ผู้ใช้:Thanaphum/กระบะทราย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไฟล์:Thanaphum.ka.jpg
ข้อมูลส่วนตัว:
ชื่อธนภูมิ คำศุภประเสริฐ
กำลังศึกษาที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงอีสาน
คณะบริหารธุรกิจ
สาขาวิชาระบบสารสนเทศ ชั้นปีที่ 3/4
รหัสนักศึกษา 551531022013-4

ที่อยู่ปัจจุบัน:
ถนน 30กันยา ตำบลในเมือง
อำเภอเมืองนครราชสีมา นครราชสีมา 3000

บทความ[แก้]

ตำแหน่งงานที่สนใจ

Network Administrator
เหตุผลที่สนใจ: เนื่องจากงานสาย Network เป็นสายงานที่เจริญเติบโตได้ไวและมีค่าตัวมูลค่าสูงข้าพเจ้าจึงสนในในสายงานทางด้านนี้ 

F1 ถึง F12 รู้ไหมว่ามันทำอะไรได้บ้าง?[แก้]

F1 ถึง F12 รู้ไหมว่ามันทำอะไรได้บ้าง?

F1
มักจะใช้เป็นคีย์ช่วยเกือบทุกโปรแกรมจะเปิดหน้าจอ
ป้อนการตั้งค่า CMOS
Windows Key + F1 จะเปิดตัวช่วยของ Microsoft Windows
เปิดบานหน้าต่างงาน

F2
ใน Windows จะใช้ในการเปลี่ยนชื่อไอคอนหรือไฟล์
Alt + Ctrl + F2 เปิดเอกสารใหม่ในโปรแกรม Microsoft Word .
Ctrl + F2 จะแสดงหน้าต่างตัวอย่างก่อนพิมพ์ใน Microsoft Word
เข้าสู่การป้อนการตั้งค่า CMOS หรือ Bios

F3
เปิดคุณลักษณะการค้นหาในหลายๆโปรแกรมรวมถึง Microsoft Windows
ใน MS - DOS หรือ Windows ของบรรทัดคำสั่ง F3 จะทำซ้ำคำสั่งสุดท้าย
Shift + F3 จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อความใน Microsoft Word

F4
เปิดพบหน้าต่าง
ทำซ้ำการกระทำล่าสุด ( Word 2000 ขึ้นไป )
Alt + F4 จะปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ใน Microsoft Windows
Ctrl + F4 จะปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่ในหน้าต่างที่ใช้งานในปัจจุบันใน Microsoft Windows

F5
ในทุกเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต F5 จะรีเฟรชหรือโหลดหน้าเว็บหรือหน้าต่างเอกสาร
เปิดหน้าค้นหา แทนที่ และไปที่หน้าต่างใน Microsoft Word
เริ่มสไลด์โชว์ใน PowerPoint

F6
ย้ายเคอร์เซอร์ไปที่ Address bar ใน Internet Explorerและ Mozilla Firefox .
Ctrl + Shift + F6 เปิดไปยังเอกสารอื่น ๆ ใน Microsoft Word

F7
ปกติจะใช้เพื่อตรวจสอบการสะกดและไวยากรณ์ตรวจสอบเอกสารในโปรแกรม Microsoft
เช่น Microsoft Word, Outlook, ฯลฯ Shift + F7 ทำงานตรวจสอบบนคำที่ไฮไลต์
เปิดการใช้งานเลือนหน้าต่างด้วยปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดใน Mozilla Firefox

F8
แป้นฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้าสู่เมนูเริ่มต้น Windows, นิยมใช้ในการเข้าถึง Windows แบบ
Safe Mode .

F9
เปิดแถบเครื่องมือวัดใน Quark 5.0

F10
ใน Microsoft Windows เปิดใช้งานแถบเมนูของโปรแกรมที่เปิดอยู่
Shift + F10 เป็นเช่นเดียวกับการคลิกขวาบนไอคอนที่ไฮไลต์ไฟล์หรือการเชื่อมโยง
อินเทอร์เน็ตการเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่ ของ HP และ Sony คอมพิวเตอร์
ป้อนการตั้งค่า CMOS .

