บาจาจ
บาจาจ (Bajaj Auto Limited) เป็นบริษัทจากประเทศอินเดียที่ผลิตรถจักรยานยนต์ รถสกูตเตอร์ และรถสามล้อ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Bajaj Group ก่อตั้งโดย Jamnalal Bajaj และ Rogen Frias ในนครรัฐ Rajasthan เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2488 ซึ่งปัจจุบันยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก อันดับ 2 ของประเทศอินเดีย และเป็นผู้ผลิตรถสามล้อรายใหญ่ที่สุดของโลก
![]() | |
ประเภท | สาธารณะ |
---|---|
ISIN | INE917I01010 ![]() |
อุตสาหกรรม | อุตสาหกรรมยานยนต์ |
ก่อตั้ง | 29 พฤศจิกายน ค.ศ.1945 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2488 |
ผู้ก่อตั้ง | Jamnalal Bajaj Rogen Frias |
สำนักงานใหญ่ | เมือง Pune, นครรัฐมหารัชตะ, ประเทศอินเดีย |
พื้นที่ให้บริการ | ทั่วโลก |
บุคลากรหลัก | Rajiv Bajaj (Chairman, MD & CEO) |
ผลผลิต | ![]() |
รายได้ | ![]() |
รายได้จากการดำเนินงาน | ![]() |
รายได้สุทธิ | ![]() |
สินทรัพย์ | ![]() |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | ![]() |
พนักงาน | 10,000 (2019)[1] |
บริษัทแม่ | Bajaj Group |
เว็บไซต์ | bajajauto.com globalbajaj.com |
ประวัติ[แก้]
ค.ศ.1945 / พ.ศ.2488[แก้]
บาจาจ ได้ก่อตั้งขึ้นในชื่อ M/s Bachraj Trading Corporation Private Limited โดยเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์และรถสามล้อในประเทศอินเดีย
ค.ศ.1959 / พ.ศ.2502[แก้]

บาจาจ ได้ขึ้นเครื่องหมายทะเบียนการค้าจากรัฐบาลอินเดีย ให้ผลิตรถรถจักรยานยนต์และรถสามล้อเอง และให้อนุญาตผลิตรถยี่ห้อเวสป้า จากบริษัทพิอักจีโอในอินเดียได้
ค.ศ.1960 / พ.ศ.2503[แก้]
บาจาจ ได้กลายเป็นบริษัทอย่างเป็นทางการ
ค.ศ.1984 / พ.ศ.2527[แก้]
บาจาจ ได้เซ็นสัญญาร่วมกับคาวาซากิ เพื่อขยายตลาดรถจักรยานยนต์และสินค้าของตัวเอง
ค.ศ.1986 / พ.ศ.2529[แก้]
บาจาจ ได้เพิ่มส่วนการตลาดของรถสกูตเตอร์ขึ้นมา
ช่วงยุคปี 2000 ตอนต้น[แก้]
บาจาจ ได้ซื้อบริษัท Tempo Firodia และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Bajaj Tempo โดยมีบริษัทเดมเลอร์-เบนซ์ ถือหุ้น 16% ของบริษัท Bajaj Tempo อยู่ แต่บริษัทเดมเลอร์-เบนซ์ได้ขายหุ้นทั้งหมดให้ Tempo Firodia ส่งผลทำให้เหลือเพียงชื่อ Bajaj เท่านั้น ซึ่งยังอยู่ภายใต้ของบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์
ค.ศ.2005 / พ.ศ.2548[แก้]
บาจาจ ได้ยุติการจำหน่ายยี่ห้อ ฟอร์ซ มอเตอร์ส (Force Motors) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายย่อยของบาจาจ
ค.ศ.2007 / พ.ศ.2550[แก้]
บาจาจ ของสาขาประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ซื้อหุ้น 14.5% ของเคทีเอ็ม
ค.ศ.2008 / พ.ศ.2551[แก้]
ในวันที่ 26 พฤษภาคม บาจาจ ได้แยกออกเป็น 3 บริษัทย่อย ได้แก่ Bajaj Finserv Limited (BFL), Bajaj Auto Ltd (BAL) และ Bajaj Holdings and Investment Ltd (BHIL)
ค.ศ.2017 / พ.ศ.2560[แก้]
บาจาจ และไทรอัมป์ ได้แบ่งปันเทคโนโลยีสำหรับรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง
บาจาจ และคาวาซากิ ได้ยุติสัญญาการขายร่วมกันในประเทศอินเดีย หลังจากจำหน่ายสินค้าของคาวาซากิให้ตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 / พ.ศ.2552 โดยบาจาจได้ไปดูแลการตลาดและการขายของเคทีเอ็มแทน
ค.ศ.2019 / พ.ศ.2562[แก้]
บาจาจ ได้ลงทุนไปประมาณ 8 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างยี่ห้อใหม่อย่าง ยูลู (Yulu) ซึ่งเจาะตลาดเกี่ยวกับจักรยานและรถสกูตเตอร์ไฟฟ้า
ผลิตภัณฑ์[แก้]
บาจาจได้จำหน่ายทั้งรถจักรยานยนต์ รถสกูตเตอร์ รถสามล้อ และรถยนต์ โดยในปี ค.ศ.2004 / พ.ศ.2547 บาจาจเป็นบริษัทที่ส่งออกรถมากที่สุดในประเทศอินเดีย
บาจาจเป็นเจ้าแรกของประเทศอินเดียที่ทำรถจักรยานยนต์สปอร์ตออกมาอย่างรุ่น Pulsar 150 และ Pulsar 180
ซึ่งมีรุ่นโมเดลต่างๆ ได้แก่ CT100 Platina, Discover, Pulsar, Avenger และ Dominar


