ผู้ใช้:Potida/กระบะทราย6
แคนซัสซิตี้บาร์บีคิวหมายถึง รูปแบบเฉพาะของเนื้อสัตว์ที่ทำให้สุกโดยการรมควันอย่างช้าๆ มีวิวัฒนาการมาจากการใช้เตาหลุมของเฮนรี่ เพอรี่ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 ในแคนซัสซิตี้ มิสซูรี่ แคนซัสซิตี้บาร์บีคิวเป็นการใช้ไม้หลายชนิดมารมควันอย่างช้าๆ และทาเนื้อด้วยซอสเข้มข้นที่มีส่วนผสมหลักของซอสมะเขือเทศและโมลาส(ซอสปรุงรสชนิดหวานคล้ายๆซีอิ๊วดำหวาน) [1]
เขตเมืองแคนซัสซิตี้มีชื่อเสียงเรื่องบาร์บีคิว มีร้านบาร์บีคิวมากกว่า 100 ร้านในเมืองแคนซัสซิตี้ มิสซูรี่[1] ย่านนี้เป็นแหล่งของการแข่งขันการทำบาร์บีคิวใหญ่ๆหลายรายการ สองรายการที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ ลีเนคซ่า แคนซัส และที่อเมริกันรอแยล.
ลักษณะสำคัญของแคนซัสซิตี้บาร์บีคิว คือ ใช้เนื้อหลากหลาย เช่น หมู เนื้อวัว ไก่ ไก่งวง แกะ และบางครั้งก็ใช้ปลา – และยังใช้วิธีการทำที่หลากหลายมากเช่นกัน วิธีการดั้งเดิม คือ การรมควันให้สุกอย่างช้าๆ เป็นวิธีที่ใช้มากที่สุด แต่อาหารที่เตรียมโดยวิธีอื่น เช่น ไก่ย่างก็ยังสามารถพบได้ในร้านบาร์บีคิวในท้องถิ่น เนื้อทุกชนิตที่ใช้ในบาร์บีคิวของเมืองอื่น เช่น หมูฉีกในแคโรไลน่า จนถึงเนื้ออกของเท็กซัส ก็มีเสิร์ฟที่นี้ การนำเนื้อส่วนปลายไปย่างต่อ ทำให้เนื้อส่วนปลายอกของหมููและวัวกรอบนอกนุ่มในซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นของเมืองนี้
เช่นเดียวกับเซนหลุยส์ บาร์บีคิวซอสเป็นส่วนสำคัญของแคนซัสซิตี้บาร์บีคิว ซอสที่พบในแถบนี้จะมีส่วนผสมหลักคือซอสมะเขือเทศ จะมีรสหวาน เผ็ด และเปรี้ยวนำ ร้านในท้องถิ่นส่วนใหญ่จะมีซอสหลายอย่างให้เลือกแต่ซอสหลักๆจะมีรสเผ็ดและหวานนำ ซี่โครงที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นซี่โครงหมู แต่ก็ยังมีเนื้อวัวเป็นทางเลือกและยังมีเนื้อหลายส่วนให้เลือกด้วย เบินส์เอนด์เป็นชิ้นเนื้อที่มีรสชาติเฉือนมาจากส่วนปลายของเนื้อส่วนอกของวัวหรือหมูรมควัน ถือเป็นอาหารจานยอดนิยมในร้านบาร์บีคิวหลายร้านในพื้นที่แคนซัสซิตี้ แคนซัสซิตี้บาร์บีคิวก็มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารจานเคียงอีกหลายชนิด เช่น ถั่วอบแบบพิเศษ มันฝรั่งแท่งทอด โคล์สลอว์ และอาหารจานแอฟริกันอเมริกันอื่นๆ
ในปี คศ.2000 เครือร้านอาหารในแคนซัสซิตี้ที่ชื่อ แจ็คสแตคบาร์บีคิวของฟิโอเรลลาเริ่มธุรกิจจัดส่งบาร์บีคิวของตัวเองไปทั่วประเทศ ความพยายามของร้านของอาร์เธอร์ ไบรอันท์ที่จะจัดส่งแคนซัสซิตี้บาร์บีคิวออกไปนอกเขตเมืองแคนซัสซิตี้ยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จในเชิงการค้า
ประวัติความเป็นมา[แก้]
เฮนรี่ เพอรี่[แก้]
ประวัติความเป็นมาของแคนซัสซิตี้บาร์บีคิวสืบสาวได้ถึงตอนที่เฮนรี่ เพอรี่ได้เปิดร้านบนรถรางที่ถนน19th ตัดไฮแลนด์ในย่านที่เป็นตำนานแอฟริกันอเมริกันใกล้ถนน18th และไวน์.
