ปลาอินทรีทะเลสาบเขมร
ปลาอินทรีทะเลสาบเขมร | |
---|---|
![]() | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Perciformes |
วงศ์: | Scombridae |
สกุล: | Scomberomorus |
สปีชีส์: | S. sinensis |
ชื่อทวินาม | |
Scomberomorus sinensis (Lacepède , 1801) | |
ชื่อพ้อง | |
|
ปลาอินทรีทะเลสาบเขมร[2] (อังกฤษ: Chinese seerfish, Chinese mackerel; เขมร: ត្រីស្បៃកា, ត្រីបីកា; ชื่อวิทยาศาสตร์: Scomberomorus sinensis) เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่งที่สามารถอาศัยในน้ำกร่อยหรือน้ำจืดได้ อยู่ในวงศ์ปลาอินทรี (Scombridae)
มีรูปร่างเพรียวยาว หัวแหลม ปากมีฟันแหลมคม ครีบหางเว้าลึก ครีบท้องและครีบหลังแหลมและมีรอยหยักไปจรดครีบหาง ชายครีบเป็นสีดำ ปลายครีบอกหรือครีบอกมนกลมไม่แหลม ลำตัวสีเทาเงินเหลือบเขียว ลำตัวไม่มีลวดลายหรือแต้มจุดเหมือนปลาอินทรีชนิดอื่น อาศัยอยู่ตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาแถบชายฝั่งแปซิฟิก, ญี่ปุ่น, จีน, เวียดนาม และพบบางส่วนเข้ามาอาศัยในแหล่งน้ำจืด ที่ปากแม่น้ำโขง และทะเลสาบเขมรด้วย โดยพบได้ตั้งแต่น้ำตกคอนพะเพ็งในลาวไปจนถึงจังหวัดกระแจะและพนมเปญในกัมพูชา ในประเทศไทยพบได้บ้างแถบจังหวัดจันทบุรี และมีการตกได้ที่เกาะราชาน้อย จังหวัดภูเก็ต เมื่อปลายเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 โดยนักตกปลานายอานนท์ แดงสวัสดิ์ น้ำหนักมากกว่า 72.5 กิโลกรัม[3] เป็นปลากินเนื้อที่ล่าเหยื่อเป็นอาหาร ซึ่งได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็ก [4]
มีความยาวได้ถึง 2.18 เมตร หนักได้ถึง 80 กิโลกรัม (หนักที่สุดพบ 131 กิโลกรัม เมื่อปี ค.ศ. 2006[5]) นับเป็นปลาอินทรีชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด[5][6] แต่มักสับสนกับปลาอินทรีญี่ปุ่น (S. niphonius) ที่พบในทะเลจีนใต้[1]
เป็นปลาเศรษฐกิจใช้เพื่อการบริโภค ตกเป็นเกมกีฬา และเลี้ยงเป็นปลาสวยงามด้วย
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 จาก IUCN
- ↑ "ขอดูรูปหน่อยค่ะ". siamensis.org. 28 October 2005. สืบค้นเมื่อ 30 May 2016.
- ↑ "ตะลึง!โคตรปลาอินทรียักษ์72.5โลฯตัวแรกในประเทศไทย (ประมวลภาพ-ชมคลิป)". แนวหน้า. 2018-03-25.
- ↑ เอกสารดาวน์โหลด
- ↑ 5.0 5.1 "Is it a Tuna or a Giant Mackerel?". igfa.org. สืบค้นเมื่อ 30 May 2016.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Japanese Spanish mackerel". kotobank.jp (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 31 May 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Scomberomorus sinensis ที่วิกิสปีชีส์