ในช่วงปี ค.ศ.2012-2013 บาจาจขายรถจักรยานยนต์ไปได้ทั้งหมด 3.76 ล้านคัน ซึ่งเป็นอัตราส่วน 31% ของตลาดอินเดีย
รถสามล้อ[แก้]

บาจาจเป็นผู้ผลิตรถสามล้อที่ใหญ่ที่สุดของโลก และส่งออกเป็นอัตราส่วน 84% ของรถสามล้อทั้งหมดในประเทศอินเดีย ซึ่งในประเทศอินโดนีเซียได้บรรยายเกี่ยวกับรถสามล้อของบาจาจว่า "เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก" กลายเป็นภาพจำในประเทศอินโดนีเซียไปแล้วว่าบาจาจ ต้องนึกถึงรถสามล้อเป็นอันดับแรก
รถยนต์[แก้]
ในปี ค.ศ.2010 / พ.ศ.2553 บาจาจได้ร่วมกับเรโนลด์และนิสสันเพื่อลงทุนงบประมาณเกี่ยวกับรถยนต์ราคาประมาณ 2500 ดอลลาร์ ซึ่งต้องทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ได้ 30 กิโลเมตรต่อลิตร หรือปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซต์แค่ปริมาณ 100 กรัมต่อกิโลเมตร

ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ.2012 / พ.ศ.2555 บาจาจได้ปล่อยรุ่น Bajaj Qute (ชื่อเดิม Bajaj RE60) เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งจดทะเบียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศอินเดียว่าเป็น จักรยานสี่ล้อ โดยเจาะตลาดไปที่กลุ่มผู้ใช้รถสามล้อ ซึ่งต่อมาหลังจากการบริหารของ Rajiv Bajaj ได้พัฒนา Bajaj Qute ให้เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ความจุ 200 ซีซี ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 70 km/h (43 mph) อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 35 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซต์ปริมาณ 60 กรัมต่อกิโลเมตร
รถสกูตเตอร์ไฟฟ้า[แก้]
บาจาจได้เปิดตัวรุ่น Chetak สู่ประเทศอินเดีย เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2020 / พ.ศ.2563 ซึ่งวางแผนไว้ว่าจะผลิตรุ่นนี้ให้ได้ประมาณ 500,000 คันต่อปี สำหรับตลาดภายในประเทศและส่งออกทั่วโลก
รางวัล[แก้]
ค.ศ.2003 / พ.ศ.2546[แก้]
Bajaj Pulsar 180 DTS-i ได้รับรางวัล BBC World Wheels Viewers Choice Two Wheeler of the Year 2003
ค.ศ.2004 / พ.ศ.2547[แก้]
ได้รับรางวัล Bike Maker of the Year award ในงาน ICICI Bank Overdrive Awards 2004
ค.ศ.2006 / พ.ศ.2549[แก้]
ได้รับรางวัล Frost & Sullivan Super Platinum Award for manufacturing excellence in its Chakan Plant
ค.ศ.2008 / พ.ศ.2551[แก้]
Bajaj Pulsar 220 DTS-Fi ได้รับรางวัล Bike of the Year 2008 award โดยนิตยสารชื่อดังต่างๆ อย่าง Overdrive, Autocar, Business Standard Motoring และ Bike Top Gear
ค.ศ.2010 / พ.ศ.2553[แก้]
Bajaj Pulsar 135 LS ได้รับรางวัล Bike of the Year 2010 award จาก BBC Top Gear และ Bike India
ค.ศ.2012 / พ.ศ.2555[แก้]
The Forbes Global 2000 ให้บริษัทบาจาจอยู่ที่อันดับ 1416 ของโลก
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 "Bajaj Auto Ltd Annual Report 2022". Bajaj Auto Ltd. สืบค้นเมื่อ 20 October 2020.
เพิ่มเติม[แก้]
- ข้อมูลทางด้านธุรกิจของ Bajaj Auto: