ผู้ใช้:Sanchaitangaon/กระบะทราย
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/04/Jojoe.jpg/220px-Jojoe.jpg)
ชื่อเล่น : โจ้
รหัสนักศึกษา: 551531022040-7
ข้อมูลส่วนตัว
[แก้] ที่อยู่ปัจจุบัน
[แก้]บ้านเลขที่ 116/1 ซอย11 ถนน สุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา นครราชสีมา 30000
ปัจจุบันศึกษาที่
[แก้]กำลังศึกษาที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ ชั้นปีที่ 3
ตำแหน่งงานที่สนใจ
[แก้]IT Subport
บทความด้านไอที
[แก้]4 วิธีป้องกัน กรณีพบเว็บไซต์ธนาคารปลอม จ่อขโมยรหัสผ่านธนาคารออนไลน์
[แก้]ThaiCERT (ไทยเซิร์ต) หน่วยงานด้านรักษาความปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ตในไทย เตือนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ระวังภัยอาชญากรรมไซเบอร์ใกล้ตัว หลัง Thaicert ได้รับแจ้งว่ามีลูกค้าธนาคาร พบหน้าเว็บไซต์หลอกหลวง หวังขโมย username และ password ของผู้ใช้บริการธนาคารออนไลน์ โดยพบเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา
เว็บไซต์ปลอมดังกล่าวนี้มาจาก URL คือ www.kasikornbankgroup.ru ซึ่งส่วนท้ายของชื่อโดเมน หรือ TLD เป็นของประเทศรัสเซีย จากข้อมูลพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่ประเทศลัตเวีย ทั้งนี้ Thaicert ได้เร่งประสานงานไปยัง National CERT ของประเทศลัตเวีย รวมถึง ผู้ให้บริการ Hosting ของเว็บไซต์ดังกล่าวเพื่อให้ช่วยดำเนินการแก้ไข อีกทั้งรีบดำเนินการแจ้ง Google และ Netcraft เพื่อให้เว็บเบราว์เซอร์บล็อกหากผู้ใช้งานถูกหลอกลวงให้เข้าเว็บไซต์ดังกล่าว และแจ้งเตือนหน้าเว็บไซต์ปลอมนั้นแล้ว
วิธีการป้องกันเมื่อพบเว็บไซต์ธนาคารปลอม
1.อย่าเชื่อใจในลิงก์ที่ได้รับ ก่อนจะคลิกลิงก์ควรนำลูกศรเม้าส์ชี้ที่ลิงค์ ว่าไปเว็บไซต์ธนาคารจริงหร่อไม่ หากไม่แน่ใจควรพิมพ์URL ของธนาคารด้วยตัวเอง
2.หากผู้ใช้งานหลงกล กรอกไปยังเว็บปลอมไปดังกล่าวแล้ว ให้รีบทำการล็อกอิน เปลี่ยนรหัสผ่านทันที ทั้งเว็บไซต์ธนาคารจริง อีเมล , facebook รวมถึงตรวจสอบความผิดปกติในส่วนอื่น ๆ เช่น ส่วนการกู้คืนข้อมูล อาจมีการถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นข้อมูลของผู้ไม่หวังดี เป็นต้น
3.หากเป็นไปได้ผู้ดูแลระบบควรทำการบล็อกการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานในเครือข่ายกับหน้าเว็บไซต์ปลอมที่พบ
4.แจ้งเตือนและเผยแพร่แนวทางป้องกันนี้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง
หากผู้ใช้งานตกเป็นเหยื่อเว็บปลอมหรือได้รับผลกระทบจากภัยคุกคาม และต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือ สามารถแจ้งไทยเซิร์ตผ่านอีเมล report@thaicert.or.th หรือหมายเลขโทรศัพท์ (+66) 2123 1212
Fair Usage Policy ( FUP ) คืออะไร มีไว้ทำไม?
[แก้]กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง หลังจากที่ กสทช สั่งค่ายมือถือ ห้ามใช้คำว่า unlimitted ในแพ็คเกจอินเทอร์เน็ต 3G 4G บนมือถือ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้บริการเข้าใจผิดว่าจะได้ใช้เน็ตไม่อั้นทั้งปริมาณการใช้งานและความเร็วเน็ตแรงตลอดเหมือนอินเทอร์เน็ตตามบ้าน เพราะความจริงแล้ว แพ็คเกจอินเตอร์เน็ตบนมือถืออย่าง 3G 4G จะมี Fair Usage Policy (FUP) หรือการจำกัดความเร็วในการใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในการเชื่อมต่อเน็ต 3G 4G
ทำไมต้องมี Fair Usage Policy ( FUP )
เมื่อมีการให้บริการ 3G แล้ว ค่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ จึงได้กำหนด Fair Usage Policy เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการใช้งานดาต้าผ่านเครือข่าย 3G , 4G ให้สามารถใช้งานเน็ตบนมือถือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และใช้งานอย่างเหมาะสม หากใช้งานครบตามปริมาณการใช้งานที่กำหนดแล้ว จะได้รับ SMS เตือนว่าคุณใช้แพคเก็จความเร็วสูงสุดครบแล้ว ทั้งนี้ก็ยังสามารถใช้งาน 3G ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่จะถูกปรับลดความเร็วลง ทำให้เราไม่ได้ใช้ความเร็วสูงสุดตามที่เครือข่ายและตัวเครื่องรองรับ จนกว่าจะครบรอบบิลตามแพคเก็จ หรือซื้อแพคเก็จเน็ตเสริมเพิ่มเติม
Fair Usage Policy เป็นนโยบายสากลที่ผู้ให้บริการมือถือทุกรายใช้กันทั่วโลก เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการเน็ตบนมือถือ 3G 4G
ที่ค่ายมือถือทำเช่นนี้ เพื่อป้องกันการใช้เน็ตบนมือถือมาใช้งานแบบผิดวัตถุประสงค์เช่น โหลด Bittorrent โหลดหนัง หรือส่งคลิปวีดีโอขนาดใหญ่ ซึ่งมีการรับส่งข้อมูลในปริมาณมาก หากหลายท่านใช้งานในลักษณะนี้พร้อมๆกัน จะส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการ และผู้ใช้งานดาต้าบนมือถือทุกคนด้วย เพราะถูกแย่งแบนด์วิธทำให้คนอื่นได้รับความเร็วลดลง
แล้วจะทำอย่างไรให้ใช้เน็ตแรงๆแบบต่อเนื่องโดยไม่ติด FUP และไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
•เลือกแพคเก็จปริมาณการใช้งานที่เหมาะสมกับเราแบบกรณีต้องการใช้เน็ตบนมือถือจริงๆ เช่น ไว้แชต line , เช็คอีเมล , facebook , หรือเล่นเกมบนมือถือ
•หากต้องการใช้มือถือในการชมภาพยนตร์ฝรั่ง การ์ตูน ดูทีวี Streaming ตลอดจนโหลดแอพเกมขนาดใหญ่ หรืออัพเฟิร์มแวร์ละก็ ให้เชื่อมต่อผ่านทาง Wi-Fi ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือสมัครแพคเกจ 3G 4G ที่พ่วงมาด้วยแพคเกจใช้งาน Wi-Fi ไม่จำกัด ของเครือข่ายนั้นๆได้ เพื่อสลับมาใช้งาน Wi-Fi ด้านนอกบ้าน เช่นห้างสรรพสินค้า ป้ายรถเมล์ หรือตรง BTS และเลี่ยงการใช้งานเน็ตบนมือถือในปริมาณมาก
แต่เรื่องการคิดชื่อโปรใหม่แทนคำว่า Internet หรือ ใช้ได้ไม่จำกัด นั้น ต้องจับตาที่ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้ง 5 รายว่า จะใช้ชื่อโปรใหม่แทนชื่อเดิมนี้ว่าอะไร ?
Microsoft ใจป้ำ!! แจกพื้นที่ Onedrive ฟรีอีก 100 GB ทั่วโลก นาน 2 ปี
[แก้]
จากที่ก่อนหน้านี้ Microsoft แจกพื้นที่เก็บข้อมูลบน Cloud ของ Microsoft อย่าง OneDrive ซึ่งปกติให้พื้นที่ฟรี 15 Gb แต่ Microsoft ประกาศแจกแบบใจป้ำจัดหนักถึง 100 GB ให้ผู้ใช้ OneDrive ฟรี นาน 2 ปี เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ในตอนแรกแจกเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ล่าสุด Microsoft เอาใจตามคำเรียกร้องจากผู้ใช้ทั่วโลก ได้เพิ่ม 100 GB ทั่วโลกไปเลย เพียงเข้าไปลงทะเบียนบัญชี Bing Rewards
ง่ายๆเพียงแค่ คลิกที่นี่เพื่อรับพื้นที่ Onedrive 100 GB ฟรี แล้วทำการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft (เช่น Hotmail , outlook , msn , windowslive ) แค่นี้คุณก็จะได้พื้นที่ Onedrive เพิ่มถึง 100 GB ให้คุณใช้ฟรีนาน 2 ปี แต่รีบคลิกหน่อยเพราะคาดว่าข้อเสนอนี้ระยะเวลาจำกัด
ข้อมูลจาก WmPoweruser
LAN Technology
[แก้]แบบบัส ( BUS Topology )
[แก้]เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนสายสัญญาณหลักเส้นเดียว ที่เรียกว่า BUS ทีปลายทั้งสองด้านปิดด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Teminator ไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์เครื่องใดหยุดทำงาน ก็ไม่มีผลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย
ข้อดี ของการเชื่อแบบบัส คือ
- สามารถติดตั้งได้ง่าย เนื่องจากเป็นโครงสร้างเครือข่ายที่ไม่ซับซ้อน
- การเดินสายเพื่อต่อใช้งาน สามารถทำได้ง่าย
- ประหยัดค่าใช้จ่าย กล่าวคือ ใช้สายส่งข้อมูลน้อยกว่า เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับสายหลักได้ทันที
- ง่ายต่อการเพิ่มสถานีใหม่เข้าไปในระบบ โดยสถานีนี้สามารถใช้สายส่งข้อมูลที่มีอยู่แล้วได้
ข้อเสียของการเชื่อแบบบัส คือ
- ถ้ามีสายเส้นใดเส้นหนึ่งหลุดไปจากสถานีใดสถานีหนึ่ง ก็จะทำให้ระบบเครือข่ายนี้หยุดการทำงานลงทันที
- ถ้าระบบเกิดข้อผิดพลาดจะหาข้อผิดพกลาดได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่
แบบดาว ( Star topology )
[แก้]
•การเชื่อมต่อแบบ Star คือการนำเอาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆไปเชื่อมต่อกับ “อุปกรณ์รวมสัญญาณ” ที่เป็น “ศูนย์กลาง” (Central Node) ของเครือข่ายโดยผ่านสายสัญญาณชนิดที่เหมาะสม
•การเชื่อมต่อระหว่าง Central Node กับอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายจะเป็นแบบ Point-to-Point
•ถึงแม้ว่าโครงสร้างทางกายภายจะเป็นแบบ Star (Physical Star) แต่การทำงานจะเป็นแบบ Bus (Logical Bus)
•อุปกรณ์ที่เป็น Central Node จะทำหน้าที่เหมือนกับเป็น Frame Switch
HUB
Switching
ข้อดีของการเชื่อมแบบดาว
•มีความง่ายในการเดินสายสัญญาณ ถึงแม้จะใช้สายสัญญาณหลายเส้นก็ตาม มีความเหมาะกับกรณีที่อุปกรณ์วางอยู่อย่างกระจัดกระจาย
•สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดในระบบเครือข่ายได้ง่าย เพราะพิจารณาเฉพาะจุดที่ไม่สามารถใช้การได้ก็จะพบจุดบกพร่อง
•เสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่าแบบ Ring แต่แพงกว่า Bus ไม่มากนัก -> นิยม
ข้อเสียของการเชื่อมแบบดาว
