แผ่นจารึกร้องเรียนถึงเอยา-นาตซีร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จารึกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์บริติช

แผ่นจารึกร้องเรียนถึงเอยา-นาตซีร์ (อังกฤษ: complaint tablet to Ea-nāṣir; UET V 81)[1][2] เป็นแผ่นจารึกดินเหนียวที่ถูกส่งไปยังนครอูร์โบราณ เขียนขึ้นเมื่อประมาณ 1,750 ปีก่อนคริสต์ศักราช แผ่นจารึกนี้เป็นข้อความร้องเรียนถึงพ่อค้านามว่า เอยา-นาตซีร์ (Ea-nāṣir) จากลูกค้านามว่า นันนี (Nanni) เขียนด้วยอักษรรูปลิ่มเป็นภาษาแอกแคด ถือกันว่าแผ่นจารึกนี้เป็นการร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์บริติช[3] ในคริสต์ทศวรรษ 2020 เนื้อหาในแผ่นจารึก (และโดยเฉพาะเอยา-นาตซีร์) เป็นที่นิยมขึ้นมาในฐานะอินเทอร์เน็ตมีม[4][5][6]

แผ่นจารึกมีขนาดสูง 11.6 เซนติเมตร (4 916 นิ้ว) กว้าง 5 เซนติเมตร (1 1516 นิ้ว) และหนา 2.6 เซนติเมตร (1 นิ้ว) และเสียหายชำรุดไปบางส่วน[7]

เนื้อหา[แก้]

เอยา-นาตซีร์เดินทางไปยังดิลมุนเพื่อซื้อทองแดงกลับมาขายในเมโสโปเตเมีย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาตกลงขายแท่งทองแดงหล่อให้แก่นันนีซึ่งส่งคนรับใช้ไปพร้อมเงินเพื่อดำเนินการซื้อขาย[8] อย่างไรก็ตาม นันนีเห็นว่าสินค้าที่เขาได้รับนั้นมีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน[9] จึงให้คนรับใช้นำสินค้ากลับไปคืนหลายครั้ง แต่เอยา-นาตซีร์ก็ยังคงปฏิเสธที่จะเปลี่ยนสินค้าหรือคืนเงินให้แก่นันนี

นันนีจึงเขียนจดหมายอักษรรูปลิ่มส่งไปยังเอยา-นาตซีร์ โดยบันทึกข้อความร้องเรียนว่าเขาได้รับทองแดงที่มีคุณภาพไม่ตรงกับที่เอยา-นาตซีร์สัญญาไว้ ทั้งยังร้องเรียนว่าเอยา-นาตซีร์ปฏิบัติกับคนรับใช้ที่เขาส่งไปอย่างหยาบคาย และประกาศว่าจะไม่ยอมรับทองแดงคุณภาพต่ำจากเอยา-นาตซีร์อีกในอนาคต

การค้นพบ[แก้]

แผนผังภายในบ้านบาบิโลเนียเก่าหลังหนึ่งในบรรดาซากปรักหักพังที่อูร์ บ้านหลังนี้อาจเคยเป็นบ้านพักของเอยา-นาตซีร์

ผู้ค้นพบแผ่นจารึกนี้คือเซอร์เลเนิร์ด วุลลีย์ ซึ่งได้ครอบครองแผ่นจารึกนี้หลังค้นพบ เขาค้นพบแผ่นจารึกนี้ระหว่างที่เขานำการขุดค้นร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียกับพิพิธภัณฑ์บริติชในปี 1922 ถึง 1934 ในนครอูร์ของชาวซูเมอร์[7][10]

แผ่นจารึกชิ้นอื่น[แก้]

ในซากปรักหักพังที่เชื่อกันว่าเป็นบ้านพักของเอยา-นาตซีร์ ยังมีการค้นพบแผ่นจารึกชิ้นอื่น ๆ อีก ซึ่งรวมถึงแผ่นจารึกจากชายนามว่า อาร์บีตูรัม (Arbituram) ซึ่งร้องเรียนว่าเขายังไม่ได้รับทองแดงที่สั่งซื้อไป ในขณะที่แผ่นจารึกจากชายอีกคนหนึ่งบ่นว่าเขาเอือมระอากับทองแดงคุณภาพต่ำจากเอยา-นาตซีร์เต็มที[11][12]

สิ่งสืบเนื่อง[แก้]

แผ่นจารึกข้อความร้องเรียนนี้กลายมาเป็นอินเทอร์เน็ตมีมเนื่องจากดูเหมือนว่ามันมีลักษณะผิดยุคผิดสมัย ฟอบส์ ระบุว่าเนื้อความมีความคล้ายคลึงกับคำร้องเรียนการบริการที่เลวร้ายจำนวนมากในสมัยปัจจุบัน[4][13]

บันทึกสถิติโลกกินเนสส์รับรองให้แผ่นจารึกนี้เป็น "คำร้องเรียนจากลูกค้าที่เก่าแก่ที่สุด" (Oldest Customer Complaint)[14]

อ้างอิง[แก้]

  1. Figulla, H.H.; Martin, W.J., บ.ก. (1953). Letters and Business Documents of the Old Babylonian Period. Ur Excavations: Texts. Vol. V. London, UK: British Museum Press. p. 5, Pl. XIV.
  2. E Frahm. "Commentary on Uncertain (CCP 7.2.u18)". hdl:10079/7wm382r.แม่แบบ:Relevance inline
  3. Hyken, Shep (23 เมษายน 2015). "Oldest customer service complaint discovered: A lesson from ancient Babylon". Forbes. สืบค้นเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2017.
  4. 4.0 4.1 "The Legend of Ea-Nāsir: how a Babylonian businessman became an internet meme". Institute of Archaeology. 8 December 2022.
  5. Kern, Emily (3 November 2021). "The Radical Promise of Human History". Boston Review.
  6. Brinkley, Liv (17 March 2022). "The World's Oldest Customer Complaint Is Almost 4000 Years Old". Grunge.
  7. 7.0 7.1 "tablet". British Museum. object W 1953-0411-71.
  8. Crawford, Harriet (July 2015). "Sir Leonard Woolley and Ur of the Chaldees". The Bible and Interpretation. University of Arizona.
  9. Oppenheim (1967), pp. 82–83.
  10. "Sir Leonard Woolley". Biography. British Museum. Collections online.
  11. Killgrove, Kristina (11 พฤษภาคม 2018). "Meet the worst businessman of the 18th century BCE". Forbes. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2020.
  12. Leemans (1960), pp. 48–54.
  13. Killgrove, Kristina. "Meet The Worst Businessman Of The 18th Century BC". Forbes (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-04-05.
  14. "Complaint Tablet To Ea-Nasir - World's Oldest Complaint Letter". Joy of Museums Virtual Tours (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-05-30. สืบค้นเมื่อ 2023-04-05.

อ่านเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]