ผู้ใช้:Somchai malison

'วัดกก' 'ที่ตั้ง' วัดกก ตั้งอยู่เลขที่ ๑๘ ถนนพระราม ๒ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

'พื้นที่ของวัดกก' มีที่ดินตั้งวัด ๒๕ ไร่

                                  อาณาเขตทิศเหนือ                             ติดต่อกับคลองข้างวัดกก
                                  อาณาเขตทิศใต้                                ติดต่อโรงเรียนวัดกก
                                  อาณาเขตทิศตะวันออก                       ติดต่อกับลำปะโดงสาธารณะ
                                  อาณาเขตทิศตะวันตก                         ติดต่อกับคลองสนามชัย

'ลักษณะพื้นที่ของวัด' เป็นที่ราบลุ่ม น้ำท่วมถึง สภาพแวดล้อมทั่วไปเป็นพื้นที่การเกษตรกรรม ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงจากพื้นที่เกษตรกรรม กลายเป็นที่หมู่บ้านจัดสรร และเป็นโรงเรียนอุตสาหกรรมเสียประมาณ ๗๐ % เหลือพื้นที่เกษตรกรรมเป็นส่วนน้อย

'การสร้างวัด' วัดกกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ปี พ.ศ. ๒๓๐๐ ประมาณแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมต่อมาพระสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ และได้รับการปฏิสังขรณ์อีกครั้ง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และจากหลักฐานอ้างอิงจากกลอนนิราศเมืองเพชร ของสุนทรภู่มีใจความว่า

                                                                         ถึงวัดกกรกร้างอยู่ข้างซ้าย
                                                               เป็นรอยรายปืนพม่าที่ฝาผนัง
                                                               ถูกทะลุปรุไปแต่ไม่พัง
                                                               แต่โบสถ์ยังทนปืนอยู่ยืนนาน
                                                               แม้นมั่งมีมิให้ร้างจะสร้างฉลอง
                                                               ให้เรืองรองรุ่งโรจน์โบสถ์วิหาร
                                                               ด้วยที่นี่ที่เคยตั้งโขลนทวาร
                                                               ได้เบิกบานประตูป่าพนาลัยฯ
                                   จากนิราศเมืองเพชรของสุนทรภู่ ระบุไว้ชัดเจนว่า วัดกกนั้นเป็นประตูป่าสำหรับประกอบพิธี "เบิกโขลนทวาร" อันเป็นพิธีการของพราหมณ์เพื่อตัดไม้ข่มนามตามตำราพิชัยสงครามอันถือเป็นเคล็ดก่อนยกทัพ ย่อมเชื่อถือได้ว่า สถานที่พิธีพราหมณ์เบิกโขลนทวาร ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ลงมานั้นอยู่ที่วัดกกแห่งนี้ ทั้งนี้เพราะสุนทรภู่มีชีวิตอยู่ร่วมสมัยยมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๒ ย่อมเป็นที่รู้จักกว้างข้างเกี่ยวกับวัดกก และจากช่วงที่ว่า " เป็นรอยรายปืนพม่าที่ฝาผนัง" ซึ่งเกิดจากสงครามพม่า น่าจะเข้าใจได้ว่าวัดกกเป็นวัดที่มีมาแล้วแต่สมัยอยุธยา ดังที่เคยถูกพม่าบุกรุกเข้ามาเมื่อสงครามเสียกรุงครั้งที่ ๒

'พระราชทานวิสุงคามสีมา' วัดกก ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๐๙ 'ปูชนียสถาน' วัดกกมีขนาดใหญ่มาก เสาเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองหัวเสาบัวกลีบยาวใหญ่ คันทวยสลักไม้สมัยอยุธยา ทรงค่อนข้างยาวแต่ตัวลายสวยงามมาก จากทรวดทรงพระอุโบสถ คันทวยและใบเสมา จึงสันนิษฐานได้ว่า เป็นวัดที่สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายประมาณแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ซุ้มประตูหน้าต่าง วิหารพระอุโบสถจึงเป็นแบบรัชกาลที่ ๑ และในสมัยพระสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาเจษฎาบดินทร์พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่ ทรงปฏิสังขรณ์เปลี่ยนเครื่องบนหลังคาและหน้าบันเสียใหม่ รวมทั้งวิหารเล็กคร่อมกำแพงแก้วสองข้างพระอุโบสถ ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถเป็นฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ ๓ ภาพจิตรกรรมฝาผนังด้านข้างเหนือต่าง เขียนรูปเทพชุมนุม ๓ แถว ผนังด้านหลังเขียนรูปพระพุทธเจ้าประทับยืนโปรดมนุษย์โลก ซุ้มเสมาก็คงจะสมัยรัชกาลที่ ๓ เช่นเดียวกัน

                         หลังอุโบสถมีเจดีย์แปลกอยู่ ๒ องค์ องค์เจดีย์กลมฐานสูงคล้ายจะเป็นสมัยรัชกาลที่ ๔ แต่ส่วนใต้ระฆังเป็นแบบรูป ๘ เหลียมคล้ายเจดีย์รุ่นเก่ากว่า ส่วนอีกองค์หนึ่งมีลักษณะคล้ายกับเจดีย์ที่อยู่หลังวิหารวัดไลย์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งน่าจะเก่าถึงสมัยอู่ทอง แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานอื่นสนับสนุนประกอบ

'ปูชนียวัตถุ' พระพุทธรูปปางมารวิชัย นามว่า "หลวงพ่อขาว" องค์พระเป็นศิลปะของพม่าทำจากหินอ่อนสีขาวทั้งองค์

'การศึกษา' ทางวัดได้เปิดสอนพระปริยัติธรรม นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ธรรมมะสำหรับประชาชนที่สนใจใผ่หาความรู้ทางพระพุทธศาสนาและต่อมาได้จัดสร้างโรงเรียนเปิดสอนระดับประถมศึกษาและมัธยมต้นสำหรับเยาวชน

'การปกครอง' เจ้าอาวาสที่ปรากฎนามจนถึงปัจจุบัน ดังนี้คือ

                               ๑. หลวงพ่อดิษฐ์ (ลาสิกขา)
                               ๒. เจ้าอธิการพ่วง ธมฺมโชติกะ ปกครองวัดมาจนถึง พ.ศ. ๒๔๘๐
                               ๓. พระครูวิเศษมงคลกิจ (มิ่ง ธมฺมสุวณฺโณ) ปกครองวัดตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๐ จนถึง พ.ศ.๒๕๑๘
                               ๔. พระอธิการเลื่อม ธมฺมปาโล ปกครองวัดตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๘ จนถึง พ.ศ.๒๕๓๕
                               ๕. พระครูญานสุทธิคุณ (น้อม ญานสุทธิ) ปกครองวัดตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๕ จนถึง พ.ศ.๒๕๓๕
                               ๖. ปัจจุบัน พระครูสิริพัฒนวิกรม (สมบูรณ์ ปภากโร ป.ธ.๕) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกก เมื่อ วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๓๕ จนถึงปัจจุบัน

'จำนวนพระภิกษุ สามเณร' ในปัจจุบัน(ปี พ.ศ.๒๕๖๓) วัดกกมีพระภิกษุจำพรรษา ๔๒ รูป สามเณร - รูป