•ต้องใช้สายสัญญาณจำนวนมาก เพราะแต่ละสถานีมีสายสัญญาณของตนเองเชื่อมต่อกับศูนย์กลางจึงเหมาะสมกับเครือข่ายระยะใกล้มาก กว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล
•การขยายระบบก็ยุ่งยากเพราะต้องเชื่อมต่อสายจากศูนย์กลางออกมา ถ้าศูนย์กลางเสียหายระบบจะใช้การไม่ได้
แบบวงแหวน ( Ring Topology )
[แก้]ลักษณะคล้ายกับ Bus เพียงแต่เป็นการนำเอาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อแบบ Point-to-Point ต่อกันไปเรื่อยๆจนกลายเป็นวง
ข้อดีของการเชื่อมแบบแหวน
•ใช้สายสัญญาณน้อยกว่าแบบดาว เหมาะกับการเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณใยแก้วนำแสง เพราะส่งข้อมูลทางเดียวกันด้วยความเร็วสูง
•ความทนทานต่อการเสียหายมีน้อย ถ้าหากเครือข่ายมีเพียง 1 Ring
ข้อเสียของการเชื่อมแบบแหวน
•อุปกรณ์มีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับแบบ Bus
•มีความยุ่งยากในการเดินสายสัญญาณ
แบบเมชหรือแบบตาข่าย (Mesh Topology)
[แก้]รูปแบบเครือข่ายแบบนี้ ปกติใช้ในระบบเครือข่ายบริเวณกว้าง (Wide Area Network) ลักษณะการสื่อสารจะมีการต่อสายหรือการเดินของข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือโหนดไปยังโหนดอื่น ๆ ทุก ๆ ตัว
ทำให้มีทางเดินข้อมูลหลายเส้นและปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่จะเกิดจากการล้มเหลวของระบบ แต่ระบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าระบบอื่น ๆ เพราะต้องใช้สายสื่อสารเป็นจำนวนมาก
ข้อดีของการเชื่อมแบบเมชหรือแบบตาข่าย
• ในกรณีสายเคเบิ้ลบางสายชำรุด เครือข่ายทั้งหมดยังสมารถใช้ได้ ทำให้ระบบมีเสถียรภาพสูง นิยมใช้กับเครือข่ายที่ต้องการเสถียรภาพสูง และเครือข่ายที่มีความสำคัญ
WAN Technology
[แก้]Circuit switching
[แก้]ความหมายของ Circuit switching
[แก้]
Circuit switching เทคนิคในการสื่อสารข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เมื่อมีการเชื่อมต่อกันแล้วจะติดต่อกันได้ตลอดเวลา ผู้อื่นจะแทรกเข้ามาไม่ได้เลย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะปลดวงจรออก ตัวอย่างง่าย ๆ
เช่นการติดต่อทางสายโทรศัพท์ เมื่อเริ่มพูดกันได้แล้ว คนอื่นจะต่อสายแทรกเข้ามาไม่ได้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะวางหูลง (ปลดวงจร)
ข้อเสียของการเชื่อมแบบเมชหรือแบบตาข่าย
• สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และสายเคเบิ้ลมากกว่าการต่อแบบอื่น ๆ
•ยากต่อการติดตั้ง เดินสาย เคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนและบำรุงรักษาระบบเครือข่าย
หลักการทำงาน Circuit switching
[แก้]
1) เมื่อสถานีA ต้องการส่งข้อมูลให้กับ สถานีB จะต้องมีการสร้างเส้นทางเสียก่อน โดยที่ฝั่งที่รับข้อมูลจะต้องตอบว่าพร้อมรับข่าวสาร (Establishment/ Connection)
2) เมื่อสร้างเส้นทางการส่งข้อมูลเรียบร้อย ตลอดเวลาของการสื่อสารจะใช้เส้นทางเดิมตลอดและไม่มีบุคคลอื่นมาใช้เส้นทาง
3) มีอัตราความเร็วในการส่งเท่ากันทั้งด้านรับและด้านส่ง
4) มีการทำ Error Control และ Flow Control ทุกๆ ชุมสาย
ข้อดี Circuit switching
[แก้]
- ปริมาณในการส่งข้อมูลได้ อัตราการส่งข้อมูล ความเร็วในการส่งข้อมูลจะคงที่ อัตราเดิม
