ผู้ใช้:Nipapron.ph

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
  1. เนื้อหารายการลำดับเลข
  2. เนื้อหารายการลำดับเลข
นิภาพร พันธ์โพธิ์
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดนิภาพร พันธ์โพธิ์
เกิด14 สิงหาคม พ.ศ. 2536 (30 ปี)
ที่เกิดประเทศไทย นครราชสีมา ประเทศไทย

ประวัติส่วนตัว[แก้]

ชื่อ นิภาพร พันธ์โพธิ์ ชื่อเล่น อ้อม วันเกิด 14 สิงหาคม 2536 อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา

  • บ้านหนองใหญ่พัฒนา ตำบลครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา

การศึกษา

  • ชั้นระดับอนุบาล-ประถมศึกษา-มัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนบ้านหนองใหญ่
  • ชั้นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สาย วิทย์-คณิต จากโรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม
  • ปัจจุบัน กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ คณะบริหารธุรกิจ
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา

ตำแหน่งงานด้านไอทีที่สนใจ

  • ผู้ดูแลและบริหารระบบ (System administrator) ทำหน้าที่บริหารและจัดการระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กร โดยดูแลการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบปฏิบัติการ การติดตั้งฮาร์ดแวร์ การติดตั้งและการปรับปรุงซอฟต์แวร์ สร้าง ออกแบบและบำรุงรักษาบัญชีผู้ใช้ สำหรับองค์กรขนาดเล็กเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบอาจต้องดูแลและบริหารระบบเครือข่ายด้วย

บทความด้านไอที[แก้]


ความรู้ เทคนิค ของ Shortkey(คีย์ลัด)[แก้]

หัวข้อ :การลบหน้าต่าง Web Site ที่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

  เนื้อหา : ในระหว่างที่คุณค้นหาข้อมูลในเว็บต่าง ๆ อาจมีหน้าต่างเปิดขึ้นมาอัตโนมัติ เราเรียกว่า popup windows ครับ เว็บมีการใช้วิธีนี้เพื่อแสดงข้อความที่ต้อง การโฆษณา เราสามารถสั่งปิดได้ด้วยคำสั่ง Ctrl+W หรือกด Alt+F4 ครับ 
หัวข้อ :การพิมพ์ URL ที่ Address Bar โดยที่ไม่ต้องใช้เมาส์ชี้                                                                              
เนื้อหา : เวลาที่คุณมีปัญหาการใช้เมาส์ หรือคุณต้องการเลื่อนเมาส์ไปตำแหน่งของAddress Bar เพื่อพิมพ์ชื่อที่อยู่ของเว็บ เราสามารถกดปุ่มที่แป้นพิพม์ Alt+D เพื่อแทนการใช้เมาส์ได้ครับ อย่าลืมลองดูและใช้บ่อยๆ นะครับ                                                                                                                                              
 หัวข้อ : การลบอีเมล์โดยการใช้ Shortkey                                                                                                                  
 เนื้อหา : โดยปกติแล้วเวลาที่เราใช้อีเมล์ เราต้องการที่จะลบอีเมล์นั้นคุณต้องทำการเลือกอีเมล์นั้น แล้วต้องกด Delete ใช่ไหมครับแต่ ถ้ามีวิธีที่ง่ายกว่านั้นอีกครับ วิธีนั้นก็คือ ให้คุณกด Ctrl + D อีเมล์นั้นจะหายไปในทันทีครับ                             
 หัวข้อ : การใช้คีย์ลัดใน Media Player                                                                                                                     
เนื้อหา : หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่า ใน Media Player นั้น มีคีย์ลัดด้วย เรามาดูกันว่าคีย์ลัดเหล่านี้มีอะไรบ้างครับ
  1. Ctrl+P : เล่นไฟล์ หรือหยุดชั่วขณะ (pause)
  2. Ctrl+S : หยุดเล่น
  3. Ctrl+B : เล่นไฟล์ก่อนหน้า
  4. Ctrl+F : เล่นไฟล์ต่อไป
  5. Ctrl+Shift+B : Rewind (เฉพาะ DVD)
  6. Ctrl+Shift+F : Fast-forword (เฉพาะ DVD)
  7. Ctrl+E : เปิดฝาสไดรฟ์ซีดี(อาจใช้ไม่ได้กับเครื่องที่มีไดรฟ์ซีดีรอม หรือดีวีดีหลายตัว)
  8. Ctrl+U : เปิดไฟล์ หรือ URL
  9. Alt+Enter : แสดงวีดีโอแบบเต็มจอ (full-screen)
  10. Ctrl+1 : สลับจากโหมด Skin ไปเป็นโหมด Full
  11. Ctrl+2 : สลับจากโหมด Full เป็นโหมด Skin
  12. Ctrl+M : แสดงแถบเมนูระหว่างที่กำลังเล่นแบบ Full Screen
  13. Atl+S : เป็นการค้นหาใน Media Library
  14. F8 : ใช้สำหรับปิดเสียง(Mute)
  15. F9 : ใช้ลด Volume
  16. F10 : ใช้เพิ่ม Volume

