นกโจรสลัด
Frigatebird ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยอีโอซีนตอนต้นถึงปัจจุบัน 50–presentMa | |
---|---|
นกโจรสลัดใหญ่ (F. minor) เพศผู้ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
ชั้น: | สัตว์ปีก Aves |
อันดับ: | Suliformes Suliformes |
วงศ์: | Fregatidae Fregatidae Degland & Gerbe, 1867 |
สกุล: | Fregata Fregata Lacépède, 1799 |
ชนิดต้นแบบ | |
Pelecanus aquilus (Ascension frigatebird) Linnaeus, 1758 | |
ชนิด | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ |
นกโจรสลัด หรือ นกฟรีเกต เป็นนกทะเลขนาดกลาง-ใหญ่ ที่อยู่ในวงศ์ Fregatidae มีเพียงสกุลเดียวเท่านั้น คือ Fregata ในอันดับ Pelecaniformes อันดับเดียวกันกับนกกระทุง
มีรูปร่างโดยรวม คือ มีปากยาวกวางหัวและเป็นรูปทรงกระบอก ปลายจะงอยปากทั้งสองเป็นขอบแนวสบเรียบ รูจมูกเล็กลักษณะเป็นรองยาว ถุงใต้คางเล็กแต่พองออกได้ ปากยาวมาก ปลายปากแหลม ขนปลายปากเส้นสุดท้ายหรือเส้นนอกสุดยาวที่สุด หางเป็นหางแบบเว้าลึก มีขนหาง 12 เส้น แข็งเล็กและสั้น ประมาณ 1 ใน 5 ของความยาวปาก นิ้วยาว โดยมีนิ้วที่ 3 ยาวที่สุด ปลายนิ้วเป็นเล็บยาว เล็บหยัก มีพังผืดนิ้วเป็นแบบตีนพัดเต็ม แต่มักมีขนาดเล็กและเชื่อมเฉพาะโคนนิ้ว ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะและสีสันแตกต่างกัน ทำรังเป็นกลุ่มตามพุ่มไม้เตี้ย หรือตามโขดหิน หรือพื้นทราย วางไข่เพียงครอกละ 1 ฟอง เปลือกไข่สีขาว จะช่วยกันกกไข่ทั้งตัวผู้และตัวเมีย ลูกนกแรกเกิดมีสภาพเป็นลูกอ่อนเดินไม่ได้ ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ลูกนกที่จะเริ่มออกมาจากรังเกาะกิ่งไม้ แต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของพ่อแม่อีกนานนับปี
พบกระจายพันธุ์อยู่ในทะเลเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก
นกโจรสลัดจัดเป็นนกที่บินได้ ที่เมื่อกางปีกออกแล้วถือว่าเป็นนกจำพวกหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพราะกางปีกออกแล้วจะมีความยาวจากปีกข้างหนึ่งไปจรดอีกข้างหนึ่งประมาณ 70-100 เซนติเมตร และสามารถบินอยู่บนอากาศได้เป็นเวลาหลายวัน โดยไม่ต้องลงพื้นดิน เป็นนกที่ทรงตัวได้ดี เนื่อวงจากปีกมีขนาดใหญ่และหางในการรับน้ำหนัก และทรงตัว
นกโจรสลัดเป็นนกที่กินเนื้อเป็นอาหาร มีพฤติกรรมชอบโฉบขโมยปลาจากนกอื่น เช่น นกนางนวลเป็นประจำ อันเป็นที่มาของชื่อเรียก แต่บางครั้งก็จะโฉบจับเหยื่อจากน้ำด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถที่จะดำน้ำได้ เป็นนกที่หากินในเวลากลางวัน และนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังกินอาหารอย่างอื่นได้ด้วย เช่น ลูกเต่าทะเลแรกฟัก เป็นต้น[1]
เป็นนกที่มีความแตกต่างระหว่างเพศผู้และเพศเมียอย่างชัดเจน เพศผู้เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะมีถุงใต้คางสีแดงสดเห็นชัดเจน จนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถุงนี้มีไว้เพื่ออวดเพศเมียในฤดูผสมพันธุ์ เพื่อดึงดูดความสนใจจากเพศเมีย โดยจะป่องหรือเป่าถุงนี้ให้พองขึ้น
นกโจรสลัดได้ถูกจำแนกออกเป็น 5 ชนิด ได้แก่ [2]
- นกโจรสลัดแม็กนิฟิเชี่ยน (Fregata magnificens)
- นกโจรสลัดเอสเซนเชี่ยน (Fregata aquila)
- นกโจรสลัดเกาะคริสต์มาส (Fregata andrewsi)
- นกโจรสลัดใหญ่ (Fregata minor)
- นกโจรสลัดเล็ก (Fregata ariel)
พบได้ในประเทศไทย 3 ชนิด คือ นกโจรสลัดเกาะคริสต์มาส, นกโจรสลัดใหญ่ และนกโจรสลัดเล็ก โดยจะพบแถบหมู่เกาะและจังหวัดในภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน เช่น อ่าวมาหยา หรือเกาะพีพี เป็นต้น นานครั้งจึงจะพบในแถบอ่าวไทย[3] [4][5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Frigate Bird, นิตยสารแม็ค 7 ปีที่ 14 ฉบับที่ 7 พฤศจิกายน 2537
- ↑ จาก ITIS.gov (อังกฤษ)
- ↑ นกโจรสลัด[ลิงก์เสีย]
- ↑ "นกโจรสลัด". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-20. สืบค้นเมื่อ 2012-02-27.
- ↑ Harrison, Peter; Peterson, Roger Tory (1991). Seabirds: A Complete Guide to the Seabirds of the World (Helm Identification Guides) . Christopher Helm Publishers Ltd. ISBN 071363510X.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Frigatebird videos, photos and sounds on the Internet Bird Collection