- Delay ที่เกิดขึ้นจะเรียกว่า propagation delay คือเวลาที่ข้อมูลวิ่งอยู่ในสายสัญญาณ – เร็วเท่าแสง
- Delay ที่ node คือเวลาที่ข้อมูลวิ่งระหว่าง node อาจเป็น delay ที่เกิดเนื่องจากการประมวลผลอะไรบางอย่าง ถือว่าน้อยมากจนถือว่าไม่สำคัญ เพราะว่ามันแทบจะไม่เกิด
5) ในขณะทำการส่งข้อมูล ข้อมูลจะถูกส่งด้วยความเร็วคงที่ และไม่มีการหน่วงเวลา(Delay)
6) เมื่อส่งข้อมูลเสร็จจะยกเลิกเส้นทางที่ได้เชื่อมต่อขึ้นมาเพื่อให้เครื่องอื่นได้ใช้เส้นทางได้
ตัวอย่างระบบ Circuit switching
[แก้]
-โมเด็มและระบบโทรศัพท์ (Modem and Telephone System)\
- สายคู่เช่า (Leased Line)
- ISDN (Integrated Services Digital Network)
- DSL (Digital Subscriber line)
- เคเบิลโมเด็ม (Cable Modem)
ลักษณะการเชื่อมต่อ
[แก้]
เชื่อมต่อทางกายภาพของวงจรระหว่างจุดต่อจุด (point-to-point)
ข้อดี Circuit switching
[แก้]
- ปริมาณในการส่งข้อมูลได้ อัตราการส่งข้อมูล ความเร็วในการส่งข้อมูลจะคงที่ อัตราเดิม
- Delay ที่เกิดขึ้นจะเรียกว่า propagation delay คือเวลาที่ข้อมูลวิ่งอยู่ในสายสัญญาณ – เร็วเท่าแสง
- Delay ที่ node คือเวลาที่ข้อมูลวิ่งระหว่าง node อาจเป็น delay ที่เกิดเนื่องจากการประมวลผลอะไรบางอย่าง ถือว่าน้อยมากจนถือว่าไม่สำคัญ เพราะว่ามันแทบจะไม่เกิด
ข้อเสีย Circuit switching
[แก้]
-หากคอมพิวเตอร์หรือเทอร์มินัลติดต่อกับศูนย์ข้อมูล ในการเรียกค้นข้อมูลเป็นระยะจะทำให้มีช่วงเวลาที่สายสัญญาณ ไม่มีการใช้และผู้อื่นก็ใช้ไม่ได้ ธรรมชาติของการใช้งานไม่ได้ออกแบบ
มาให้ใช้งานพร้อมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น ระบบโทรศัพท์ 100 เลขหมาย จะสามารถใช้งานพร้อมๆกันได้ไม่ถึง 50%
- การเชื่อมโยงอุปกรณ์ระหว่างสถานีต้นทางกับปลายทางต้องตกลงและใช้มาตรฐานเดียวกัน
- การติดต่อสื่อสารข้อมูลนี้ผู้ใช้จะต้องมีระบบซอฟต์แวร์ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเอง เพราะชุมสายจะไม่มีระบบตรวจสอบข้อมูลในชุมสายทำหน้าที่เพียงการสวิตช์วงจรให้เท่านั้น
Circuit Switching นั้นออกแบบมาเพื่อส่งข้อมูลทางเสียง
- อัตราการส่งข้อมูลจะเป็นตัวจำกัดอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงเนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อส่งข้อมูลทางเสียงในอัตราที่มนุษย์สามารถรับรู้ ได้
- มีขีดจำกัดแน่นอนอยู่แล้วที่ระบบ Hardware
- ยากและลงทุนสูงในการ Upgrade backbone
Packet switching
[แก้]ความหมายของ Packet switching
[แก้]
เทคนิคในการแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม (Packet) แต่ละกลุ่มจะมีความยาวเท่ากัน (ปกติ 100บิต)ข้อมูลจะหาทิศทางเดินไปได้เอง โดยที่สายหนึ่ง ๆ จะสามารถใช้กันได้หลายคน เมื่อถึงที่ปลายทางข้อมูลก็จะกลับ ไปรวมกันเอง
หลักการทำงาน Packet switching
[แก้]
1) เมื่อ สถานี A ต้องการส่งข้อมูลให้กับสถานีB จะมีการแบ่งข้อมูลออกเป็น Packet ย่อยก่อนจะถูก ส่งออกไป
2) ส่งข้อมูลโดยใช้ชุมสาย PSE (Packet switching exchange) ควบคุมการรับส่ง
3) ทำ Error control หรือ Flow Control ที่ PSE
4) ด้านรับและด้านส่งมีอัตราความเร็วที่ไม่เท่ากันได้
5) ใช้เทคนิค Store - and - Forward ในการส่งข้อมูล ผ่าน PSE
ตัวอย่างระบบ Packet switching
[แก้]
เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ใช้ในการ ส่งข้อมูลภายในสำหรับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน ระบบที่เป็น Package switch เช่น Frame relay เป็นระบบโทรศัพท์แบบดิจิตอล และ ATM
เป็นระบบการส่งข้อมูลประเภท ภาพและเสียง (multimedia)
ลักษณะการเชื่อมต่อ Packet switching
[แก้]
ส่งแต่ละแพกเกตด้วยเส้นทางต่างๆที่เชื่อมโยงกันเป็นตาข่าย และทำการรวมแต่ละแพคเกตกลับคืนเมื่อถึงจุดหมายแล้ว
ข้อดี Packet switching
[แก้]
- Flexibility โครงข่ายดังกล่าวนี้ทำให้ใช้งานพร้อมกันหลาย ๆ ระบบได้ โดยงานประยุกต์แต่ละระบบไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แต่ใช้ผ่านชุมสายเดียวกัน
- Robustness มีความแข็งแกร่ง ถ้าเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเสียหายก็สามารถใช้เส้นทางอื่นได้ อุปกรณ์ต้นทางกับปลายทาง สามารถส่งด้วยความเร็วที่ต่างกันได้เพราะชุมสายจะเป็นผู้แปลงสัญญาณ ให้ความเร็วเข้ากันได้
- Responsiveness มีการรับประกันความถูกต้องของข้อมูลที่รับส่งทำให้ระบบมีความเชื่อถือสูง สามารถใช้ในระบบที่โต้ตอบด้วยความเร็วได้ ตัว IMP สามารถที่จะทำงานเพิ่มเติมบางอย่างได้
เช่น การตรวจสอบความ ผิดพลาดก่อนที่จะส่งต่อไป หรืออาจทำการเปลี่ยนรหัสก่อนก็ได้
ข้อเสีย Packet switching
[แก้]
-บางครั้งถ้ามีปริมาณPacket จำนวนมากเข้ามาพร้อมกันจะทำให้ IMPทำงานไม่ทัน อาจทำให้มีบางPacket สูญหายไปได้ - มี delay เกิดขึ้นในระหว่างที่ส่งข้อมูล
= ความยาวของ package / ขนาดของ overhead datarate ขนาดของ package มีขนาดไม่แน่นอน
-Package แต่ละ package อาจวิ่งไปคนละเส้นทางได้ แต่ละเส้นทางจะมี delay ไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหา package ที่ส่งมาที่หลังมาถึงก่อน ฝ่ายรับต้องมีวิธีจัดการกับ package ที่ยุ่งยากขึ้น
-ถ้ามี delay มากจะเกิดความแออัดในเครือข่าย
- มี overhead เกิดขึ้นในการส่งข้อมูล โดย overhead ที่เกิดขึ้นคือที่อยู่ของปลายทาง, sequence ซึ่งทำให้ส่งข้อมูลได้น้อย ทำให้ประสิทธิภาพในการส่งลดลง
OSI model + TCP/ IP mode
[แก้]_ OSI Model _ | _________ TCP/IP __________ |
---|
7 | Application | Application | FTP,Telnet,HTTP, SMTP,SNMP,DNS,etc | |
6 | Presentation | Application | FTP,Telnet,HTTP, SMTP,SNMP,DNS,etc | |
5 | Session | Application Host-to-Host |
TCP | UDP |
4 | Transport | Host-to-Host | TCP | UDP |
3 | Network | Internet | ICMP,IGMP Ip | |
2 | Data link | Network Access | Not Specified | |
1 | Physical | Network Access | Not Specified |
หน้าที่การทำงานของชั้นสื่อสาร
[แก้]ลำดับชั้น | ชื่อชั้นสื่อสาร | หน้าที่ของชั้นสื่อสาร |
---|---|---|
1. | Physical | เคลื่อนย้ายข้อมูลระดับบิตจากโหนดหนึ่งไปยังโหนดถัดไป |
2. | Data link | เคลื่อนย้ายเฟรมจากโหนดหนึ่งไปยังโหนดถัดไป |
3. | Network | ส่งมอบแพ็กเก็ตจากโฮสต์หนึ่งไปยังโฮสต์ปลายทาง |
4. | Transport | ส่งมอบข่างสารจากโปรเซสต้นทางไปยังโปรเซสปลายทาง |
5. | Session | ควบคุมการสื่อสารและการซิงโครไนซ์ |
6. | Presentation | แปลงข้อมูล เข้ารหัสข้อมูล และบีบอัดข้อมูล |
7. | Application | จัดการงานบริการให้แก่ผู้ใช้ |