ผู้ใช้:Lamunetwork/กระบะทราย
วนัฏษญา วิเศษกุล Langgalamu[แก้]
ชีวประวัติทั่วไป[แก้]
นางสาววนัฎษญา วิเศษกุล ชื่อเล่นว่า “อิงค์” ชื่อเมื่อแรกเข้าวงการเพลงว่า"เติ้งลี่อิง" (Dengli ing) ชื่อภาษาอังกฤษ Vanatsaya Viseskul VV ชื่่อภาษาจีน 朗嘎拉姆 (อ่านว่า หลางกาลาหมู่) เกิดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542 เป็นนักร้องสาวชาวไทย ที่กำลังสร้างปรากฎการณ์อันน่าทึ่งให้กับวงการเพลงจีนในประเทศไทย เมื่อเธอได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขัน เดอะวอยซ์ประเทศจีน ฤดูกาล4 中國好聲音#4 เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม 2558 มีแฟนเพลงจีนจากนานาชาติทั่วโลกได้ติดตามผลงานของเธอมาอย่างต่อเนื่อง เธอมีหน้าตา ลักษณะท่าทางที่หลายคนบอกว่า ละม้ายคล้าย ซุปเปอร์สตาร์หญิงแห่งเอเซียชาวไต้หวันนามว่า “เติ้งลี่จวิน”มาก อีกทั้งเธอสามารถร้องเพลงของ “เติ้งลี่จวิน”ได้ดีมาก เหมือนมาก จนได้รับฉายานามว่า 小邓丽君"เสี่ยวเตื่งลี่จวิน" (เติ้งลี่จวินน้อย)
ความสามารถพิเศษ[แก้]
น้องอิงค์มีความสนใจในการร้องเพลงมาแต่เยาว์วัย เริ่มหัดร้องเพลงตั้งแต่อายุเริ่มเข้าสู่3ขวบ แน่นอนว่าถิ่นเกิดของน้องอิงค์อยู่ในชนบท กลิ่นไอของบ้านไร่ชายเขา แวดล้อมล้อมด้วยธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนต่างจังหวัดย่อมได้ยินเสียงเพลงลูกทุ่งอยู่เป็นปกติวิสัย น้องอิงค์จึงได้ฝึกร้องเพลงแนวลูกทุ่งเป็นหลัก เช่น เพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นต้น และเริ่มหัดร้องเพลงจีน(เพลงของเติ้งลี่จวิน)ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เพราะพ่อกับแม่ซื้อแผ่นซีดีเพลงมาให้ฟังเมื่อคราวเดินทางไปเที่ยวที่ฮ่องกงโดยสามารถร้องเพลงทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกตินักสำหรับครอบครัวไทยแท้ที่ไม่ได้พูดภาษาจีนและทั้งยังห่างไกลชุมชนชาวจีน
'ชีวิตช่วงปฐมวัย'[แก้]
จากที่ในวัยเยาว์ น้องอิงค์เป็นเด็กขี้อ้อนและโยเย มักจะร้องลั่นบ้าน พอเข้าสู่วัยเรียนก็เริ่มเป็นเด็กที่นิ่งมากขึ้น ไม่เล่นซุกซน หากปล่อยทิ้งไว้ตรงไหนก็มักจะอยู่ตรงนั้น โดยจะเล่นอะไรของตนไปแบบเงียบๆ และมักชอบร้องเพลงหลังกลับจากโรงเรียน แม้ขณะเรียนอยู่ร.ร.อนุบาล หากทางร.ร.จัดกิจกรรมร้องเพลงเมื่อไรก็จะกุลีกุจอเข้าร่วมทันที ทั้งร้องทั้งเต้น เป็นอะไรที่ชอบมาก สรุปก็คือ.. เป็นเด็กหญิงที่กล้าและชอบแสดงออก โดยธรรมชาติน้องอิงค์เป็นเด็กที่มีพื้นฐานจิตใจดีตั้งแต่เล็กๆ เมื่อใดก็ตามเห็นเพื่อนๆทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน ก็มักจะเข้าเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเสมอ วิธีแก้ปัญหาเพื่อนทะเลาะกันของน้องอิงค์ก็คือ การร้องเพลงให้เพื่อนฟัง โดยให้เพื่อนสัญญาก่อนว่าจะเลิกทะเลาะกัน จึงจะร้องเพลงเพราะๆให้ฟัง บางครั้งก็กลับบ้านมาบ่นกับคุณแม่ว่า "วันนี้กลับมาเจ็บคอหมดเลย" คุณแม่น้องอิงค์ให้สงสัยเป็นยิ่งนักว่าลูกไปทำอะไรมา กำลังจะไม่สบายหรือเปล่า? แต่ก็ได้คำเฉลยจากน้องอิงค์ว่า.."เพื่อนทะเลาะกัน จึงต้องร้องเพลงให้เพื่อนฟัง จนเจ็บคอไปหมด" นี่คือสิ่งน่าทึ่งและชวนประหลาดใจต่อผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องและรับทราบเป็นอันมาก ว่าเด็กตัวเล็กๆเท่านี้ กลับคิดและใช้วิธีแก้ปัญหาที่ผู้ใหญ่ต่างก็ไม่เคยคิดไปถึง นี่เป็นเรื่องชวนฉงนฉงายเรื่องหนึ่ง