เพอรี่เสิร์ฟซี่โครงบาร์บีคิวแบบย่างแบบสุกช้าบนกระดาษที่นำไปทำหนังสือพิมพ์ที่ราคา 25 เซนต์ เพอรี่มาจากเชอร์บี้เคาตี้ เทนเนสซีใกล้กับเมมฟิสและเริ่มขายบาร์บีคิวในปี คศ.1908 แคนซัสซิตี้และเมมฟิสบาร์บีคิวมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันมาก ถึงแม้ว่าแคนซัสซิตี้มักจะใช้ซอสมากว่า และใช้เนื้อหลากหลายกว่า ซอสของเพอรี่เองจะมีรสไปทางดิบๆและมีพริกไทมากกว่า
ร้านของเพอรี่กลายเป็นสถานที่หลักทางวัฒนธรรมในช่วงเฟื่องฟูของแคนซัสซิตี้แจ้สในช่วงรุ่งเรืองของทอม เพนเดอร์กัสในทศวรรษที่ 1920s และ 1930s
ร้านของอาร์เธอร์ ไบรอันท์[แก้]
ชาลี ไบรอันท์ลูกจ้างของเฮนรี่ เพอรี่ ได้ชักจูงให้น้องชายของเขาอาร์เธอร์ ไบรอันท์มาทำงานในธุรกิจนี้ ชาลีเข้าบริหารร้านของเพอรี่ต่อหลังจากที่เพอรี่เสียชีวิต ต่อมา อาร์เธอร์เข้ารับช่วงต่อจากพี่ชายในปี คศ.1946 และได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็นร้านของอาร์เธอร์ ไบรอันท์.
ร้านของอาร์เธอร์ ไบรอันท์ต่อมาย้ายไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 1727 ถนนบรูคลินซึ่งก็ยังอยู่แถวย่านเดิม กลายเป็นที่มาแวะเวียนประจำของนักเบสบอลและแฟนเบสบอลในช่วงทศวรรษที่ 1950s และ 1960s เพราะอยู่ใกล้กับสนามกีฬาของเมืองที่ๆแอทธาลิติคส์ หรือ A'sเล่นเกมส์เย้าในช่วงนั้น
ในเดือนเมษายนปี คศ.1972 ชาวพื้นเมืองแคนซัสซิตี้ชื่อเคลวิน ทริลลินได้เขียนบทความในนิตยสารเพลบอยอ้างว่า ร้านของไบรอันท์เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก
ถึงแม้ว่าจะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน ไบรอันท์ก็ไม่เปลี่ยนแนวการตกแต่งแบบธรรมดาของเขาที่ใช้แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ โต๊ะฟอร์ไมก้า และมีโถใส่ซอสขนาด 5 แกลลอนวางอยู่ที่หน้าต่าง ไม่เปลี่ยนแม้จะมีประธานาธิบดีแฮรี่ ทรูแมน, จิมมี คาร์เตอร์ และ โรนัลด์ เรแกนมาแวะที่ร้านก็ตาม
ไบรอันท์เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจวายขณะนอนหลับอยู่ที่เตียงที่ร้านอาหารในช่วงหลังวันคริสต์มาสปี คศ.1982 ร้านยังคงให้บริการอยู่ถึงปัจจุบัน ทั้งซอสและตัวร้านเองยังเป็นที่ชื่นชอบ
ตลอดผนังด้านในร้านจะมีรูปภาพประวัติศาสตร์ของนักการเมืองที่มีชื่อเสียง ดาราทั้งหญิงและชาย นักกีฬาชื่อดัง และทหารหาญที่น่ายกย่อง รวมทั้งของที่ระลึกถึงไบรอันท์เช่น เสื้อเชิร์ตหรือขวดซอส
เกทส์แอนด์ซันส์[แก้]
ในปี คศ.1946 อาร์เธอร์ พินการ์ด อดีตพ่อครัวของเพอรี่ได้เข้าร่วมกับจอร์จเกทส์เปิดร้านเกทส์แอนด์ซันส์ บาร์-บี-คิวตั้งอยู่ในย่านเดียวกันในตอนแรก
บาร์บีคิวซอสของเกทส์ไม่ใส่โมลาส ส่วนผสมที่บอกไว้ข้างขวดมี "มะเขือเทศ, น้ำส้มสายชู, เกลือ, น้ำตาล, เซเลอรี, กระเทียม, เครื่องเทศ, และพริกไท มีการเติม 1/10 ของ 1% สารกันบูดโพแทสเซียมซอร์เบต" มีให้เลือกหลายแบบ เช่น คลาสสิคต้นฉบับ, นุ่มนวล, หวานและนุ่ม, และเผ็ดสุดๆ
เกทส์ยังได้ขยายสาขาในแบบธรรมดามากขึ้น ทุกสาขามีการตกแต่งที่เป็นสัญลักษณ์ทางการค้าที่เหมือนกัน – อาคารที่มีหลังคาสีแดง ตราสินค้าเป็นที่จดจำ (ผู้ชายมีมาดใส่ทักซิโดและหมวกทรงสูง) และสร้างกิจวัตรให้กับพนักงานโดยการทักทายด้วยเสียงอันดังเมื่อลูกค้าเข้าร้านว่า "สวัสดีครับ/ค่ะ ผม/ดิฉันช่วยอะไรคุณได้บ้าง?"
เกทส์เปิดร้านไปทั่วย่านศูนย์กลางเมืองแคนซัสซิตี้ ปัจจุบันมีสาขาอยู่ 6 แห่ง ร้านเกทส์ บาร์-บี-คิว มี 4 แห่งในมิสซูรี่, 2 แห่งในแคนซัส เกทส์ยังขายบาร์บีคิวแซนด์วิชที่สนามกีฬาคอฟฟ์แมนในช่วงเกมส์เย้าแคนซัสซิตี้รอแยลและปัจจุบันขายอยู่ที่สนามกีฬาแอโรเฮดในช่วงเกมส์เย้าแคนซัสซิตี ชีฟส์
เดอะฟิออเรลลาแฟมิลี่[แก้]
ก่อนที่มาเน้นขายบาร์บีคิว รัส ฟิออเรลลา ซีเนียร์เคยเป็นพ่อค้าขายเนื้อให้กับบรรดาร้านขายของชำในแคนซัสซิตี้ มิสซูรี่ที่ครอบครัวตัวเองเป็นเจ้าของ ในปี คศ.1957 รัสขายบ้านของครอบครัวที่มี 23 ห้องในเมืองบรู้คไซด์และเปิดขายสโมคสแตคบาร์บีคิวที่ 8129 เซาท์ ยูเอส 71 ในแคนซัสซิตี้ มิสซูรี่ รัสย้ายครอบครัวรวมภรรยาและลูกทั้งเจ็ดคนไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ขนาด 6 ห้องบนร้านอาหารของเขา สโมคสแตคเริ่มโดยการเป็นร้านอาหารแบบดั้งเดิมมีรายการให้เลือก 5-6 อย่าง ลูกชายคนโตของรัส ฟิออเรลลาทำงานกับพ่อจนถึงปี คศ.1974 ขณะที่เค้ามีอายุ 32 ปี เค้าได้ตัดสินใจเปิดสาขาใหม่ของเขาเองที่ ถนน 135th ตัดกับถนนโฮมส์ในเซาท์แคนซัสซิตี้ แจ้ค ฟิออเรลลา ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อร้านของเขาในมาตินซีตี้ เป็น แจ้ค สแตคบาร์บีคิวโดยฟิออเรลลา แมรี่ น้องสาวของแจ้คได้เปิดร้านของตัวเองชื่อร้านสโมคสแตคบาร์บีคิว ร้านตั้งอยู่ที่ 8920 ถนนวอรนอลในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 รัสเซล ฟิออเรลลาจูเนียร์ได้เปิดร้านสโมคสแตคบาร์บีคิวที่ 8250 ถนนนอร์ทเชิร์ซ ทางตอนเหนือของแคนซัสซิตี้ ร้านสโมคสแตคบาร์บีคิวร้านแรกที่เซาท์ ยูเอส 71 ปิดตัวลงในปี คศ.2006.[2][3][4]
ในเดือนธันวาคม 2012 ร้านสุดท้ายของสโมคสแตคบาร์บีคิวที่ 8920 ถนนวอรนอลก็ได้ปิดตัวลง ลูกจ้างเดิมที่ร้านสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันชื่อ ริคกี้ แมคฟีรอนและบ้อบบี้ จอห์นสันได้เปิดร้านอีกครั้ง ชื่อ เดอะสแตค โดยได้ปรับปรุงเมนูใหม่ในเดือนมกราคม 2012 [5]
ร้านที่มีชื่อเสียงอื่นๆ[แก้]
แจ้คสแตคบาร์บีคิว โดยฟิออเรลลา[แก้]
แจ้คสแตคบาร์บีคิว โดยฟิออเรลลาเปิดครั้งแรกในปี คศ.1974 ในฐานะสาขาที่ 2 ของเครือร้านสโมคสแตคบาร์บีคิวของครอบครัวฟิออเรลลา ตั้งอยู่ที่ถนน 135th และโฮมส์ในย่านมาร์ตินซิตี้ โดยลูกชายคนโตของรัส ฟิออเรลลา ชื่อแจ้ค ฟิออเรลลาและดอลอเรสภรรยาของเขา
ในปี คศ.1979 แจ้ค ฟิออเรลลา ได้ขยายรูปแบบของเค้าโดยเปิดสาขาสอง ร้านใหม่มีชื่อว่า ร้านแฮทฟิวด์แอนด์แมคคอยตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอเวอร์แลนด์ปาร์ค แคนซัส หลังจากประสบปัญหาเงินเฟ้อ ต้นทุนการเงินที่สูง และเศรษฐกิจถดถอย ร้านแฮทฟิวด์แอนด์แมคคอยพบกับปัญหาตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน ทำให้แจ้คต้องปิดร้านใน 2 ปีต่อมาและกลับมาทุ่มเทดูแลร้านสโมคสแตคบาร์บีคิวที่มาร์ตินซิตี้ แจ้ค ภรรยาและลูกๆได้ตัดสินใจเพิ่มอาหารในเมนู โดยการเพิ่มอาหารที่ไม่ใช่บาร์บีคิว เช่น สเตคย่างด้วยไม้ฮิคกอรี่ ซี่โครงแกะ คราวน์ไพรม์บีฟช้อทริบ และอาหารทะเลย่างด้วยไม้ฮิคกอรี่ เสิร์ฟกับไวน์ราคาแพงและเครื่องดื่มอื่นๆจากบาร์เครื่องดื่ม เขายังเริ่มให้บริการที่สะดวกสบายกว่าบริการที่มีในร้านบาร์บีคิวทัวๆไป จนในที่สุด สโมคสแตคที่มาร์ตินซิตี้ได้กลายเป็นร้านที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ชื่นชอบมาที่สุดร้านหนึ่งในแคนซัสซิตี้ ในปี คศ.1996 แจ้ค ฟิออเรลลาได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งปีจากสมาคมเกรทเตอร์แคนซัสซิตี้เรสเตอรองส์[6]
แจ้ค ฟิออเรลลามีความพร้อมที่จะขยายสาขาอีกครั้งในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990s แต่ในครั้งนี้ เค้าไม่ได้ออกแบบร้านแนวใหม่ แผนการของเขาคือ การจำลองความสำเร็จของร้านสโมคสแตคบาร์บีคิวที่มาร์ตินซิตี้ สมาชิกคนอื่นในครอบครัวฟิออเรลลาไม่อนุญาตให้แจ้คใช้ชื่อ สโมคสแตคสำหรับร้านใหม่ของเขา ดังนั้น ทั้งร้านใหม่และร้านเก่าก็ได้เลิกใช้ชื่อ สโมคสแตคและเปลี่ยนใหม่เป็น แจ้คสแตคบาร์บีคิวโดยฟิออเรลลา ร้านใหม่เปิดที่ 9520 ถนนเมทแคลฟ์ในโอเวอร์แลนด์พาร์ค แคนซัส พวกเขายังรับงานจัดเลี้ยงเต็มรูปแบบในมาร์ตินซิตี้และสาขาที่ 3 ของเขาในอาคารประวัติศาสตร์เฟรตท์เฮาส์ในเขตศิลปะครอสโรดส์ เขาเริ่มให้บริการส่งบาร์บีคิวไปทั่วประเทศในปี คศ.2000 และเปิดสาขาที่ 4 ที่คานทรีคลับพลาซ่าในปี คศ.2006
แจ้คสแตคบาร์บีคิว โดยฟิออเรลลาได้ออกรายการในช่องเดอะฟู้ดเน็ตเวิร์คและเดอะฮิสตอรีชาแนลและได้รับการจัดอันดับในบาร์บีคิวชั้นนำของสหรัฐโดยองค์กรระดับชาติและนิตยสารหลายฉบับ ที่มีชื่อเสียงมากๆ คือ แซแกทเซอร์เวย์ได้ขนานนามร้านนี้ว่าเป็น "ร้านบาร์บีคิวอันดับ 1 ของประเทศ"[7]
ร้านโอกลาโฮมาโจ[แก้]
ร้านโอกลาโฮมาโจบาร์บีคิวมาจากการแข่งขันบาร์บีคิวและจากสมาคมบาร์บีคิวแคนซัสซิตี้ (KCBS) เจฟ สเตเนย์ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้ร่วมกับเพื่อนเข้าแข่งขันที่อเมริกันรอแยลและการแข่งขันที่เกรดเลกซาน่าบาร์บีคิว ทำให้เค้าเริ่มหัดทำบาร์บีคิวของตนเอง เตาตัวแรกของเค้าคือรุ่นโอกลาโฮมาโจขนาด 24 นิ้วสร้างในเดือนเมษายน ปี 1991
เมื่อถึงปี คศ.1993 เจฟ ภรรยาของเจฟ และหุ้นส่วนทางการค้า จอยและจิม "เทรสตัน" โฮเวลก็พร้อมที่จะแสดงตัวในการแข่งขันของ KCBS ทีมของเขาชื่อ สลอตเตอร์เฮาส์ไฟฟ์ ได้รับรางวัลใหญ่ทั้งหมด 8 รางวัลดังนี้ อเมริกันรอแยลบาร์บีคิวอันทรงเกียรติ สามรางวัลรีเสิฟแกรนด์แชมเปี้ยนชิพและ KCBS’s แกรนด์แชมเปี้ยน “ทีมแห่งปี” ในปี คศ.1993 หลายปีต่อมา ทีมสลอตเตอร์เฮาส์ไฟฟ์ยังชนะรางวัลอีกหลายสิบรางวัลและได้รับการยอมรับว่างเป็นหนึ่งในสุดยอดทีมแข่งขันบาร์บีคิวของประเทศ
เจฟและจอยเปิดร้านโอกลาโฮมาโจสถานีบริการน้ำมันที่แคนซัสซิตี้ แคนซัสในปี คศ.1996.[8] และเปิดสาขาอื่นในโอเลท์ แคนซัสและลีวูด แคนซัส.
