ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โคลงสี่สุภาพ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
ขี้กากฉาบร้านพี่เกมม.1/3 อิอิ จี้กากเพาะพันธ์บนหัว |
|||
'''โคลงสี่สุภาพ''' เป็น[[โคลง]]ชนิดหนึ่งที่กวีนิยมแต่งมากที่สุด ขี้กากฉาบ |
|||
==ลักษณะบังคับ== ขี้กากฉาบน้ำผึ้ง |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๐ ๐ ๐ เอก โท|๐ x (๐ ๐)|๐ เอก ๐ ๐ x|เอก '''โท'''|๐ ๐ เอก ๐ x|๐ เอก (๐ ๐)|๐ เอก ๐ ๐ '''โท'''|เอก โท ๐ ๐ }} |
|||
หนึ่งบทมี 30 คำ แบ่งเป็น 4 บาท 3 บาทแรกบาทละ 7 คำ บาทที่สี่ 9 คำ แต่ละบาทแบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 คำ วรรคหลัง 2 คำ เว้นบาทสุดท้าย วรรคหลัง 4 คำ มีสร้อยได้ในบาทแรก บาทที่สาม และบาทที่สี่ ส่งสัมผัสจากคำที่ 7 บาทแรกไปยังคำที่ 5 ในบาทที่สองและสาม กับคำสุดท้ายวรรคที่สองไปยังคำที่ 5 บาทที่สี่ บังคับเอก 7 แห่ง โท 4 แห่งดังคำโคลงอธิบายต่อไปนี้ |
|||
เมนูต่อไปนี้ |
|||
ชาขี้กากฉาบ |
|||
ปัดเผ็ดขี้กาก |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ ให้ปลายบาทเอกนั้น |มาฟัด |
|||
|ห้าที่บทสองวัจน์ |ชอบพร้อง |
|||
|บาทสามดุจเดียวทัด |ในที่ เบญจนา |
|||
|ปลายแห่งบทสองต้อง |ที่หน้าบทหลัง ๚ะ}} |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ ที่พินทุ์โทนั้นอย่า |พึงพินทุ์ เอกนา |
|||
|บชอบอย่างควรถวิล |ใส่ไว้ |
|||
|ที่พินทุ์เอกอย่าจิน |ดาใส่ โทนา |
|||
|แม้วบมีไม้ |เอกไม้โทควร ๚ะ}} |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ บทเอกใส่สร้อยได้ |โดยมี |
|||
|แม้วจะใส่บทตรี |ย่อมได้ |
|||
|จัตวานพวาที |ในที่ นั้นนา |
|||
|โทที่ถัดมาใช้ |เจ็ดถ้วนคำคง ๚ะ}} |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ บทต้นทั้งสี่ใช้ |โดยใจ |
|||
|แม้วจะพินทุ์ใดใด |ย่อมได้ |
|||
|สี่ห้าที่ภายใน |บทแรก |
|||
|แม้นมาทจักมีไม้ |เอกไม้โทควร ๚ะ |
|||
|ที่มา=จินดามณี ฉบับพระโหราธิบดี}} |
|||
คำเอก โท ในบาทแรกของโคลงอาจสลับที่กันได้ และอนุโลมให้ใช้คำตายแทนคำเอกในที่ที่หาคำเอกไม่ได้ แต่ไม่นิยมใช้เอกโทษและโทโทษ ดังกล่าวไว้ในจินดามณี ฉบับหลวงวงศาธิราชสนิท ดังต่อไปนี้ |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ เอกโทเปลี่ยนผลัดได้ |โดยประสงค์ |
|||
|แห่งที่ห้าควรคง |บทต้น |
|||
|บทอื่นอาจบ่ปลง |แปลงแบบ นาพ่อ |
|||
|เฉภาะแต่บทหนึ่งพ้น |กว่านั้นฤๅมี ๚ะ}} |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ เอกเจ็ดหายากแท้ |สุดแสน เข็ญเอย |
|||
|เอาอักษรตายแทน |เทียบได้ |
|||
|โทสี่ประหยัดหน |หวงเปลี่ยน |
|||
|ห่อนจักหาอื่นใช้ |ต่างนั้นไป่มี ๚ะ}} |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ เอกโทผิดที่อ้าง |ออกนาม โทษนา |
|||
|จงอย่ายลอย่างตาม |แต่กี้ |
|||
|ผจงจิตรคิดพยายาม |ถูกถ่อง แท้แฮ |
|||
|ยลเยี่ยงปราชญ์สับปลี้ |เปล่าสิ้นสรรเสริญ ๚ะ}} |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ ใช้ได้แต่ปราชญ์คร้าน |การเพียร |
|||
|ปราชญ์ประเสริฐดำเนียร |หมิ่นช้า |
|||
|ถือเท็จท่านติเตียน |คำตู่ คำนา |
|||
