ผู้ใช้:Mr.nana/Tense
Simple
[แก้]Present
[แก้]Subject + Verb 1 (s, es)
2) ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงเสมอ (universal truth)
3) ใช้กับความสามารถ (ability)
4) ใช้แทน Future
5) คำกริยาบางคน เราจะไม่ใช้รูป present continuous tense แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะกำลังเกิดขึ้น หรือกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันก็ตาม เช่น verb to be --- I am late now.
Past
[แก้]1. ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้วในอดีต ซึ่งจะมีคำที่บอกเวลาในอดีตกำกับไว้อย่างชัดเจน ดังนี้ คือ
yesterday (เมื่อวานนี้) , last night (week/month/ year/..etc.)(...ที่แล้ว) , at that time (ในตอนนั้น), formerly (เมื่อก่อน) , in the past (ในอดีต) , just now (เมื่อสักครู่นี้) , ago (ที่แล้ว), once (ครั้งหนึ่ง), in the old days (ในสมัยก่อน) , the day before yesterday (เมื่อวานซืน) , the previous day (วันก่อน), in those days (ในสมัยนั้น) , the other day (วันก่อน) , a few minutes ago ( 2-3 นาทีที่ผ่านมา), in 1990 , etc...
2. ใช้กับการกระทำอันเป็นนิสัยหรือเคยปฏิบัติมาในอดีต แต่ปัจจุบันไม่เกิดขึ้นแล้ว
3. ใช้กับคำว่า used to ซึ่งแสดงถึงการกระทำอันเป็นนิสัย หรือเคยปฏิบัติมาแล้วในอดีต และในปัจจุบัน การกระทำอันนั้นมิได้เกิดขึ้นอีก
4. ใช้กับการกระทำในอดีต แสดงลำดับของความต่อเนื่องของเหตุการณ์
5. ใช้กับ clause หลังสำนวน I would rather...... (ฉันอยากจะ...) , It's time ...... (ถึงเวลาแล้ว),
It's about time ........(ถึงเวลาแล้ว)
Future
[แก้]1. ใช้เมื่อจะมีการกระทำอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในอนาคต shall ใช้กับบุรุษที่ 1 (I , We) ส่วน will ใช้กับบุรุษที่ 2, 3
(You , he , they , etc..) และคำนามทั่วไป (Jane , Tom , John and Mary, etc..) แต่ในปัจจุบัน เราใช้ will ได้กับทุกบุรุษสรรพนาม
2. ประโยคแสดงอนาคตที่มีกริยา 2 ตัว ให้ใช้ future simple กับกริยาเพียวตัวเดียวตัวหนึ่ง ใช้
present simple หรือ present perfect กริยาที่ใช้รูป future simple คือ คำกริยาซึ่งอยู่หน้าคำเชื่อม คำเชื่อมที่พบมาก
3. การกระทำที่มีการตัดสินใจที่จะทำหลังการถามเสร็จสิ้น โดยไม่ได้มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า
Continuous
[แก้]Present
[แก้]1. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนั้น (It describes something HAPENING NOW.) โดยมากจะมีคำบอก
เวลา (Adverbs of Time) อยู่ด้วย ได้แก่ now , at this moment , at the moment , today , at present, still
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะยาว และไม่จำเป็นต้องทำในขณะที่พูด ปกติจะมีเวลากำกับไว้ด้วย เช่น this week ,
this year , etc..
3. ใช้กับเหตุการณ์ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน มักเป็นกริยาที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว
และจะมีเวลากำกับไว้
4. ถ้า present continuous เชื่อมด้วย and เราจะตัดกริยาช่วยตัวหลังออก
5. กริยา Listen , look, watch , smell จงใจใช้แบบ continuous ได้
Past
[แก้]1. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตในเวลาที่บ่งไว้ชัดเจน
2. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่เป็นเวลานานในเวลาเดียวกันในอดี ซึ่งจะใช้ past continuous
กับทั้งสองเหตุการณ์นั้น
3. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นและกำลังดำเนินอยู่ และมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง
ซึ่งเป็นเหตุการณ์สั้นๆ เข้ามาแทรก (The first action was happening when the second , shorter action happened.) เหตุการณ์ที่เกิดก่อนและกำลังดำเนินอยู่ ใช้ past continuous เหตุการณ์สั้นๆ ที่เข้ามาแทรก ใช้ past simple
4. ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำซากในอดีต ในเวลาที่บ่งไว้ชัดเจน
หมายเหตุ --- รูปประโยคที่ใช้ past continuous ในข้อ 4 นี้ มีความหมายเหมือนกับรูปประโยคที่ใช้ past simple
และเรานิยมใช้กับ past simple มากกว่า
Future
[แก้]1. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นและจะกำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลาที่บ่งไว้ชัดเจนในอนาคต เช่น
- We'll be driving to the country at half past nine tomorrow. (เราจะกำลังขับรถไปชนบทตอน 9.30 วันพรุ่งนี้) - He'll be living in Australia this time next year. - They'll be waiting at the airport when you arrive. - Your parents will be thinking of you while you are taking the exam.
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้ตัดสินใจแน่นอนว่าจะทำเช่นนั้นในอนาคต เช่น
- He'll be having extra lessons twice a week next term. - You'll be wearing warm clothes every day when you live in England.
3. ใช้เมื่อต้องการถามหรือขอร้อง (polite questions or requests)
- Will you be staying here longer? - Will you be coming to see me soon? - Will you be paying me a visit this week?
Perfect
[แก้]Present
[แก้]Present Perfect Tense ใช้กับ Adverbs of time ต่อไปนี้ since (ตั้งแต่) , for (เป็นเวลา) , just (เพิ่งจะ), already (เรียบร้อยแล้ว) , yet (ยัง) , recently (เมื่อเร็วๆ นี้ ช่วงนี้) , lately (เมื่อเร็วๆ นี้ ช่วงนี้) , never (ไม่เคย) , ever (เคย) , so far (จากบัดนั้นจนบัดนี้) , up to now (จากบัดนั้นจนบัดนี้) , up to the present time (จนถึงปัจจุบัน) ,many times (หลายครั้ง) , several times (หลายครั้ง) , over and over (ครั้งแล้วครั้งเล่า) , at last (ในที่สุด)
1. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และยังดำเนินหรือมีผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มักมีคำว่า since และ for อยู่ด้วย since (ตั้งแต่) ใช้กับจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นั้นๆ ในอดีต (a point of time in the past)
เช่น since then (ตั้งแต่นั้น) , since yesterday (ตั้งแต่เมื่อวาน) , since six o'clock (ตั้งแต่ 6 โมง) since last month (ตั้งแต่เดือนที่แล้ว) , since Christmas , since World War II , since the beginning of the year , since I was born , since I was young. (หลัง since จะตามด้วย คำ หรือวลี ที่บอกอดีต หรือ จะตามด้วย ประโยคที่มีกริยาเป็นอดีต main clause) - We have lived in this house since our father died. - Since he has changed his job , he has been much happier. - That child has grown very much since I last seen him. - I have known him since 1990. - I have never seen him since last year. - My father has smoked since he was young.
for (เป็นเวลา) ใช้กับจำนวนเวลานับตั้งแต่เหตุการณ์จนถึงขณะที่พูด (a period of time) เช่น for twenty minutes (เป็นเวลา 20 นาที) , for four hours (เป็นเวลา 4 ชั่วโมง) , for years (เป็นปีๆ) , for ages (เป็นเวลานาน) , for the last month (เป็นเวลาตลอดเดือนที่แล้ว), for a long time (เป็นเวลานาน) , for the last two years (เป็นเวลาตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา) - Billy hasn't written to me for three days. - I haven't seen John for many weks. - They have lived in this district for a long time. - Mary hasn't eaten any meat for over a year.
(หมายเหตุ - แต่ถ้าข้อความใน main clause เกี่ยวกับระยะเวลาให้ใช้ present simple และ clause หลัง since ให้ใช้ past simple เช่น - It is (seems) a long time since our last holiday. - It is eight years since I left university. - It seems a long time since he left me. - It is two weeks since I wrote to my boyfriend. - How long is it since you moved into your new house?
2. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งกระทำเสร็จสิ้นใหม่ๆ จะมีคำว่า just , recently (=lately ) = (not long ago) และ
lately ใช้กับประโยคคำถามและปฏิเสธ - Have you finished your assignment? - Yes, I have just finished it. - The results have just been announced. - He has recently got married. - Have you been there lately?