iPhone 4.0 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการมีอะไรใหม่[แก้]

    และแล้วก็เป็นไปตามกำหนดตรงเป๊ะ เมื่อ Apple ได้เปิดเผยตัวจริงของระบบ iPhone 4.0 ตัวใหม่ออกสู่สายตาสาธารณชน ซึ่งในหลายๆส่วนก็ตรงกับการคาดเดาของบรรดานักวิเคราะห์ในต่างประเทศเกี่ยว กับระบบใหม่นี้ ซึ่งก่อนที่จะไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับระบบ iPhone 4.0 นี้ ต้องขอแจ้งข่าวร้ายให้ทราบกันก่อน ว่าใครที่ใช้ iPhone รุ่น 3G ธรรมดาๆ คงไม่สามารถใช้งานเรื่อง Multitasking ได้เพราะ hardware ไม่รองรับตามที่ทาง Apple ได้บอกไว้ ส่วนใครเป็น 3Gs ก็เตรียมเฮ ได้เลย สำหรับระบบ iPhone 4.0 ตัวใหม่นี้จากการทดสอบนั้นเค้าแจ้งว่ามันเสถียรเอามากๆ สำหรับความเปลี่ยนแปลงของ iPhone 4.0 ก็มีดังนี้ครับ
  • Multitasking เป็นไปตามคาดหมาย เพราะเป็นสิ่งที่หลายๆคนรอคอยกับการทำงานหลายๆโปรรแกรมในเวลาเดียวกันแล้ว สลับเปลี่ยนไปมาได้โดยไม่กระทบกับการทำงานส่วนอื่นๆที่กำลังเปิดอยู่ โดยการทำงานนั้นเพียงแต่เรา Double click ที่ปุ่ม Home ก็จะเจอ list ของโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่แล้วเราก็สามารถเลือกสลับการทำงานได้ทันที ซึ่งเป็นการออกแบบการทำงานที่ค่อนข้างฉลาดมาก
  • มีะรบบ Spell check (เหมือนใน iPad)
  • รองรับ Bluetooth keyboard เป็นไปตามคาดหมายที่เดาไว้ว่ามันจะต้องสามารถรองรับการทำงานของ Bluetooth Keyboard ได้ซึ่งเราคงจะได้เห็นอุปกรณืเสริมออกมากันเพียบในเวลาอีกไม่ช้านี้
  • User-defined wallpaper เลือกปรับ Wallpaper ในเครื่องได้
  • ระบบ focus ของกล้องแบบใหม่ โดยเราสามารถเลือกแตะที่ภาพใเพื่อ Focus ได้ในขระที่เรากำลังบันทึก VDO และมี 5x digital zoom เพิ่มขึ้นสำหรับโปรแกรมกล้องในเครื่อง
  • Playlist creation
  • App folders for sorting apps! เป็นการสร้าง Foder และการจัดเรียงที่ฉลาดมากๆ โดยเราสามารถเลือกไอคอนนำไปซ้อนกันเพื่อเก็บเหมือนอยู่ในกล่องเดียวกัน และสามารถเลือกดูในส่วนของ Dock ได้
  • Enhanced Mail! เราสามารถรวมมุมมองการดู inbox แบบใหม่เป็นอันเดียวกันและเลือกสลับไปมาสำหรับในส่วนของ inbox ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งลองดูได้จากใน VDO นอกจากนั้นยังสามารถ syncExchange มากกว่าหนึ่ง account ได้ มี threaded messaging และ in-app attachment viewing
  • iBooks,เหมือนกับ iPad อีกแล้วแต่เล็กกว่าเท่านั้นเอง ดดยเราสามารถเลือก Sync หนังสือแบบไร้สายได้แบบเดียวกับบ iPad เป๊ะ
  • ใน ส่วนลูกเล่นด้าน Enterprise จะมีเรื่องของ remote device management และ wireless app distribution เพิ่มเข้ามา
  • Game Center ในส่วนนี้จะเหมือนกับ Xbox Live แต่จะเป็นแบบ iPhone gamesเท่านั้น โดยจะมีลูกเล่นเช่น achievements, leaderboards, และ and match making โดยผู้ใช้จะต้องมี Log in เข้าไป แต่ตอนนี้แม้จะเข้าไปก็ยังโล่งๆอยู่เพราะไม่มีใครเลย

จากการออกแบบ iPhone 4.0 ในครั้งนี้ผมว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดูดีขึ้นมาก แม้ว่าหลายๆคนจะบอกว่าไอ้สิ่งที่ iPhone 4.0 มันมีนั้น มันมีตั้งนานแล้วในเครื่องแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ถูกครับ แต่หากลองมองดีดีๆจะพบว่า สิ่งที่ Apple ทำนั้นไม่ใช่แค่เพียงเอาแค่ให้มันทำได้ ใช้ได้เท่านั้น แต่เค้าทำแล้วต้องออกมาดูดีด้วย เช่นการสร้าง folder และการ sorting ข้อมูลต่างๆ ใช้รูปแบบที่ทำออกมาได้ดูดีทีเดียว หรือแม้แต่ Multitasking ที่ใช้ประโยชน์จากปุ่มที่มีเพียงอันเดียวบนตัวเครื่องก็สามารถ ออกคำสั่งเพื่อดูการทำงานในแบบ Multitasking ได้อย่างง่ายดาย การออกแบบที่ดีและการวางฟังค์ชั่นที่ดีมันเป็นสิ่งที่ทำให้หลายๆคนอยากใช้ iPhone มากขึ้น สำหรับผมเองยอมรับครับว่าตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ที่ตื่นเต้นไม่ใช่เรื่องลุกเล่นใหม่ๆ แต่ตื่นเต้นกับการออกแบบวางฟังค์ชั่นรูปแบบการใช้งานมากกว่า แตะโน่นเปลี่ยนนี่ วางระบบได้ดูดีใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ออกแบบทุกส่วนได้ดูฉลาดดีครับ

ADSL(Asymmetric Digital Subscriber Line)[แก้]

ADSL คืออะไร ADSL ย่อมาจาก Asymmetric Digital Subscriber Line คือเทคโนโลยี การสื่อสารข้อมูล ความเร็วสูง บนข่ายสายทองแดง หรือคู่สายโทรศัพท์ ซึ่งสามารถแยกสัญญาณ ข้อมูล และ เสียง ออกจากกัน ทำให้สามารถ โทรศัพท์และ ใช้อินเตอร์เน็ตได้พร้อมกัน โดยมีลักษณะ สำคัญคือ มี อัตราการรับข้อมูล (Downstream) สูงสุดที่ 8 Mbps. และ อัตราการส่งข้อมูล (Upstream) สูงสุดที่ 1 Mbps. โดยระดับความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลจะขึ้นอยู่กับ ระยะทาง และคุณภาพ ของคู่สายนั้นๆ และต้องใช้เป็น Modem ADSL ด้วย