เชฟที่มีชื่อเสียงแอนโทนี่ บอเดนจัดอันดับร้านโอกลาโฮมาโจต้นตำรับที่แคนซัสซิตี้ แคนซัสว่าเป็นหนึ่งใน"13 ที่ๆคุณต้องทานก่อนตาย".[9] นิตยสารเมนสเฮสท์ขนานนามร้านนี้ว่าเป็นร้านอาหารที่แมนที่สุดในอเมริกา [10] ร้านโอกลาโฮมาโจได้ออกฉายในซี่ซัน 3 ของแมน วี ฟู้ดในเดือนสิงหาคม 2010 [11] และได้รับการขนานนามจาก[แซแกท]]ว่าเป็น "บาร์บีคิวที่ดีที่สุดในแคนซัสซิตี้" [12]
แอลซี บาร์-บี-คิว[แก้]
แอลซี ริชาร์ดสัน เกิดที่มิสซิสซิปปี้ ได้เกษียณก่อนกำหนดจากการเป็นพ่อครัวในบริษัทฟาร์มแสนด์อินดัสตรี เพื่อเปิดร้านแอลซี บาร์-บี-คิวใกล้ทรูแมนสปอร์ตคอมเพล็กซ์ในปี คศ.1986 แอลซีมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเกี่ยวกับซี่โครงและปลายเนื้ออก และใช้ซอสที่มีรสชาติคล้ายร้านเกตส์แต่ใช้น้ำตาลน้อยกว่าและน้ำส้มเยอะกว่าอย่างชัดเจน แอลซีทาซอสทั้งก่อนและตลอดช่วงเวลาที่บาร์บีคิว ด้วยเทคนิคนี้ทำให้เกิดชั้นบางๆ หนึบๆ และมีรสชาติเข้มข้นเคลือบอยู่ด้านนอกของเนื้อและผนึกรอบซี่โครงอย่างดีทำให้เนื้ออ่อนนุ่มและชุ่มฉ่ำอย่างเห็นได้ชัด สำหรับอาหารจานเคียงของแอลซีโดยเฉพาะถั่วอบและมันฝรั่งทอดหั่นสดก็เด่นไม่แพ้เมนูเนื้อ แอลซี บาร์-บี-คิวก็ได้ออกในรายการของช่องทราเวลชาร์แนลที่ชื่อรายการ " แอนโทนี่ บอเดน:โน เรเซอร์เวชั่น"
บีบีลอว์นไซด์บาร์บีคิว[แก้]
ในเดือนตุลาคม 1990 หลังลาออกจากงานขาย ลินด์เซย์ แชนนอนและโจภรรยาของเขาได้เปิดร้านบีบีลอว์นไซด์บาร์บีคิวในเซาท์แคนซัสซิตี้ โดยมุ่งเน้นบาร์บีคิวแบบแคนซัสซิตี้และเมนูอาหารจากหลุยเซียนา ในเมนูมีรายการที่เป็นที่ชื่นชอบในแคนซัสซิตี้ เช่น ซี่โครง ไส้กรอก และหมูฉีก ที่ถูกรมควันอย่างช้าๆ ในเตาหลุมอายุ 60 ปีโดยไม้แอปเปิ้ล ส่วนอาหารจากหลุยเซียน่ามีกัมโบ, จัมบาลายา, และกูลาช หลังจากเปิดร้านในเดือนตุลาคม 1990 ไม่นาน ลินด์เซย์ แชนนอน เจ้าของร้านตัดสินใจเพิ่มสิ่งที่เธอหลงไหล คือ ดนตรีบลูส์ มีวงดนตรีบลูส์ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเล่นที่ร้านบีบีหกคืนต่อสัปดาห์ บีบีเป็นที่รู้จักกันในนามของ"ที่ๆบาร์บีคิวมาเจอบลูส์"ในแคนซัสซิตี้ บีบีได้ถูกแนะนำในหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์คไทม์ส [13] และ ยูเอสเอทูเดย์[14] อะเบาท์ดอทคอมจัดอันดับบีบีใน 5 อันดับสุดยอดร้านบาร์บีคิวในแคนซัสซิตี้[15]
เคซี มาสเตอร์พีซ[แก้]
