ข้ามไปเนื้อหา

ผู้ใช้:จิรนันธ์/กระบะทราย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วัดพระบาทเอวขัน บ้านนาคา เมืองโพราคม ประเทศลาว

โดย พระอาจารย์สาคร จิตฺตสาโร (วิ)

ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=342351

จากตำนานเรื่องเล่าขาลถึงวัดพระบาทแอวขันธ์ สู่ประวํติศาสตร์ความเป็นมาของวัดพระบาทเอวขันธ์มีเรื่องเล่าต่อต่อกันมาถึงภูเขาแห่งนี้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ 2 ตน และมีถํ้าอยู่หลายถํ้าในบริเวณภูเขา แห่งนี้ซํ่งตอนที่ข้าพเจ้าเป็นสามเณรอยู่นั้นได้มีพระอาจารย์ชื่อดังไปนั่งสมาธิปฎิบติธรรมกรรมฐาน จากเรื่องเล่าเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าพระโสมนัสโคดมกับพระอานนท์เถระ และยัก 2 ตน จริงหรือไม่ จริงไม่มีใครทราบเพียงแต่เป็นเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาของประเทศสาธรณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว[1]

ตามประวัติศาสตร์ เรื่องเล่ากันถึงวัดพระบาทเอวขันธ์[2] สมัยพุทธกาล (สมัยพระพุทธเจ้าโสมณโคดม) ณ ที่ตั้งนครหลวงเวียงจันทร์ความเป็นมาจองวัด พระบาทแอวขันธ์ ตามประวํติศาสตร์เป็นที่อยู่ของยักต์ 2 ตน คือสามีและภรรยา ตามเรื่องเล่ายักต์ตัวเมียอยู่ที่ ภูเขาป็จจุบันวัดพระบาทแอวขันธ์ ส่วนยักต์ตัวผู้ชื่ออาวยักขัง (ราชบัง) อยู่ที่เมืองป็ตตนคร (หนองโงม) ยักต์ 2 ตนนี้กินมนุษย์และสัตว์เป็นอาหารวันหนี้งยักตัวผู้ได้ออกไหหากินที่เมืองบัณตนคร (หนองโงม) ส่วนยัก ตัวเมียได้อยู่ที่ภูเขาแห่งนี้ตนเดียว และยักสองตนนี้ได้ทำบาปทำกรรมมานานมาแด้วถึงเวลาที่ยัก 2 ตนนี้ที่ จะต้องหยุดทำบาปกรรมได้แล้วและแล้ววันหนี้งพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับที่ภูเขาแห่งนี้กับพระอานนท์ตามเรื่องเล่าพระพุทธเจ้าไม่ ทราบว่าภูเขาแห่งนี้เป็นที่อยู่ของยักและไม่ทราบว่าเป็นเมืองของยัก 2 ตนมาก่อนจึงหยุดประทับที่ภูเขาแห่งนี พร้อมกับพระอานนท์และยักษ์ตัวเมียที่อยู่ที่ภูเขาแห่งนี้ได้เห็นมนุษย์ที่แปลกตาจึงคิดได้ว่าเราจะต้องกินสิ่งนั้นไห้ได้เพราะนั่นคือ อาหารของเราเมื่อยักได้ข้าไปใกล้ ๆ สิ่งนั้นเพื่อจะได้กินเป็นอาหารแต่พอเข้ามาใกล้ๆ ได้เกิดสิ่งมหัสจรรย์ กับยัก คือจิตรใจของยักนั้นได้เกิดอาการส่งสารกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำอย่างไรให้จิตรใจนั้นเข็มแข็งแต่ก็ทำ ไม่ได้ได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ และนั่งรอยักที่เป็นสามีกลับมาที่ไปหามนุษย์กินเป็นอาหารที่เมืองป็ณตนคร (หนอง โงม) ในขณะนั้นพระอานนท์ได้ปลอมตัวเป็นปลาหมอทองคำเข้าไปอยู่ในปากของยักตัวผู้!นขณะที่ยักได้ ม้วนปากเนืองจากไปกันมนุษย์มา(ไปล้างปากที่บ่อนั้า)ทันใดนั้นพระอานนท์ที่ปลอมเป็นปลาหมอทองคำ ได้ข้าไปอยู่ในปากยักอาวยักขังและยักษ์ได้รู้สึกว่ามีอะไรตกจากปากของตนจึงมองหาหาเท่าไรก็หาไม่เจอ ยักอยวักขังจึงเกิดอาการโมโหแล้วใช้ท้าวของตนควานเพื่อหาสิ่งที่หล่นจากปากตนให้ได้กวานเท่าไรก็หาไม่ เจอกวานจนเป็นแอ่งนั้าขนาดใหญ่ประมาณ (บันจุบันคือหนองโงม) และหลังจากนั้นได้เหอะกบสับไปหา ยักตัวเมียที่เป็นภรรยาที่อยู่ที่เอวขันธ์ด้วยความโมโหได้ตะโกนว่าใครมานั่งอยู่ที่นั่นแล้วทำไมไม่กินตนได้ ตัดสินใจจะกินพระพุทธเจ้ากับพระอานนท์ด้วยความโมโหแล้วพอได้เข้ามาใกล้ๆ พระพุทธเจ้ากับพระ อานนท์ได้เกิดอาการมหัสจรรห์ขื้นเหมือนกับภรรยาตนที่กินไม,ได้เพราะใจเกิดความสงสารใจอ่อนทำ เท่าไรจิตใจที่จะกินสิ่งตรงหน้าเป็นอาหารก็ทำไม่ได้ลักที หลังจากกินไม่ได้แล้วยักตัวตัวผู้ไดีไห้ภรรยาไป เอาขันธ์มาคารวะพระพุทธเจ้ายัก 2 ตน ได้ยอมแพ้พระพุทธเจ้า ส่วนพระอานนท์นั้นยักยังไม่ยอมแพ้ขอมาล้ กันอยู่ที่เชิงเขาล้าต่อล้กันบนยอดเขากลัวว่าภูเขาที่อาศัยอยู่นั้นจะทะลายลงมา ยักคิดว่าจะต้องกินพระ อานนท์ไห้ได้ได้มีการทายบัญหากันโดยการใช้มือตนเองปิดตาตนเองแล้วทายบัญหา โดยให้พระอานนท์ปิดถล่มจะทับเจ้ายักษ์ตายยักษ์ได้ยินเสียงพระอานนท์ดังนั้นยักษ์จึงเกิดอาการกลัวตายจึงรีบขื้นมาแล้วเหอะฃื้นไปอยู่บนฟ้าและพระอานนท์ก็ได้พูดขึ้นอีกว่าเจ้ายักถ้าเจ้าไม่ลงมาจากห้เาฟ้าจะถล่มทับยักษ์ตายยักไดํยนเสียงพระ อานนท์ดังนั้นจึงเกิดอาการกลัวตายขึ้นอีกครั้งจึงได้ลงมาอยู่ที่พระอานนท์