คุณสมบัติเครื่อง
  1. Support ANSI T1.413 ISSUE 2, ITU G.992.1(G.DMT), ITU G.992.2(G.LITE)
  2. Web-based configuration and monitoring.
  3. Support up to 8 PVCs.
  4. Routing function.
  5. Support NAT, DHCP.
  6. Maximum downstream transmission rates of 8 Mbps
  7. Maximum upstream transmission rates of 1Mbps.
  8. 1 Port Ethernet + 1 Port USB
ความต้องการของระบบ
  • หน่วยประมวลผล CPU Pentium® MMX 233 MHz หรือ Compatible ขึ้นไป
  • หน่วยความจำ Ram 64 Mb หรือมากกว่า
  • Hard Disk 1 Gb หรือมากกว่า
  • CD Rom 8 X หรือมากกว่า
  • LAN Card ( NIC : Network Interface Card ) หรือ USB Port
  • Windows® 98/2000/NT/Me/XP

อุปกรณ์ต่อภายใน Modem ADSL Modem ADSL (1 Port Ethernet + 1 Port USB) กล่อง Spliter สาย LAN (RJ-45 Cable) สายโทรศัพท์ (RJ-11 Cable) สาย USB AC 220 Volts, DC 11 Volts

LAN Technology[แก้]

โครงสร้างของเครือข่ายหรือภาษาทางเทคนิคเรียกว่า “Topology” คือลักษณะการเชื่อต่อทางกายภาพระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในระบบเครือข่าย ซึ่งหากจะแบ่งประเภทของโครงสร้างเครือข่ายกันจริง ๆ ตามหลักวิชาการที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยก่อน ๆ นั้น ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 แบบคือ

  1. แบบบัส ( BUS Topology )
ไฟล์:=bus.jpg

เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนสายสัญญาณหลักเส้นเดียว ที่เรียกว่า BUS ทีปลายทั้งสองด้านปิดด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Teminator ไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์เครื่องใดหยุดทำงาน ก็ไม่มีผลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย

  1. แบบดาว ( Star topology )
ไฟล์:=Star.jpg

เป็นการเชื่อมต่อสถานีหรือจุดต่าง ๆ ออกจากคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางหรือคอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่เรียกว่า File Server แต่ละสถานีจะมีสายสัญญาณเชื่อมต่อกับศูนย์กลาง ไม่มีการใช้สายสัญญาณร่วมกัน เมื่อสถานีใดเกิดความเสียหายจะไม่มีผลกระทบกับสถานีอื่น ๆ ปัจจุบันนิยมใช้อุปกรณ์ HUB เป็นตัวเชื่อมต่อจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายหรือคอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง

  1. แบบวงแหวน ( Ring Topology )
ไฟล์:=Lan4.gif

เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นรูปวงแหวนหรือแบบวนรอบ โดยสถานีแรกเชื่อมต่อกับสถาน สุดท้าย การรับส่งข้อมูลในเครือข่ายจะต้องผ่านทุกสถานี โดยมีตัวนำสารวิ่งไปบนสายสัญญาณของแต่ละสถานี ต้องคอยตรวจสอบข้อมูลที่ส่งมา ถ้าไม่ใช่ของตนเองต้องส่งผ่านไปยังสถานีอื่นต่อไป