ในปี คศ.1977 ริช เดวิสได้ใช้ชื่อเสียงของบาร์บีคิวแคนซัสซิตี้เป็นทุนในการสร้างเคซี มาสเตอร์พีซที่มาจาก"เคซี โซลสไตล์บาร์บีคิวซอส"ของเค้าเอง เคซี มาสเตอร์พีซมีความหวานและเข้มข้นกว่าซอสดั้งเดิมทั่วไปของแคนซัสซิตี้หลายๆชนิด สูตรของเคซี มาสเตอร์พีซจะใส่โมลาสเพิ่มขึ้นมากเพื่อให้ถึงรสเข้มข้นและความหวาน [ต้องการอ้างอิง]
เคซี มาสเตอร์พีซถูกขายให้ส่วนคิงส์ฟอร์ดของบริษัทโคลรอกซ์ในปี คศ.1986 และขณะนี้ ถือว่าเป็นยี่ห้อของบาร์บีคิวซอสระดับพิเศษอันดับหนึ่งของอเมริกา เมื่อเดวิสขายลิขสิทธิ์ของซอสของเค้าให้โคลรอกซ์ เค้าได้ประกาศจะสร้างแฟรนไชส์ร้านบาร์บีคิว ร้านเฟรนไชส์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในหลายปีต่อมา แต่ในที่สุดความนิยมก็ลดลงและถึงปัจจุบัน ร้านแฟรนไชส์ก็ได้ปิดตัวลงไปหมดแล้ว
เคิร์ทส์ เฟมัส มีทส์[แก้]
เคิร์ทส์ เฟมัส มีทส์เป็นตลาดเนื้อที่ตั้งขึ้นในปี คศ.1947 โดยเคอร์ติส โจนส์และได้ขายให้กับดอนน่า พิทแมนในปี คศ.1989 เคิร์ทส์มีความเชี่ยวชาญในการจัดเตรียมบาร์บีคิวทาผงหมักแบบแคนซัสซิตี้และจัดส่งไปยังลูกค้าทั่วอเมริกา เคิร์ทส์มีประวัติว่าเป็นบาร์บีคิวรับรางวัลมาเป็นเวลายาวนาน โดยชนะรางวัล 8 ครั้งที่การแข่งขันบาร์บีคิวอเมริกัน รอแยลซึ่งเป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร้านเคิร์สอยู่บนถนนทรูแมนฝั่งตะวันออกในย่านเมย์วู้ดของเมืองอินดีเพนเดนท์ มิสซูรี่ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในแคนซัสซิตี้ เคิร์ทส์ถือเป็นคู่แข่งรายใหญ่ในการแข่งขันบาร์บีคิวระดับท้องถิ่นทั้งหลาย [16] เคิร์ทส์ เฟมัส มีทส์ยังได้การรู้จักในเรื่องพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ดอนนา พิมแมนรับเข้าทำงาน พวกเธอเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่าเป็น คนตัดเนื้อสตรี[17]
สมาคมบาร์บีคิวแคนซัสซิตี้[แก้]
สมาคมบาร์บีคิวแคนซัสซิตี้ (KCBS)ตั้งขึ้นในปี คศ.1986 มีสมาชิกมากว่า 13,000 รายทั่วโลก สมาคมนี้เป็นองค์กรสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบาร์บีคิวและการย่างที่ใหญ่ที่สุดในโลก KCBS เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรทุ่มเทตัวเองเพื่อ"ส่งเสริมบาร์บีคิวในฐานะอาหารของอเมริกาและสนุกในขณะที่ทำเช่นนั้น"[2]
KCBS ได้มีส่วนร่วมในเกือบ 300 รายการแข่งขันบาร์บีคิวทั่วสหรัฐในแต่ละปี และได้เสนอให้ความช่วยเหลือแก่เทศบาลและองค์กรการกุศลที่จัดงานเหล่านี้ KCBS ได้ตั้งกฏและระเบียยต่างๆ สำหรับใช้ในทุกการแข่งขันอย่างเป็นทางการของ KCBS
KCBS ได้เสนอให้มีโปรแกรมการศึกษา การให้บริการการปรึกษา และการนำเสนอแก่องค์กรเทศบาลเพื่อที่ช่วยขยายเกียรติคุณของบาร์บีคิว ภารกิจของสมาคมบาร์บีคิวแคนซัสซิตี้คือ เพื่อเฉลิมฉลอง สอน รักษา และส่งเสริมบาร์บีคิวในแง่เทคนิคการทำอาหาร การกีฬา และรูปแบบศิลปะ
See also[แก้]
- Bacon Explosion
- Burnt ends
- List of smoked foods
- Regional variations of barbecue
- St. Louis-style barbecue
References[แก้]
- ↑ "Kansas City Barbecue Restaurant List". Official Kansas City Restaurant Listing. สืบค้นเมื่อ 2013-10-04.
- ↑ http://www.pitch.com/kansascity/smokestack-bar-b-q/Location?oid=2205851
- ↑ http://www.redorbit.com/news/science/395097/original_smokestack_restaurant_closes_doors/
- ↑ http://www.saveur.com/article/Travels/Ribs-and-Ritual-Kansas-City
- ↑ Toyoshiba, Jill. "New BBQ joint opens on Wornall Road in former Smokestack spot". Kansas City Star. February 17, 2012.
- ↑ "From the Embers".
- ↑ "Fiorella's Jack Stack Barbecue at the Freight House". The Kansas City Convention & Visitors Association. สืบค้นเมื่อ 2008-01-17.
- ↑ Olmsted, Larry (2013-09-10). "Share". USA Today.
- ↑ International Dining | Men's Health
- ↑ Polis, Carey (2012-11-21). "The Manliest Restaurant In America". Huffington Post.
- ↑ http://www.pitch.com/FastPitch/archives/2010/08/12/man-v-food-takes-on-oklahoma-joes-strouds-and-one-gross-sando-at-papa-bobs-bar-b-que
- ↑ Oklahoma Joe’s is recognized as One of the Best | Three Locations Serve Some of the Best Barbecue in the World | Johnson County Lifestyle
- ↑ Leighton, Kathleen (2003-05-30). "JOURNEYS; 36 Hours – Kansas City, Mo". The New York Times.
- ↑ "10 great places to chow down on barbecue". USA Today. 2006-05-08.
- ↑ "Top 5 Barbeque Restaurants in Kansas City". About.com.
- ↑ "Heroes can be closer than you think". 2009. สืบค้นเมื่อ 2011.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ""Behind the Grind" Story". KMBC Channel 9 News. 2006-07-21. สืบค้นเมื่อ 04/10/2011.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)