ผู้ใช้:Mcromance
หน้าตา
หม่อมบัวเงิน ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา
คุณตาเชียงพันธ์ พรหมปะละ เป็นชาวหลวงพระบางประเทศลาว ประกอบกิจการรับจ้างลากไม้ให้กับ บริษัท บอร์เนียว โดยใช้ช้าง ต่อมา บริษทบอร์เนียว ได้ย้ายมาทำกิจการไม้สักทางภาคเหนือของประเทศไทย คุณตาเชียงพันธ์จึงได้ย้ายขบวนช้างมารับทำกิจการกับบริษัท อยู่แถมอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และได้พบแต่งงานกับคุณยายคำอิ่น ซึ่งเป็นคนบ้านทุ่งม่าน อำเภอบ้านโอ้ง จังหวัดลำพูน และมีบุตรธิดากับยายคำอ่นด้วยกัน 4 คน คือ
แม่ดี พรหมปะละ แต่งงานกับนายกุย ต๊ะพรหม แม่ดา พรหมปะละ แต่งงานกับนายค้อ หม่อมบัวเงิน ถวายตัวแด่หม่อมเจ้ากิติเดชขจร ศุขสวัสดิ นายทน พรหมปะละ แต่งงานกับนางพัด
หม่อมบัวเงิน ภายหลังถวายตัว หม่อเจ้ากิติเดชขจร ศุขสวัสดิ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง สรรพากรจังหวัดลำพูน ต่อมาได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งทางราชการอีกหลายแห่ง ซึ่งหม่อมบัวเงิน ต้องย้ายที่อยู่ติดตามเสด็จไปแถบหัวเมืองต่าง ๆ ด้วย หม่อมเจ้ากิติเดชขจร ศุขสวัสดิทรงเล่าให้ลูก ๆ ฟังว่า " เมื่อก่อนแม่เอ็งชื่อ บัวคำ แต่นายอย่า(หม่อมสุ่น) แม่ของพ่อ เป็นชายาคนหนึ่งของเสด็จปู่ ( พลโทพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงอดิศรอุดมเดช ) ได้เปลี่ยนชื่อให้เป็นบัวเงินจะได้ฟังดูดีหน่อย " มารู้ทีหลังว่าจะได้ไม่เหมือนคนลาวทั่ว ๆ ไปในสมัยนั้น ที่มีแต่คำว่า "คำ " ตามท้าย
หลายต่อหลายปีที่หม่อมบัวเงิน ได้ติดตามหม่อมเจ้ากิติเดชขจร ศุขสวัสดิย้ายไปปฏิบัติราชการตามหัวเมืองต่าง ๆ ช่วงนั้นมีลูกด้วยกัน 5 คน คือ
1. หม่อมราชวงศ์มานิตย์ ศุขสวัสดิ อดีตสรรพากรจังหวัดอุดรธานี 2. หม่อมราชวงค์หญิงรัชนารี วิชยาการ 3. หม่อมราชวงศ์ภิญโญสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงกเรียนกาญจนาภิเษก(วิทยาลัยในวัง) 4. หม่อมราชวงศ์นุกุลกิจ ศุขสวัสดิ (ถึงแก่กรรม) 5. หม่อมราชวงศ์หญิงวิจิตรา พูนทวีธรรม นักวิชาการประกันสังคม 7(2543)
หม่อมเจ้ากิติเดชขจร ศุขสวัสดิ รับสั่งบ่อยครั้งเสมอว่า " ไอ้เงินมันเลี้ยงลูกดี อบรมลูกดี เรียนสูง ๆ เป็นข้าราชการเหมือนเรา แต่เสียอย่างเดียวลูกมันจองหอง " หม่อมราชวงค์หญิงรัชนารี วิชยาการ อยากให้แม่มีความสุขย้ายออกมาอยู่กับลูกหลานที่บ้าน จะได้ดูแลแม่อย่างเต็มที่ แม่จะพูดเสมอว่า "ไม่ได้แม่จะอยู่กับท่านพ่อ ดูแลปรนนิบัติท่านพ่อ เดี๋ยวเขาจะว่าได้ว่า ยามมีความสุขมีบุญวาสนาก็อยู่ด้วยกัน ยามหมดบุญวาสนาจะทอดทิ้งหนีไป อญุ่กับลูก ๆ แม่ทำไม่ได้ " แม่คอยดูแลปรนนิบัติท่านพ่อและลูก ๆ สิ่งที่จดจำได้แม่นคือ แม่จะนั่งเฝ้าดูท่านพ่อ และลูก ๆ ในโต๊ะเสวย คอยแกะปลาทูไม่ให้มีก้าง จัดผัก ม้วนผักให้พอคำถวายท่านพ่อ ยามก้างปลาติดฟัน แม่ก็จะคอยเอาแหนบคีบออกให้ และเมื่อทุกคนอิ่มแล้ว แม่ถึงจะกินข้าว ทำเช่นนี้ เป็นปนะจำสม่ำเสมอ เป็นที่รู้กันในหมู่พี่น้อง ที่คนรักและให้ความเคารพแม่มาก แม่เป็นที่พึ่งของทุกคนในบ้าน แม่ไม่ค่อยพูดมาก ไม่ค่อยบ่น จะช่วยเหลือทุกคนที่มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าพี่ ๆ น้อง ๆ ต่างแม่ แม่จะให้ความรักกรุณาปราณีเหมือนกับพวกเรา
หม่อบังเงินมรณะวันที่ 29 มกราคม 2543 ด้วยโรคชรา ในอายุ 85 ปี และได้รับพิธีพระราชเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2543 ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ได้มีหลาน และเหลนได้บวชเณรเพื่อเพิ่มบุญาบารมีแก่หม่อมบัวเงิน 3 คนคือ 1.มล.ต่อสวัสดิ์ ศุขสวดิ 2.ด.ช.อนุสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา 3.ด.ช.ธิติพงษ์ เฟื่องฟุ้ง และได้มีแขกผู้มีเกรียติเป็นจำนวนมากในงานนี้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้นำอัฐิของหม่อมเงิน ไปลอยอังคาร พร้อมกับหม่อมเจ้ากิติเดชขจร ณ ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อ้างอิง[แก้]
หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ)หม่อบังเงิน ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2543