F11
โหมดเต็มหน้าจอในเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต
CTRL + F11 การเข้าถึง การกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของ Dell
การเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่บน eMachines, Gateway, และคอมพิวเตอร์ Lenovo

F12
เปิดหน้าที่ทำการบันทึกใน Microsoft Word
SHIFT + F12 บันทึกเอกสาร Microsoft Word
Ctrl + Shift + F12 พิมพ์เอกสารใน Microsoft Word


10 ทักษะไอทีที่นายจ้างต้องการมากที่สุดในปี 2015[แก้]

           เว็บไซต์ Computer world’s สหรัฐฯ ได้ทำการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการในการจ้างพนักงานไอทีเข้าทำงานในปี 2015 จำนวน 194 ราย พบว่า 10 ทักษะไอทีที่นายจ้างต้องการมากที่สุด ได้แก่ 
ทักษะด้านงาน Programming และ application development ซึ่งคงอันดับ 1 เช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว
 48% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Programming/application development
คงที่อันดับ 1 เมื่อปีที่แล้ว
          โปรแกรมเมอร์มีส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า คนที่มีความถนัดด้านการพัฒนาโปรแกรมและมีประสบการณ์มากพอที่จะจัดการความต้องการที่ซับซ้อนได้เป็นอย่างดีกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก
35% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Project managementขยับขึ้นจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว
          จะเห็นว่าในปีนี้มีความต้องการ Project Manager เพิ่มขึ้นถึง 4 อันดับ โดย Project Manager ที่ดีต้องมีทั้งความเฉียบแหลมทางธุรกิจและความรู้ด้านเทคโนโลยีควบคู่กัน นอกจากจะสามารถดูแลโครงการ
ขนาดใหญ่ได้แล้ว ยังจำเป็นต้องมีประสบการณ์เป็นผู้นำในการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ เช่น เปลี่ยนจากวิธีดั้งเดิมแบบ Waterfall เป็น Agile เพื่อให้งานสั้นลง ประหยัดเวลา และประหยัดงบประมาณ ใครมีคุณสมบัติ
เหล่านี้รับรองว่าไปได้ไกลแน่นอน30% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Help desk/technical support
ตกจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว
          ความต้องการ Help desk และ technical support ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่ยังมีการพัฒนาอุปกรณ์และและแอพลิเคชั่น ก็ยังคงต้องการความช่วยเหลือจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญงาน IT Support อยู่นั่นเอง
 28% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Security/compliance governanceขยับขึ้นจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว
          ความปลอดภัยด้านไอทีหมายถึงความปลอดภัยของธุรกิจ ปัจจุบันผู้ประกอบการยอมลงทุนมากขึ้นในเรื่องความปลอดภัย จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทักษะด้านงาน IT Security และ compliance governance
 เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในปีนี้ องค์กรต้องการคนที่มีความชำนาญที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ป้องกันภัยคุกคาม และอุดช่องโหว่ทางไอทีให้แก่บริษัท 28% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Web development
ไม่ติดอันดับเมื่อปีที่แล้ว
          ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บเป็นหนึ่งในทักษะที่หายากที่สุด เนื่องจากความต้องการของฝ่ายนายจ้างกับลูกจ้างไม่สัมพันธ์กัน มีช่องว่างระหว่างสิ่งที่บริษัทต้องการจะทำ กับความสามารถในการดำเนินการของ
 Web Developer ตามความต้องการนั้น 26% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Database administration
คงที่อันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว
          การบริหารฐานข้อมูลเป็นบทบาทที่เหนื่อยและหนัก ยิ่งบริษัทที่ต้องจัดการกับ Big Data ยิ่งต้องการตัวคนที่มีทักษะด้านงาน Database ซึ่งไม่ใช่แค่สามารถจัดเก็บข้อมูลมหาศาล แต่ต้องเข้าใจว่าฐานข้อมูลเหล่านั้น
ถูกจัดเก็บอย่างไรด้วย 24% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Business intelligence/analytics
ขยับขึ้นจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว
          เมื่อผู้ประกอบการหันมาสนใจ Big Data มากขึ้น จึงไม่แปลกที่ Business intelligence/analytics จะเป็นที่ต้องการขึ้นมาด้วย เนื่องจากบริษัทต้องการคนที่จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นในเชิงลึก
 และนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด 24% 
มองหาคนที่มีทักษะด้าน Mobile applications and device managementตกจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว
          ยิ่งความต้องการใช้งาน mobile apps เพิ่มขึ้น องค์กรยิ่งต้องการคนพัฒนาแอพให้ทันต่อความต้องการของตลาด อย่างไรก็ดี การจ้างพนักงานใหม่อาจไม่สามารถตอบโจทย์เพียงพอ หลายองค์กร
จึงเลือกที่จะเทรนด์พนักงานที่มีอยู่ให้สามารถดำเนินการตามความต้องการได้อย่างทันท่วงที เพราะเหตุนี้ทักษะนี้จึงตกอันดับลงมา 22% มองหาคนที่มีทักษะด้าน Networking
ตกจากอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว
          ยังคงมีความต้องการคนไอทีที่มีทักษะด้านงาน Networking ในปีนี้ สอดคล้อดกับผลสำรวจของ Robert Half Technology IT Hiring Forecast and Local Trend Report พบว่า 57% ระบุว่า 
network administration เป็นทักษะที่องค์กรต้องการอย่างมาก เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียที่ระบุว่า ทักษะ Networking เป็น 1 ใน 7 ทักษะที่หน่วยงานด้านไอทีต้องการ
 20% มองหาคนที่มีทักษะด้าน  Big data
ขยับขึ้นจากอันดับ 11 เมื่อปีที่แล้ว
          เว็บไซต์หางานด้านไอทีในสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจเมื่อเดือนกันยายน 2557 ว่า มีการลงประกาศงานในตำแหน่งที่เกี่ยวกับ Big data เพิ่มขึ้นถึง 56% 
จากปีที่ผ่านมา ซึ่งความต้องการที่มีมากขึ้นนี้ทำให้ค่าตอบแทนสำหรับคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้สูงตามไปด้วย

[1]


งานไอที สายงานนี้มีดีอย่างไร ทำไมจึงหางาน IT[แก้]

ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา งานไอทีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากภาคการศึกษา และหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ  ตลาดแรงงานด้านไอทีเองก็เติบโตอย่างรวดเร็ว มีคนหางานจำนวนมากมองหางานไอที ทำให้เกิดการแข่งขันค่อนข้างสูง 
จึงเกิดคำถามขึ้นว่า ผู้สมัครงานต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง จึงจะทำให้ได้งานไอทีดังที่คาดหวังไว้
ทำอย่างไรจึงได้ทำงานไอที?
          งานไอทีเป็นสายงานที่มีฐานงานค่อนข้างกว้าง เปิดรับในหลายระดับความสามารถ ตำแหน่งงานจึงมีตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญงานระดับสูง ไปจนถึงงานสำหรับเด็กจบใหม่ แต่คนหางานที่ได้เปรียบมักจะเป็นกลุ่มคนที่มาพร้อมกับความรู้ความสามารถ หรือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในชั้นเรียน หรือประสบการณ์ในการฝึกงานตามองค์กรต่าง ๆ ก็ตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ที่ต้องการสมัครงานก็ต้องเตรียมตัวให้ตนเองมีความพร้อมมากที่สุด
          ผู้ที่เรียนมาทางด้านการเขียนโปรแกรมและซอฟต์แวร์ โครงสร้างวงจรคอมพิวเตอร์ การสื่อสารข้อมูลคอมพิวเตอร์Network ตลอดจน การบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เหล่านี้ จะได้เปรียบกว่าคนที่เรียนมาทางสาขาอื่น เพราะเป็นการเรียนสายตรงไปสู่งานด้านไอที
          ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินเดือนที่สูง ก็เป็นหนึ่งในแรงจูงใจให้เกิดการหางาน และสมัครงานประเภทนี้ แต่คนหางานเองก็ต้องไม่ลืมว่า ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ตลอดจนความเชี่ยวชาญนั้น เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจจ้างงานของนายจ้างเช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านั้น ยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบ
งานไอที ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้

IT Support  คือตำแหน่งงานที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ จัดการ แก้ไข ซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตลอดจน Software และ Hardware ขององค์กรให้อยู่ในสภาพที่ดี และพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา

System Admin คือตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาระบบ เครือข่าย ตลอดจนดูแลเครื่อง Server และระบบ Internet ขององค์กร อีกทั้งยังต้องมีความสามารถในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

Webmaster คือตำแหน่งงานที่ดูแลภาพลักษณ์โดยรวมของ Website โดยมีหน้าที่กำหนดรูปแบบว่าจะออกมาในทิศทางใด ตลอดจนมีหน้าที่ตัดสินใจ และดูแลความเคลื่อนไหวต่าง ๆ บนเว็บไซต์

Programmer  คือตำแหน่งงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรม จึงจำเป็นต้องรู้ และเข้าใจภาษาคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เช่น VB , PHP , Java , C# , ASP เหล่านี้ เป็นต้น

Online Marketing คือตำแหน่งงานที่ทำหน้าที่ดูแลการตลาดแบบออนไลน์ การขาย ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น Website, Social Network ผู้ที่ทำงานด้านนี้จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี และการตลาดผสมผสานกันไปด้วย

S.E.O. คือตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับอยู่ในลำดับต้น ๆ จึงจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการสร้าง และค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ผ่าน Search Engine เช่น Google , Yahoo , Bing เป็นต้น

          งานไอทีนั้นอาจจะดูเป็นสายงานที่แคบ เปิดโอกาสให้เฉพาะผู้ที่เรียนจบสาขาเหล่านี้มา แต่จริง ๆ แล้วเปิดกว้าง เพราะผู้ที่เรียนรู้ด้วยตัวเองก็สามารถเข้าสู่สายงานนี้ได้เช่นเดียวกัน หากแต่เพียงว่าต้องมีความรู้ในด้านต่าง ๆ เหล่านี้อย่างแท้จริง

[2]


รูปแบบ LAN,WAN,OSI MODEL[แก้]

LAN Technology WAN Technology OSI model - TCP/IP model


1.แบบ STAR : ลักษณะนี้เป็นการเชื่อมต่อ มีคอมพิวเตอร์ หรือ HOST
เป็นศูนย์กลางในระบบ CENTRALIZED เครื่องที่อยู่ราบรอบคือ
TERMINAL สำหรับระบบ LAN ตัวที่เป็นศูนย์กลางนั่นคือ
WIRING CONCENTRATOR หรือ HUB


2.แบบ RING : เป็นลักษณะการเชื่อมต่อแบบ LOOP มีใช้ในระบบ LAN TOKEN RING
อย่างไรก็ดี ในระบบ WAN การเชื่อมต่อ ROUTER ระหว่าง NETWORK ต่างๆ
ก็สามารถเชื่อมต่อในลักษณะนี้ได้เช่นกัน


3.แบบ BUS : สำหรับระบบ LAN เราเรียกว่าเป็นระบบ ETHERNET
สำหรับระบบ MAINFRAME ENVIRONMENT เราเรียกระบบ MULTI – DROP


4.แบบ MESH : ลักษณะการเชื่อมต่อแบบ MESH นี้ ปกติจะใช้ใน WIDE AREA NETWORK
ลักษณะการเชื่อมต่อแบบนี้ ได้แก่ การต่อ ROUTER หรือการเชื่อมต่อแบบ PACKET SWITCHING X.25


Circuit switching เทคนิคในการสื่อสารข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
เมื่อมีการเชื่อมต่อกันแล้วจะติดต่อกันได้ตลอดเวลา
ผู้อื่นจะแทรกเข้ามาไม่ได้เลย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะปลดวงจรออก ตัวอย่างง่าย ๆ
เช่นการติดต่อทางสายโทรศัพท์ เมื่อเริ่มพูดกันได้แล้ว
คนอื่นจะต่อสายแทรกเข้ามาไม่ได้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะวางหูลง (ปลดวงจร)

