Rabanete]]
[[qu:Rawanu]]
[[ru:Редис]]
[[simple:Radish]]
[[sk:Reďkev siata]]
[[szl:Radiska]]
[[sr:Ротквица]]
[[fi:Retiisi]]
[[sv:Rädisa]]
[[to:Lētisifoha]]
[[tr:Turp]]
[[uk:Редиска]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:34, 23 ธันวาคม 2551

ผักกาดหัว หรือชื่ออื่นๆ เช่น หัวผักกาด, หัวไช้เท้า เป็นผักที่หลายประเทศนำมาทำอาหาร อย่างอาหารญี่ปุ่นก็ นิยมนำหัวไช้เท้าดิบมาขูดฝอยลงในซีอิ๊ว ใช้เป็นน้ำจิ้ม เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าช่วยกระตุ้นน้ำย่อย หรืออย่างชาวจีนก็นำมาแปรรูปเป็นหัวไช้โป๊วไว้ทานตลอดปี ทางด้านวงการแพทย์แผนจีนมองว่า หัวไช้เท้าอยู่ในกลุ่มหยาง (yang) คือเป็นอาหารร้อน ไม่ควรทานเวลามีไข้ ส่วนในตำรายาพื้นบ้านอินเดียแนะว่า เมื่อทานแล้วจะช่วยให้นอนหลับรวมถึงแก้โรคประสาท