ข้ามไปเนื้อหา

ผู้ใช้:เคน สองแคว/ทดลองเขียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
        จิตรกร บัวเนียม เป็นคนจงหวัดเพชรบุรี พ่อแม่เป็นชาวนา เริ่มเล่นดนตรีครั้งแรกโดยการสมัครเป็นนักดนตรีของโรงเรียนตำแหน่งทรัมเป็ต จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นแอ๊คคอร์เดี้ยน เมื่อจบม.6 จึงมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยมุ่งหวังที่จะเรียนที่วิทยาลัยเพาะช่าง ในสาขาศิลปะ แต่ชีวิตต้องเลิกล้มไป เพราะความไม่เป็นธรรมในสังคม จึงต้องกลับบ้านนอก และนี่คือจุดเริ่มต้นของจิตรกร บัวเนียมในอาชีพนักดนตรี


         หลังจากเดินทางกลับบ้านเกิด และก่อตั้งวงดนตรีร่วมกับเพื่อน ๆ อาทิเช่น ปัญญา ชูไพฑูรย์ (กังวานไพร ลูกเพชร) และวสันต์ จันทร์เปล่ง (รุ่งเพชร แหลมสิงห์) เป็นกองเชียร์รำวงอยู่สองสามปี จนเมื่อวันที่วงดนตรีของ "ครูสุรพล สมบัติเจริญ" เปิดการแสดงที่โรงภาพยนต์เฉลิมเพชร จังหวัดเพขรบุรี ... จิตรกร บัวเนียม จึงไปสมัครเป็นนักดนตรีประจำวง และได้มีการทดสอบความสามารถโดยให้ขึ้นไปเล่นดนตรีร่วมกับรุ่นพี่ในวันนั้นเลย ซึ่งฝีมือด้านดนตรีเป็นที่ชื่นชมของครูสุรพล และนักดนตรีรุ่นพี่เป็นอย่างมาก จึงได้ชวนเข้าร่วมวงดนตรีในคืนนั้นเป็นต้นมา

ความสามารถทางดนตรีของจิตรกร พัฒนาไปแบบก้าวกระโดด และเริ่มมีผลงานร่วมกับครูสุรพล ออกมาหลานเพลง เริ่มต้นจากการที่ครูสุรพล จะเรียกให้ไปนั่งฟังเพลงก่อนนักดนตรีคนอื่น ๆ เพื่อจะคิดหาท่อนอินโทร ท่อนโซโล่ และการกำหนดลูกเล่น และทิศทางของเพลงเพื่อที่จะนำไปใช้ในการบันทึกเสียง "ดำเนินจ๋า" เป็นเพลงหนึ่งของครูสุรพล ที่โด่งดังในขณะนั้น และเป็นบทเพลงแรกสำหรับจิตรกร บัวเนียม ที่โชว์ความสามารถในการเล่นแอ๊คคอร์เดี้ยนอย่างเต็มตัว (เล่นได้เหมือนกับต้นแบับที่นักดนตรีรุ่นพี่ที่ได้บันทึกเสัยงไว้) จิตรกร บัวเนียม มีผลงานที่ร่วมกับครูสุรพล หลายเพลง และเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมเช่น แฟนจ๋า, หัวใจว่าง, หัวใจเดาะ, แน่ข้างเดียว, เสียวใส้, ของแท้, ของปลอม, สนุกเกอร์ และอื่น ๆ จนถึงบทเพลงสุดท้านก่อนที่ครูสุรพล จะเสียชีวิตคือเพลง "16 ปีแห่งความหลัง"

       นอกจากผลงานที่ร่วมกับครูสุรพลแล้ว ยังมีอีกหลายบทเพลงที่จิตรกร แต่งให้กับนักร้องภายในวงดนตรีของครูสุรพล โดยบทเพลงแรกในชีวิตคือ ชาติเดียว-รักเดียว โดนมีก้องไพร ลูกเพชร เป็นผู้ขับร้อง, ขอโทษที และคนดีของแม่ เป็นอีก 2 บทเพลงที่ส่งให้ชื่อเสียงศรีไพร ลูกราชบุรี เป็นที่รู้จักมากขึ้น, เพลงเสียแล้วเสียไป เป็นบทเพลงที่ครูสุรพล แต่งไว้ได้เพีลง 1 ท่อน ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิจ จึงได้หยิบผลงานนี้มาแต่งเพิ่มจนจบ และให้กังวาลไพรเป็นผู้ขับร้อง รวมถึงบทเพลงไม่มีใครรักเธอเท่าฉัน, จดหมายขอเพลง และเพลงสอนน้อง ที่ทั้งสองพี่น้องละอองดาว - สกาวเดือนร้องคู่กัน จนได้รับรางวัลเป็นบทเพลงยอดเยี่ยมในการจัดงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทั่งไทยครั้งที่ 2

หลักจากการจากไปของครูสุรพล ลูกศิษย์ทุกคนพยายามจะสืบทอดเจตนารมณ์ของครูต่อไปโดยการตั้งวงดนตรีขึ้นใหม่ ใช้ชื่อว่า "ศิษย์สุรพล" เพีลง 2 ปี ก็ต้องยุบวงเหลือเพียงแต่ชื่อ และความทรงจำที่ดี หลังจากวงดนตรี "ศิษย์สุรพล" สลายตัวไปในที่สุดก็มาเป็นนักดนตรีอยู่กับวงเพลิน พรหมแดน อีกประมาณ 2 ปี ในช่วงนี้จิตรกร บัวเนียม คิดเสมอว่านี่อาจจะเป็นจุดอิ่มตัวแล้วของชีวิตนักดนตรี ที่ต้องตระเวณเดินสายแสดงดนตรีไปทั่วประเทศ จึงคิดอยากจะทำงานประจำให้เป็นที่เป็นทางเสียบ้าง จึงเริ่มทำงานเป็นพนักงานธนาคาร อยู่ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานควาย จิตรกร บัวเนียม คงจะเกิดมาเพื่อเป็นคนของสังคม มีหน้าที่แต่งเพลงให้ความสุขกับคนที่มีเพลงอยู่ในหัวใจ (โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่ง) ไม่นานก็ลาออกขากธนาคารฯ และกลับมาสู่เส้นทางดนตรี โดยมีอาจารย์มนต์ เมืองเหนือ เป็นผู้ผลักดัน และมอบหมายงานชิ้นสำคัญในด้านการเรียบเรียงดนตรีให้กับศิลปินเพลงลูกทุ่งที่โด่งดังที่สุกในขณะนั้นคือ ศรเพชร ศรสุพรรณ และสายัณห์ สัญญา บทเพลงที่ได้รับความนิยม และร้องกันติดปากทั่วบ้านทั่วเมือง เช่น เพลงใจจะขาด และเพลงหลงแก้มแดง ของศรเพชร ศรสุพรรณ เพลงเกลียดห้องเบอร์ห้า และสาวสองเมือง ขับร้องโดยสายัณห์ สัญญา ผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดจะเป็นเพลงที่แต่งเนื้อร้อง ทำนอง และเรียบเรียงเสียงประสานเองทั้งหมด ซึ่งในวงการเพลงคงมีไม่กี่คนที่มีความสามารถเช่นนี้ บทเพลงอมตะมากมายเช่น ที่รัก ... เรารักกันไม่ได้, คอยวันเธอใจเดียว, และสุดท้ายที่กรุงเทพฯ อายุของเพลงเหล่านี้ผ่านกาลเวลามากว่า 30 ปีแล้ว แต่ยังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และมีศิลปินรักร้องรุ่นใหม่ ๆ มาขอนำไปบันทึกเสียงอยู่มิเคยขาด โดยเฉพาะบทเพลงที่รัก ... เรารักกันไม่ได้ มีศิลปินลูกทุ่งนำมาขับร้องและบันทึกเสียงใหม่มากถึง 16 ครั้ง

         บางบทเพลง คำร้อง-ทำนอง แต่งโดยครูเพลงท่านอื่น โดยมีจิตรกร บัวเนียม ทำหน้าที่เรียบเรียงเสียงประสานก็ประสบความสำเร็จ ทำให้เพลงเหล่านั้นโด่งดังไปทั่วประเทศ เช่น รายงานหัวใจ และกราบเท้าย่าโม ร้องโดยสุนารี ราชสีมา ใจอ่อน ร้องโดยฝน ธนสุนทร วอนรักและเอาแน่ ร้องโดยยอดรัก สลักใจ รักน้องพร ร้องโดยสดใส ร่มโพธิ์ทอง ฝากใจใส่กระทง ร้องโดยสันติ ดวงสว่าง และอื่น ๆ อีกมากมาย