หลักการทำงาน
Circuit switching
1) เมื่อสถานีA ต้องการส่งข้อมูลให้กับ สถานีB จะต้องมีการสร้างเส้นทางเสียก่อน
โดยที่ฝั่งที่รับข้อมูลจะต้องตอบว่าพร้อมรับข่าวสาร (Establishment/ Connection)
2) เมื่อสร้างเส้นทางการส่งข้อมูลเรียบร้อย ตลอดเวลาของการสื่อสารจะใช้เส้นทางเดิมตลอด
และไม่มีบุคคลอื่นมาใช้เส้นทาง
3) มีอัตราความเร็วในการส่งเท่ากันทั้งด้านรับและด้านส่ง
4) มีการทำ Error Control และ Flow Control ทุกๆ ชุมสาย
5) ในขณะทำการส่งข้อมูล ข้อมูลจะถูกส่งด้วยความเร็วคงที่ และไม่มีการหน่วงเวลา(Delay)
6) เมื่อส่งข้อมูลเสร็จจะยกเลิกเส้นทางที่ได้เชื่อมต่อขึ้นมาเพื่อให้เครื่องอื่นได้ใช้เส้นทางได้



Packet switching เทคนิคในการแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม (Packet)
แต่ละกลุ่มจะมีความยาวเท่ากัน (ปกติ 100บิต)ข้อมูลจะหาทิศทางเดินไปได้เอง
โดยที่สายหนึ่ง ๆ จะสามารถใช้กันได้หลายคน เมื่อถึงที่ปลายทางข้อมูลก็จะกลับ ไปรวมกันเอง

หลักการทำงาน
Packet switching
1) เมื่อ สถานี A ต้องการส่งข้อมูลให้กับสถานีB จะมีการแบ่งข้อมูลออกเป็น
Packet ย่อยก่อนจะถูก ส่งออกไป
2) ส่งข้อมูลโดยใช้ชุมสาย PSE (Packet switching exchange) ควบคุมการรับส่ง
3) ทำ Error control หรือ Flow Control ที่ PSE
4) ด้านรับและด้านส่งมีอัตราความเร็วที่ไม่เท่ากันได้
5) ใช้เทคนิค Store - and - Forward ในการส่งข้อมูล ผ่าน PSE

1. Process Layer จะเป็น Application Protocal ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับผู้ใช้และให้บริการต่าง ๆ
2. Host – to – Host Layer จะเป็น TCP ที่ทำหน้าที่คล้ายกับชั้นที่ 4 ของ OSI Model
คือควบคุมการรับส่งข้อมูลจากปลายด้านส่งถึงปลายทางด้านรับข้อมูล
3. Internetwork Layer ได้แก่ส่วนของโปรโตคอล IP ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับชั้นที่ 3 ของ OSI Model
คือเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบเครือข่ายที่อยู่ชั้นล่างลงไป
4. Network Interface เป็นส่วนที่ควบคุมฮาร์ดแวร์การรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย
เปรียบได้กับชั้นที่ 1 และ2 ของ OSI Model



TCP/IP Model มีแนวคิดพื้นฐานแตกต่างจาก OSI Model คือไม่ได้มีพื้นฐานของการสื่อสารแบบการสนทนา
TCP/IP Model เป็นภาพแสดงถึงโลกของระบบเครื่อข่ายสากล (Internetworking)
จะพบว่ามีบางเลเยอร์ที่มีการกำหนดคุณสมบัติที่เทียบได้ไกล้เคียงกัน
แต่บางเลเยอร์ก็ไม่สามารถเทียบหาความสัมพันธ์กัน

[3] [4]

[5] [6]

  1. http://th.jobsdb.com/th-th/articles/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2015
  2. http://th.jobsdb.com/th-th/articles/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5
  3. http://www.rmutphysics.com/charud/invention/invention2/computer/1/25.htm
  4. http://nooplemonic.exteen.com/20090706/circuit-switching-packet-switching
  5. http://osimode01.weebly.com/tcpip358536333610osi-model.html
  6. http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/Knowledge/Networks%20Technology/network6.htm