จากนั้นถึงคราวที่ยักษ์ต้องปิดตาตนเองแล้วทายปัญหากับพระอานนท์ พระอานนท์ได้ใช้ฤทธิ์เข้าไปอยู่ในผมของยักษ์ที่เปีนมวยผมและยักษ์ได้ตะโกนถามว่าท่านพระอานนท์อยู่ที่ไหนตามด้วยความโมโหพระอานนท์ได้ตอบว่าอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละไม่ได้ไปไหนไกลสักนิดเลยไม่ได้โกหกนะเมื่อยักษ์ได้ยิน ดังนั้น ยักษ์ได้เหาะเหินเดินอากาศหาพระอานนท์จนเหนื่อยหาเท่าไรก็หาไม่เจอคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าพระอานนท์นั้นแอบอยู่ที่ไหน ยักษ์ได้พูดว่ายอมยอมแล้วท่านอานนท์เราหาท่านไม่เจอ ถ้ายักษ์ยอมแพ้แล้วให้ยักษ์นิมิตบันได ทองคำ 3 ขั้น ขั้นที่ 1 อยู่ที่หน้าผาก ขั้นที่ 2 อยู่ที่ปาก ขั้นที่ 3 อยู่ที่ดิน และยักษ์พูดว่ายอมทำตามท่านเราทำบันไดให้ท่าน 3 ขั้น ก็ได้ขั้นที่หนื่งอยู่ที่หน้าผากพระอานนท์ได้ก้าวบันไดลงมาที่หน้าผากและขั้นต่อไป เป็นขั้นที่อยู่ตรงปากยักยักตนนี้คิดตั้งแต่ต้นแล้วจึงได้ทำบันไดขึ้หนื่งขั้นไว้ตรงปากของตนเองเพื่อที่จะกัน พระอานนท์ในขณะที่พระอานนท์ได้เดินถึงขั้นบันไดที่อยู่ตรงปากยักษ์นั้น ยักษ์ได้กลืนพระอานนท์ลงไปในท้องของยักษ์ในขณะที่พระอานนท์อยู่ในท้องยักษ์พระอานนท์ได้เดินจงกลมจนยักมีอาการเจ็บปวดท้องเจ็บปวด รวดร้าวไปทั้งตัวเจ็บปวดจนคิดอะไรไม่ออกและยักตนนั้นทนไม่ได้ได้ยอมอ้าปากแล้วพระอานนท์ได้เดิน ออกมาถึงปากยักยักได้เชิญพระอานนท์ลงไปขั้นที่ 3 ที่อยู่ที่พื้นดินยักษ์ได้ยอมแพ้อานนท์แล้ว

