ผู้ใช้:Soonsuwon/ทดลองเขียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สาคร ทองมุณี
เว็บไซต์https://www.facebook.com/pi.luang.korn

พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวคนแรกของประเทศไทย หรือที่ใครๆ เรียกว่า “พี่หลวง” เป็นเด็กคูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วงวัยเด็กได้เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดชลธานประสิทธิ์ และโรงเรียนคูเต่า ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ ต่อมาได้ย้ายมาเรียนมัธยมที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย (ญ.ว.) โดยระหว่างนั้นได้มาอาศัยอยู่ที่วัดหงษ์ประดิษฐาราม หรือคนแถวนั้นเรียกว่า “วัดคอหงส์” ประสบการณ์มีค่าหลายๆ อย่างที่ได้รับทำให้มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่จะบอกใครๆ ว่า “ผมเป็นเด็กวัด” และความเป็นเด็กวัดจะอยู่ในตัวผมตลอดไป ตั้งแต่วันแรกที่เป็นเด็กวัดจนถึงวันนี้ชีวิตการเป็นตำรวจ

หลังจากเรียนจบมัธยมได้สอบเข้าเป็นนักเรียนพลตำรวจที่โรงเรียนตำรวจภูธรภาค 9 แต่เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนไม่มีเงินแม้แต่ค่าสมัครสอบเข้าตำรวจ ญาติพี่น้องจึงช่วยกันรวบรวมเงิน และขอความช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านหัวควาย จึงได้มีโอกาสหาเงินค่าสมัครสอบเข้าตำรวจผมจึงสำนึกในบุญคุณและตั้งใจเรียนจนเรียนจบมาได้อันดับ 1 ของรุ่น แล้วสอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 35 ระหว่างการทำงานได้ศึกษาต่อระดับปริญาโท รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิตย์ (เกียรตินิยมเหรียญทอง)จากสถาบัณบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และเข้าอบรมหลักสูตร Post Blast Investigation Course 2006 Baton Rauge ที่ Louisiana State ประเทศสหรัฐอเมริกา

จบมาทำงานครั้งแรกในตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสงขลา และรับราชการเติบโตในพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด ตำแหน่งสำคัญๆ ที่ได้รับ เช่น ผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9, ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และล่าสุดได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวคนแรกของประเทศไทย

แรงบันดาลใจ[แก้]

ประการแรก ผมเคยไปติดต่อราชการแห่งหนึ่งตอนเป็นเด็กแต่งตัวมอมแมมต้องการจะเรียนโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย (ญ.ว.) ก็ต้องไปขอเอกสาร ซึ่งเดินทางมาถึงส่วนราชการ 8 โมงเช้าแต่ได้เอกสาร ตอน 5 โมงเย็น เห็นเจ้าหน้าที่เดินไปเดินมา แต่ไม่ทำเอกสารให้สักที เพราะเราแต่งตัวมอมแมม รองเท้าไม่ได้ใส่ ก็ต้องนั่งรอนาน

ประการที่สอง ที่บ้านผมที่คูเต่า พ่อชอบขึ้นน้ำตาลโตนดเอามากินที่บ้าน ตำรวจคูเต่าก็ชอบมากินฟรีและผมต้องไปหากับแกล้มเป็นปลาแห้งที่วัด แต่อยู่มาวันหนึ่งปลาแห้งที่วัดหมด ตำรวจจับแม่ไก่ของผม เป็นแม่ไก่ชนกำลังนอนฟักไข่ ผมบอกไก่ผอม ตำรวจบอกว่าเครื่องในไม่ผอม และแล้วตำรวจก็เชือดคอไก่ต่อหน้าผม ผมเสียใจมาก ตำรวจสมัยก่อนรังแกประชาชน จึงอยากแก้ไขวงการตำรวจตรงนี้ มันฝังใจมากเลยครับ

ประการที่สาม วันหนึ่งผมเดินทางกลับบ้าน เด็กติดยาอยู่ๆ มันก็มาล็อคคอผม เอาเงินผมไป 5 บาทซึ่งสมัยนั้นผมเก็บตั้งหลายวันกว่าจะได้ 5 บาท เรื่องนี้ผมต้องปราบปรามยาเสพติด และจากที่เรายากจน เคยทำนา เป็นเด็กวัด ผมคิดว่าต้องตอบแทนบ้านเกิด ทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