3. ใช้กับคำว่า yet และ already
yet (ยัง) ใช้กับ Question , Negative Answer และ Negative Statement already (เรียบร้อยแล้ว) ใช้กับ Affirmative Statement และ Affirmative Answer - We have not yet read that book. (Neg. St.) - Has he come back yet ? (Question) - No, he has not come back yet. (Neg. Ans.) - Yes, he has already come back. - Yes, he has come back already. **** already เมื่อเป็นการแสดงความประหลาดใจของผู้พูดจะใช้ในประโยคคำถาม - Have you finished your report already?
4. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตและยังไม่จบในขณะที่พูด จะมีคำว่า ever , never
ever ใช้กับ Question never ใช้กับ Negative Statement และ Negative Answer - Have you ever been to America? (Question) - No, I have never been there. (Neg. Ans.) - Yes, I have been there . - I have never palyed ice-skating. (Neg, St.)
5. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ไม่ได้บ่งเวลาที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน จะมีคำว่า up to the present time ,
until now , so far , so far this month , at last, - Up to the present time we have had no news from John. - I have received no answer from him so far. - He has finished his report at last.
6. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำซากหลาย ๆ ครั้ง จะมีคำว่า many times, several times , over and over
- I have been to Hua-Hib many times. - She has seen "Jurassic Park" several times. - We have studied Tenses over and over.
7. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตที่สิ้นสุดลงแล้ว แต่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคต
- Janet has bought a car so that she will have transportation to work. - He has studied all day so that he can go to the dance tonight.
8. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งยังไม่สิ้นสุด จะมีคำว่า this month , this year
- Have you had a holiday this year? - You have done a lot of work this morning. - I have read two books this week.
9. ใช้ในบทสนทนา จดหมาย รายงาน หนังสือพิมพ์
Conversation --- I have lost my keys. Have you seen them? Yes, I have seen them. Yes, I saw them yesterday. (ถ้ามีเวลาบอก ใช้ past simple) Letters - -- Dear James, I'm sorry that I haven't written to you for such a long time but I have been very busy working for an examination.
Past
[แก้]โครงสร้าง S + had + V3
1. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้วในอดีตเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อน อีกเหตุการณ์หนึ่ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ใช้ Past Perfect เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลัง ใช้ Past Simple และมักจะเชื่อมด้วยคำว่า when , before , after , until , as soon as , เช่น - He had written to her four times when he got her reply. (ใช้ past perfect เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเขียนถึงเธอ 4 ครั้ง ก่อนที่เขาได้รับคำตอบจากเธอ)
2. ใช้กับคำว่า by the time
By the time + Past simple , Past Perfect - By the time the sun set , we had left school. - By the time the children went to bed , they had already finished their homework.
3. ใช้หลังคำว่า that ในประโยค Indirect Speech ซึ่งเปลี่ยนมาจากประโยค Direct Speech เช่น
- He told me that they had left about an hour before. - They said that they had done the report.
4. ใช้กับ no sooner ................than... (ทันทีที่..........ก็....)
Hardly ....................when ....(ทันทีที่..........ก็....) Scarcely ............when .......(ทันทีที่..........ก็....)
Future
[แก้]S + will/shall + have + V3
หลักการใช้
ใช้เพื่อแสดงการกระทำหรือเหตุการณ์ซึ่งจะได้สิ้นสุดลง ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต โดยมีเวลา บอกไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อถึงเวลานั้นแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะสำเร็จเรียบร้อย แม้ว่าในขณะที่พูด เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นแล้วหรือยังไม่เกิดก็ตาม มักใช้กับคำว่า "by" เช่น by tomorrow , by 5 o'clock , by next week , by 2005 , by the end of this month (year) , by then , by the time - By the end of this year your new maid will have broken all your glasses. (เมื่อถึงสิ้นปีนี้ คนใช้คนใหม่ของเธอจะทำแก้วแตกทั้งหมด =All the glass will break before the end of this year) - The meeting will have finished by six o'clcok. (การประชุมจะเสร็จสิ้นแล้วเมื่อถึงเวลา 6 นาฬิกา = It may have started already or it may not have started yet. But it will finish before six.) - You'll have done your homework when your parents arrive. (เธอจะทำการบ้านเสร็จแล้วเมื่อพ่อแม่กลับมาถึงบ้าน = The homework will be finished before their arrival.) - He'll have saved much by the time he has retired. (เขาจะเก็บเงินได้มากแล้วเมื่อถึงเวลาที่เขาเกษียณจากงาน)
หมายเหตุ -- ข้อความใน time clause นั้นจะต้องใช้ present simple หรือ present perfect จะใช้ future simple ไม่ได้ เช่น - When we reach America , we shall have sailed around the world. - She'll have written five books by the time she has finished this one.
Perfect Continuous
[แก้]Present
[แก้]S + has /have + been + V+ing
1. ใช้กับเหตุหารณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และยังคงดำเนินต่อไป ใช้กับคำว่า since และ for ส่วนมากมักจะใช้กับ verb ที่มีความหมายเป็นการกระทำที่นาน (long action) เช่น learn , lie , stay , sit , stand , study , sleep, rest , read , work , wait , play , etc. ต่างกับ present perfect ก็ตรงที่ใช้เน้นการกระทำที่ต่อเนื่องกัน และอาจจะดำเนินต่อไปในอนาคต
- We have been living here since 1987. (= We came here in the past and we are still living here now.) - She's been waiting for a long time. (= She's still waiting now.) - I've been studying English for eight years. ( = She's still studying English now.) - James has been painting that door since three o'clock and he hasn't finished it yet. (หมายเหตุ - เหตุการณ์ ทั้งหลายเหล่านี้ยังไม่เสร็จสิ้นลง)
2. ใช้กับเหตุการณ์ซึ่งได้เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังคงทิ้งร่องรอยให้เห็นได้ในขณะที่พูด เช่น
- The workmen have been digging up the raod and now the traffic cannot pass. - What have you been eating? Your lips and chin are purple. - We have been driving along muddy roads and now the car is dirty. - He has been drinking and can't walk straight . - He has been studying all night and has fallen aslep in class.
Past
[แก้]S + had + been + Ving
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสองเหตุการณ์ในอดีต เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่เป็นเวลาต่อเนื่องกัน
ก่อนที่จะมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับ Past Perfect นั่นเอง แต่ต่างกับ Past Perfect ตรงที่ เน้นถึงอาการที่ได้ดำเนินต่อเนื่องกันไปเท่านั้น เช่น - We had been discussing the matter for two and a half hours when he arrived. (แสดงให้เห็นถึงการอภิปรายที่เริ่มต้นก่อนที่เขาจะมาถึง และบางที่จะดำเนินต่อไปอีก) - When he came , she had been waiting for half an hour. - She had been living in Phrae for ten years before she moved to Lampang.
หมายเหตุ -- กริยาบางตัวเท่านั้นที่ใช้รูป Perfect Continuous ได้ เช่น wait , work , live , lie , sleep,go, play , talk , sit , etc....ซึ่งเป็นกริยาที่แสดงอาการได้นานๆ (long action)
2. ใช้แสดงการกระทำที่เป็นอดีต แต่ปรากฏผลให้เห็นในเวลาต่อมา เช่น
- Mary was dark because she had been sunbathing. - I was tired because I had been driving all day.
Future
[แก้]S + will /shall + have + been + Ving
Tense นี้มีวิธีใช้เหมือนกับ Future Perfect ต่างกันตรงที่ว่า เราใช้ Tense นี้ก็เพื่อเน้นว่าการกระทำได้ดำเนิน
ต่อเนื่องกันไปเมื่อถึงเวลานั้นการกระทำนั้นก็ยังคงดำเนินอยู่และจะดำเนินต่อไปอีก เช่น
- By 2005 we'll have been living in Lampang for ten years.
(เมื่อถึงปี 2005 เราจะอาศัยอยู่ในลำปางครบ 10 ปี = We came to live in Lampang in 1995. We shall probably continue living in Lampang after 2005.)
- When we finish M.6, we 'll have been studying English for twelve years.
(เมื่อเราจบชั้น ม.6 เราจะเรียนภาษาอังกฤษครบ 12 ปี = We studied English in the past and after we finish M.6 we probably continue studying English.)
- It will have been raining for one hour if it doesn't stop by four o'clock.
(ฝนจะตกได้ครบ 1 ชั่วโมง ถ้ามันยังไม่หยุดตกภายใน 4 โมงนี้ = It started raining at three o'clock and it probably continue raining after that.)