|มักง่ายอายอับหน้า |อาจถ้อเถียงไฉน ๚ะ}} |
|||
โคลงสี่สุภาพมี 30 คำ เมื่อหัก เอก 7 โท 4 แล้ว ส่วนที่เหลือ 19 คำแม้ไม่กำหนดรูปวรรณยุกต์ ในท้ายวรรคทุกวรรคต้องไม่มีรูปวรรณยุกต์ เพราะจะทำให้น้ำหนักของโคลงเสียไป ได้แก่คำที่กากบาทในแผนผังข้างล่าง |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ |
|||
|๐ ๐ ๐ เอก โท|๐ X (๐ ๐) |
|||
|๐ เอก ๐ ๐ X|เอก โท |
|||
|๐ ๐ เอก ๐ X|๐ เอก (๐ ๐) |
|||
|๐ เอก ๐ ๐ โท|เอก โท ๐ X )}} |
|||
คำสุดท้ายของโคลงนอกจากจะห้ามมีรูปวรรณยุกต์แล้ว กวียังนิยมใช้เพียงเสียงสามัญ หรือ จัตวา เท่านั้น |
|||
อนึ่ง เคยมีความเข้าใจกันว่า บาทที่สี่มีสร้อยไม่ได้ แต่หากพิจารณาคำอธิบายการแต่งโคลงในจินดามณีแล้วน่าจะตีความได้ว่าโคลงสี่สุภาพมีสร้อยได้ทุกบาทยกเว้นบาทที่สอง |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ บทเอกใส่สร้อยได้ |โดยมี |
|||
|แม้วจะใส่บทตรี |ย่อมได้ |
|||
|จัตวานพวาที |ในที่ นั้นนา |
|||
|โทที่ถัดมาใช้ |เจ็ดถ้วนคำคง ๚ะ}} |
|||
:ห้ามเพลิงไว้อย่าให้ มีควัน |
|||
:ห้ามสุริยะแสงจันทร์ ส่องไซร้ |
|||
:ห้ามอายุให้ทัน คืนเล่า |
|||
:ห้ามดังนี้ไว้ได้ จึงห้ามนินทา |
|||
:::(ถอดความ) |
|||
:::วรรคแรก ในบาทแรกนั้น มีคำสร้อยได้ |
|||
:::วรรคที่สอง และอาจใส่ในบาทที่สามได้อีก |
|||
:::วรรคที่สาม และรวมทั้งท้ายคำที่เก้าของบาทที่สี่ด้วย |
|||
:::วรรคที่สี่ ในบาทสองที่เหลืออยู่ ให้คงมีเพียงเจ็ดคำ (=ไม่มีสร้อย) |
|||
ทั้งนี้มีตัวอย่างโคลงในวรรณกรรมยืนยันได้แก่ |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ|๏ ตีอกโอ้ลูกแก้ว |กลอยใจ แม่เฮย |
|||
|เจ้าแม่มาเป็นใด |ดั่งนี้ |
|||
|สมบัติแต่มีใน |ภาพแผ่น เรานา |
|||
|อเนกบรู้กี้ |โกฏิไว้จักยา '''พ่อนา''' ๚ะ |
|||
|source=ลิลิตพระลอ}} |
|||
{{โคลงสี่สุภาพ |
|||
|๏ จรุงพจน์จรดถ้อยห่าง |ทางกวี |
|||
|ยังทิวาราตรี |ไม่น้อย |
|||
|เทพใดหฤทัยมี |มาโนชญ์ |
|||
|เชิญช่วยอวยให้ข้อย |คล่องถ้อยคำแถลง '''เถิดรา''' ๚ะ |
|||
|source=สามกรุง }} |
|||
==โคลงตัวอย่าง== |
==โคลงตัวอย่าง== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:58, 17 มกราคม 2561
ขี้กากฉาบร้านพี่เกมม.1/3 อิอิ จี้กากเพาะพันธ์บนหัว
โคลงตัวอย่าง
ตัวอย่างของโคลงสี่สุภาพในจินดามณีฉบับพระโหราธิบดี ที่มีไม้เอกไม้โทตรงตามบังคับ
๏ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง | อันใด พี่เอย | |
เสียงย่อมยอยศใคร | ทั่วหล้า | |
สองเขือพี่หลับใหล | ลืมตื่น ฤๅพี่ | |
สองพี่คิดเองอ้า | อย่าได้ถามเผือ ๚ะ | |
— ลิลิตพระลอ |
ตัวอย่างของโคลงสี่สุภาพในจินดามณี ฉบับหลวงวงศาธิราชสนิท ที่มีไม้เอกไม้โทตรงตามบังคับ
๏ นิพนธ์กลกล่าวไว้ | เป็นฉบับ | |
พึงเพ่งตามบังคับ | ถี่ถ้วน | |
เอกโทท่านลำดับ | โดยที่ สถิตนา | |
ทุกทั่วลักษณะล้วน | เล่ห์นี้คือโคลง ๚ะ |
นอกจากนี้มีโคลงแบบฉบับอีกบทที่มาจากโคลงนิราศนรินทร์ ที่เอกโทครบตรงตำแหน่งเช่นกัน
๏ จากมามาลิ่วล้ำ | ลำบาง | |
บางยี่เรือราพราง | พี่พร้อง | |
เรือแผงช่วยพานาง | เมียงม่าน มานา | |
บางบ่รับคำคล้อง | คล่าวน้ำตาคลอ ๚ะ | |