พระพุทธเจ้ารู้ด้วยญาณของพระองค์เองว่าพระอานนท์ต้องชนะยักษ์ตนนี้ พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาที่เชิงเขาที่พระอานนท์กับยักษ์ตนนั้นอยู่ ยักได้พูดว่าขอติดตามท่านไปด้วยไปเป็นลูกศิษย์รับใช้ท่านพระอานนท์ พูดว่าเจ้าไปไม่ได้เจ้าเป็นสัตวํไม่มีศีลไม่มีธรรมยักษ์ไปกับเราไม่ได้ในขณะนั้น พระพุทธเจ้าได็ยินฟังอยู่นิ่ง ๆ ถ้าจะไปกับเราต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยและถือศีล 5 เมื่อยักษ์ทำตามที่พระอานนท์บอกพระอานนท์ได้บอกต่อไปอีกว่าจะต้องถือศีล 8 ยักษ์ได้ปฏิบัติตามที่ประอานนท์บอกทุกประการยักษ์ได้ทำทุกอย่างเพื่อที่จะเป็นผู้ติดตามพระพุทธเจ้ากับพระอานนท์ และพระอานนท์ได้เข้าไปกราบพระพุทธเจ้าว่าขอให้พระพุทธเจ้า เหยียบลอยพระบาทของพระพุทธเจ้าให้ยักษ์ไว้กราบไหว้อยู่ที่เชิงเขาพระพุทธเจ้าได้ฟังพระอานนท์กล่าวดังนั้นได้ทำตามที่พระอานนท์กราบทูลพระพุทธเจ้าได้เหยียบรอยพระบาทไว้ให้ยักษ์กราบไหว้ และพระพุทธเจ้าได้ เทศนาให้ยักษ์ฟังว่าถ้าเราไม่เบียดเบียนผู้อื่นไม่ว่าสัตว์หรือมนุษย์เราจะมีความสุขสุขทั้งกายสุขทั้งใจ หลังจากนั้นพระพุทธเจ้ากับพระอานนท์ได้เสด็จออกจากที่เชิงเขานั้นแต่ไม่ได้บอกว่าพระพุทธเจ้ากลับอินเดียหรือไปประเทศใด ๆ[3]

วัดพระบาทเอวขันบ้านนาคา เมืองโพราคม ประเทศลาว
วัดพระบาทเอวขันบ้านนาคา เมืองโพราคม ประเทศลาว
วัดพระบาทเอวขันบ้านนาคา เมืองโพราคม ประเทศลาว
วัดพระบาทเอวขันบ้านนาคา เมืองโพราคม ประเทศลาว
วัดพระบาทเอวขันบ้านนาคา เมืองโพราคม ประเทศลาว
ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=342351
  1. ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=342351
  2. ที่มา http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta20.html
  3. ข้อมูลจากวัดพระบาทเอวขัน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว