ข้ามไปเนื้อหา

คิด คิด ต้องสู้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คิด คิด ต้องสู้
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับจอห์น จี. อาวิลด์เซน
เขียนบทรอเบิร์ต มาร์ก คาเมน
อำนวยการสร้างเจอรี ไวน์ทรอบ
นักแสดงนำ
กำกับภาพเจมส์ เครบ
ตัดต่อ
ดนตรีประกอบบิล คอนติ
บริษัทผู้สร้าง
เดลไฟทูโปรดักชันส์
เจอรี ไวน์ทรอบ โปรดักชันส์
ผู้จัดจำหน่ายโคลัมเบียพิกเจอร์ส
วันฉาย
  • 22 มิถุนายน ค.ศ. 1984 (1984-06-22)
ความยาว127 นาที[1]
ประเทศสหรัฐ
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]
ทำเงิน91.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3]

คิด คิด ต้องสู้ (อังกฤษ: The Karate Kid) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวดรามาและศิลปะการต่อสู้ ฉายเมื่อปี ค.ศ. 1984 เขียนบทโดย รอเบิร์ต มาร์ก คาเมน กำกับโดย จอห์น จี. อาวิลด์เซน และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในแฟรนไชส์ เดอะคาราเต้คิด แสดงนำโดย ราล์ฟ มาชิโอ, โนริยูกิ "แพต" โมริตะและเอลิซาเบธ ชู ร่วมกับ วิลเลียม แซบคา, มาร์ติน โคฟและแรนดี เฮลเลอร์ ในบทบาทสมทบ คิด คิด ต้องสู้ เล่าเรื่องราวของ แดเนียล ลารุสโซ (มาชิโอ) ที่ได้รับการฝึกฝนคาราเต้จาก คุณมิยากิ (โมริตะ) เพื่อช่วยปกป้องตัวเองและใช้ในการแข่งขันกับอันธพาลของเขา หนึ่งในนั้นคือ จอห์นนี ลอว์เลนซ์ (แซบคา) แฟนเก่าของ อาลี มิลส์ (ชู)

คาเมนได้รับการติดต่อจาก โคลัมเบียพิกเจอร์ส ให้เขียนบทภาพยนตร์ที่คล้ายกับ ร็อคกี้ (1976) ผลงานที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ของอาวิลด์เซน คาเมนดึงแรงบันดาลใจจากชีวิตของเขาเองเมื่อเขียนภาพยนตร์เรื่องนี้ หลังอาวิลด์เซนเซ็นสัญญาเป็นผู้กำกับ[4] เป็นผลให้เขายังคงมีความคิดเห็นที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดงและยืนยันให้เพื่อให้โมริตะรวมอยู่ด้วย[5] การเตรียมงานสร้างภาพยนตร์เริ่มต้นทันทีหลังการแก้ไขบทภาพยนตร์ครั้งสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์และการคัดเลือกนัดแสดงจัดขึ้นระหว่างเดือนเมษายนและมิถุนายน ค.ศ. 1983 การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1983 ที่ลอสแอนเจลิส และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1983 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการแสดงนำครั้งที่สองของมาชิโอต่อจาก ดิ เอ้าท์ไซเดอร์ แก๊งทรนง (1983)[6]

คิด คิด ต้องสู้ ฉายในโรงภาพยนตร์สหรัฐเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1984 ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ โดยชมในเรื่องฉากโลดโผน, บทภาพยนตร์, โครงเรื่อง, การแสดงของนักแสดงและเพลง ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยทำเงินมากกว่า 91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั่วโลก ทำให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในปี ค.ศ. 1984 และเป็นภาพยนตร์กลับมาประสบความสำเร็จในภายหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของฮอลลีวูด ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้อาชีพการแสดงของโมริตะกลับมาฟื้นคืนอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้เขาเคยแสดงแต่บทบาทตลกเป็นส่วนใหญ่และทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม[7] ภาพยนตร์กลายเป็นต้นกำเนิดของสื่อแฟรนไชส์และได้รับการยกย่องว่าทำให้คาราเต้ในสหรัฐเป็นที่นิยม[8][9]

เนื้อเรื่องย่อ

[แก้]

เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าแดเนียล (ราล์ฟ มัชโช่) ได้ย้ายมาสู่ลอสแอนเจลิส และเนื่องด้วยเป็นเด็กใหม่จึงถูกรังแกอยู่เสมอ กระทั่งแดเนียลได้มารู้จักกับอดีตแฟนสาวของหัวหน้าแก๊งคอบบร้าส์จนมีเรื่องวิวาทกัน แดเนียลจึงตัดสินใจขอร้องมิยากิ (แพท มอริตะ) ผู้เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวได้สอนให้เขาได้รู้ซึ้งถึงแก่นแท้ของวิชาคาราเต้ในเวลาต่อมา

นักแสดง

[แก้]
ราล์ฟ มาชิโอ ในปี ค.ศ. 2018 (ซ้าย) และ วิลเลียม แซบคา ในปี ค.ศ. 2019

อ้างอิง

[แก้]
  1. "THE KARATE KID (PG)". British Board of Film Classification. July 2, 1984. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 5, 2016. สืบค้นเมื่อ June 8, 2015.
  2. Straight to DVD: Original "Karate Kid" on Blu-ray. เก็บถาวร กุมภาพันธ์ 5, 2018 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Salon.com. Retrieved June 14, 2013.
  3. "The Karate Kid". Box Office Mojo. IMDb. สืบค้นเมื่อ January 16, 2021.
  4. Prewitt, Alex (May 1, 2018). "The Crane Kick Is Bogus: A Karate Kid Oral History". Sports Illustrated. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2019. สืบค้นเมื่อ May 13, 2019.
  5. "Karate Kid Q&A W/Director John G Avildsen & Cast Part 1". YouTube. H Dellamorte. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 11:47. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 6, 2017. สืบค้นเมื่อ March 4, 2017.
  6. "Ralph Macchio". Biography (TV program). August 16, 2019. สืบค้นเมื่อ November 13, 2019.
  7. Thurber, Jon (November 26, 2005). "Pat Morita, 73; Actor Starred in 'Karate Kid' Movie Series". The Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 10, 2010. สืบค้นเมื่อ August 25, 2010.
  8. Powell, Larry; Garrett, Tom (December 20, 2013). The Films of John G. Avildsen: Rocky, The Karate Kid and Other Underdogs. McFarland. ISBN 9780786490479. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 3, 2021. สืบค้นเมื่อ December 28, 2017 – โดยทาง Google Books.
  9. M.D, Lyle J. Micheli (November 17, 2010). Encyclopedia of Sports Medicine. SAGE Publications. ISBN 9781506320106. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 3, 2021. สืบค้นเมื่อ December 28, 2017 – โดยทาง Google Books.

ดูเพิ่ม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]