— นิราศนรินทร์ |
สัมผัสระหว่างบท
การแต่งโคลงสี่สุภาพต่อกันหลายๆ บท เป็นเรื่องราวอย่างโคลงนิราศ โคลงเฉลิมพระเกียรติ โคลงสุภาษิต หรือโคลงอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ อาจทำได้ 2 ลักษณะ คือ โคลงสุภาพชาตรี และ โคลงสุภาพลิลิต
- โคลงสุภาพชาตรี ไม่มีสัมผัสระหว่างบท ส่วนใหญ่กวีนิพนธ์แบบเก่าจะนิยมแบบนี้เป็นส่วนมาก
- โคลงสุภาพลิลิต มีการร้อยสัมผัสระหว่างบท โดยคำสุดท้ายของบทต้นต้องส่งสัมผัสสระ ไปยังคำที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 ในบทต่อไป
เช่น
1 ๏ บุเรงนองนามราชเจ้า | จอมรา มัญเฮย | |
ยกพยุหแสนยา | ยิ่งแกล้ว | |
มอญม่านประมวลมา | สามสิบ หมื่นแฮ | |
ถึงอยุธเยศแล้ว | หยุดใกล้นครา ๚ะ |
2 ๏ พระมหาจักรพรรดิเผ้า | ภูวดล สยามเฮย | |
วางค่ายรายรี้พล | เพียบหล้า | |
ดำริจักใคร่ยล | แรงศึก | |
ยกนิกรทัพกล้า | ออกตั้งกลางสมร ๚ะ |
3 ๏ บังอรอัคเรศผู้ | พิศมัย ท่านนา | |
นามพระสุริโยทัย | ออกอ้าง | |
ทรงเครื่องยุทธพิไชย | เช่นอุปราชแฮ | |
เถลิงคชาธารคว้าง | ควบเข้าขบวนไคล ๚ะ | |
— โคลงภาพเรื่องพระราชพงศาวดาร |
คำสร้อย
คำสร้อยซึ่งใช้ในโคลงสี่สุภาพนั้น จะใช้ต่อเมื่อความขาด หรือยังไม่สมบูรณ์ หากได้ใจความอยู่แล้วไม่ต้องใส่ เพราะจะทำให้ "รกสร้อย"
คำสร้อยที่นิยมใช้กันเป็นแบบแผนมีทั้งหมด 18 คำ
- พ่อ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล
- แม่ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล หรือเป็นคำร้องเรียก
- พี่ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล อาจใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 2 ก็ได้
- เลย ใช้ในความหมายเชิงปฏิเสธ
- เทอญ มีความหมายเชิงขอให้มี หรือ ขอให้เป็น
- นา มีความหมายว่าดังนั้น เช่นนั้น
- นอ มีความหมายเช่นเดียวกับคำอุทานว่า หนอ หรือ นั่นเอง
- บารนี สร้อยคำนี้นิยมใช้มากในลิลิตพระลอ มีความหมายว่า ดังนี้ เช่นนี้
- รา มีความหมายว่า เถอะ เถิด
- ฤๅ มีความหมายเชิงถาม เหมือนกับคำว่า หรือ
- เนอ มีความหมายว่า ดังนั้น เช่นนั้น
- ฮา มีความหมายเข่นเดียวกับคำสร้อย นา
- แล มีความหมายว่า อย่างนั้น เป็นเช่นนั้น
- ก็ดี มีความหมายทำนองเดียวกับ ฉันใดก็ฉันนั้น
- แฮ มีความหมายว่า เป็นอย่างนั้นนั่นเอง ทำนองเดียวกับคำสร้อยแล
- อา ไม่มีความหมายแน่ชัด แต่จะวางไว้หลังคำร้องเรียกให้ครบพยางค์ เช่น พ่ออา แม่อา พี่อา หรือเป็นคำออกเสียงพูดในเชิงรำพึงด้วยวิตกกังวล
- เอย ใช้เมื่ออยู่หลังคำร้องเรียกเหมือนคำว่าเอ๋ยในคำประพันธ์อื่น หรือวางไว้ให้คำครบตามบังคับ
- เฮย ใช้เน้นความเห็นคล้อยตามข้อความที่กล่าวหน้าสร้อยคำนั้น เฮย มาจากคำเขมรว่า "เหย" แปลว่า "แล้ว" จึงน่าจะมีความหมายว่า
นอกจากนี้มีคำสร้อยที่เรียกว่า "สร้อยเจตนัง" คือสร้อยที่มีความหมาย หรือใช้ตามใจตน ซึ่งไม่ควรใช้ในงานกวีนิพนธ์ที่เป็นพิธีการ
- "หายเห็นประเหลนุช นอนเงื่อง งงง่วง" โคลงนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย
- "พวกไทยไล่ตามเพลิง เผาจุด ฉางฮือ" โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
- "ลัทธิท่านเคร่งเขมง เมืองท่าน ถือฮอ" โคลงภาพฤๅษีดัดตน