  1. โครงสร้างแบบเมช (Mesh Topology)
ไฟล์:=Meshhh.jpg

MESH เป็นรูปแบบที่ถือว่า สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบได้ดีที่สุด เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการเดินสายของแต่เครื่อง ไปเชื่อมการติดต่อกับทุกเครื่องในระบบเครือข่าย คือเครื่องทุกเครื่องในระบบเครือข่ายนี้ ต้องมีสายไปเชื่อมกับทุก ๆ เครื่อง ระบบนี้ยากต่อการเดินสายและมีราคาแพง จึงมีค่อยมีผู้นิยมมากนัก

WAN Technology[แก้]

Circuit switching เทคนิคในการสื่อสารข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เมื่อมีการเชื่อมต่อกันแล้วจะติดต่อกันได้ตลอดเวลา ผู้อื่นจะแทรกเข้ามาไม่ได้เลย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะปลดวงจรออก ตัวอย่างง่าย ๆ เช่นการติดต่อทางสายโทรศัพท์ เมื่อเริ่มพูดกันได้แล้ว คนอื่นจะต่อสายแทรกเข้ามาไม่ได้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะวางหูลง (ปลดวงจร) Packet switching เทคนิคในการแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม (Packet) แต่ละกลุ่มจะมีความยาวเท่ากัน (ปกติ 100บิต)ข้อมูลจะหาทิศทางเดินไปได้เอง โดยที่สายหนึ่ง ๆ จะสามารถใช้กันได้หลายคน เมื่อถึงที่ปลายทางข้อมูลก็จะกลับ ไปรวมกันเอง หลักการทำงาน Circuit switching

ไฟล์:=Ci.jpg
  • เมื่อสถานีA ต้องการส่งข้อมูลให้กับ สถานีB จะต้องมีการสร้างเส้นทางเสียก่อน

โดยที่ฝั่งที่รับข้อมูลจะต้องตอบว่าพร้อมรับข่าวสาร (Establishment/ Connection)

  • เมื่อสร้างเส้นทางการส่งข้อมูลเรียบร้อย ตลอดเวลาของการสื่อสารจะใช้เส้นทางเดิมตลอด

และไม่มีบุคคลอื่นมาใช้เส้นทาง

  1. มีอัตราความเร็วในการส่งเท่ากันทั้งด้านรับและด้านส่ง
  2. มีการทำ Error Control และ Flow Control ทุกๆ ชุมสาย
  3. ในขณะทำการส่งข้อมูล ข้อมูลจะถูกส่งด้วยความเร็วคงที่ และไม่มีการหน่วงเวลา(Delay)
  4. เมื่อส่งข้อมูลเสร็จจะยกเลิกเส้นทางที่ได้เชื่อมต่อขึ้นมาเพื่อให้เครื่องอื่นได้ใช้เส้นทางได้

Packet switching

ไฟล์:=Packetdvn.JPG
  1. เมื่อ สถานี A ต้องการส่งข้อมูลให้กับสถานีB จะมีการแบ่งข้อมูลออกเป็น Packet ย่อยก่อนจะถูก ส่งออกไป
  2. ส่งข้อมูลโดยใช้ชุมสาย PSE (Packet switching exchange) ควบคุมการรับส่ง
  3. ทำ Error control หรือ Flow Control ที่ PSE
  4. ด้านรับและด้านส่งมีอัตราความเร็วที่ไม่เท่ากันได้
  5. ใช้เทคนิค Store - and - Forward ในการส่งข้อมูล ผ่าน PSE

ลักษณะการเชื่อมต่อ Circuit switching เชื่อมต่อทางกายภาพของวงจรระหว่างจุดต่อจุด (point-to-point) Packet switching ส่งแต่ละแพกเกตด้วยเส้นทางต่างๆที่เชื่อมโยงกันเป็นตาข่าย และทำการรวมแต่ละแพคเกตกลับคืนเมื่อถึงจุดหมายแล้ว

OSI model + TCP/IP model[แก้]

TCP/IP model OSI model
Application Layer Application Layer
- Presentation Layer
- Session Layer
Transport Layer Transport Layer
Internet Layer Network Layer
Network Access Layer Data Link Layer
- Physical Layer